บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีกเอ กลุ่มที่หนึ่ง นัดที่สอง เกมคู่บิ๊กแมตช์ เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติฮอลแลนด์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “อัซซูรี่” ทีมชาติอิตาลี โดยทั้งสองทีมจะลงสนามแข่งขันกันในช่วงดึกของคืนวันจันทร์ที่ 7 กันยายน เวลา 01.45 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันอังคารที่ 8 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
เจ้าถิ่น “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่คุมทีมโดยกุนซือขัดตาทัพอย่าง ดไวท์ โลเดเวเกส ออกสตาร์ทรายการนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังประเดิมด้วยการเก็บ 3 คะแนนเต็ม จากการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ทีมชาติโปแลนด์ มาแบบหวุดหวิด 1-0 สามารถทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงเดี่ยวอยู่ในเวลานี่้ โดยทัพอัศวินสีส้มชุดนี้ถือเป็นยุคสมัยที่มีผู้เล่นผสมผสานกันได้่อย่างลงตัวระหว่างแข้งมากประการณ์อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, เมมฟิส เดอปาย, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับแข้งวัยรุ่นที่ฟอร์มกำลังพุ่งแรงขึ้นมาอย่าง สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, เฟรงกี้ เดอ ยอง, มัตไธจ์ส เดอ ลิกท์ แต่ปัญหาเดียวของพวกเขาคือยังไม่สามารถหากลางหน้าตัวเป้ามาจบสกอร์ได้ ทำให้เกมรุกต้องใช้โอกาสฉาบฉวยเข้าทำประตู สำหรับความพร้อมเกมนี้บรรดาแข้งตัวหลังจากเกมแรกยังสามารถลงสนามช่วยทีมกันได้ครบทุกคนอีกครั้ง
ทางด้านทีมเยือน “อัซซูรี่” ทีมชาติอิตาลี ภายใต้การนำทัพของผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มันชินี่ พาทีมทำผลงานประเดิมสนามเกมแรกของรายการนี้ได้ไม่ค่อยน่าประทับใจนักหลังทำได้แค่เปิดบ้านไล่ตีเสมอ ทีมชาติบอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวีนา 1-1 สำหรับขุมกำลังของทัพอัซซูรีในทัวร์นาเมนต์นี้แทบไม่มีแข้งที่เรียกได้ว่าเป็นระดับเวิล์ดคลาสเลย นักเตะตัวเก่งของทีมส่วนใหญ่ล้วนเป็นแข้งที่เข้าสู่ช่วงปลายทางของการค้าแข้งทั้งสิ้น แนวรับยังต้องหวังพึ่ง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ แข้งวัย 36 ปี ส่วนการจบสกอร์ยังต้องไปหวังพึ่งความเฉียบคมของ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ดาวยิงวัย 30 ปี ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงกับต้นสังกัด ลาซิโอ เพิ่งคว้ารางวัลดาวซัลโวยุโรปมาในซีซั่นล่าสุด อย่างไรก็ตามพวกเขามีแข้งอายุน้อยที่รอวันขึ้นมาแจ้งเกิดเต็มตัวอย่าง นิโคโล่ ซานิโอโล่ มิดฟิลด์ตัวรุกจากสโมสรโรม่าที่น่าจับตามองอยู่เช่นกัน ด้านความพร้อมของทีมก่อนลงสนามเกมนี้ ยังไม่มีรายงานออกมาว่ามีแข้งคนใดมีปัญหาอาการบาดเจ็บ หรือโดนแบนมาจากเกมนัดแรก ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมรบเต็มสูบ
วิเคราะห์ก่อนเกม ผลงานการเจอกันของทั้งคู่ 6 เกมหลังสุด สถิติถือว่าค่อนข้างจะสูสีกัน โดยเป็นฝ่ายทีมชาติอิตาลีที่เหนือกว่าอยู่นิดหน่อยเก็บชัยมาได้ 2 เกม แพ้ 1 เกม และเสมอกันอีก 3 เกม แต่ส่วนใหญ่ผลที่ออกมาด้วยจะเป็นสกอร์ที่เบียดเสียดสูสีกันมาก ซึ่งเกมนี้ก็มองว่าจะไม่ต่างกัน โดยเกมฟอร์มการเล่นในเกมแรกของทั้งคู่ดูจะยังไม่ค่อยเข้าที่กันเท่าไหร่นัก ฝั่งทัพอัศวินสีส้ม มีแนวรุกที่วูบวาบก็จริง แต่จุดอ่อนสำคัญเลยคือการขาดศูนย์หน้าประเภทโป้งเดียวปิดบัญชี เกมนี้การมาเจอกับทีมชาติที่ไม่ว่าในยุคสมัยในก็ได้ชื่อว่ามีแท็ตติกเกมรับที่เขี้ยวลากดิน ต้องออกแรงเหนื่อยสุดๆ แน่นอนหากหวังจะพังตาข่ายให้ได้ ทางทัพอัซซูรีชุดนี้อย่างที่รู้กันว่าไม่มีผู้เล่นที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็นระดับเวิล์ดคลาสเลย ซึ่งแตกต่างจากยุคสมัยก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่จะได้เปรียบที่ตัวกุนซือโปรไฟล์ดีกว่าอยู่พอสมควร แน่นอนว่าเกมการแข่งขันระดับนี้คาดเดาผลได้ยากมากมีโอกาสเกิดได้ทุกอย่าง เชื่อว่าหากทีมไหนเป็นฝ่ายยิงประตูออกนำไปได้ก่อนก็มีโอกาสสูงมากที่จะเก็บ 3 แต้มเต็ม แต่เชื่อว่าการมาเยือนของทีมชาติอิตาลีครั้งนี้จะมาด้วยความรัดกุม ทำให้คู่นี้น่าจะจบลงด้วยการแบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติฮอลแลนด์ (4-3-3) : แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น (GK) – เดนเซล ดัมฟรีส์ , ดาลีย์ บลินด์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โยเอล เฟลท์มัน – ดอนนี่ วาน เดอ บีค , แฟร้งกี้ เดอ ยอง, จอร์จินิโอ ไวจ์นาดุม – เมมฟิส เดอปาย, ควินซี่ โปรเมส, สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น
ทีมชาติอิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (GK) – อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เลโอนาร์โด้ สปินัซโซล่า – สเตฟาโน่ เซนซี่, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่, นิโคโล่ บาเรลล่า – เฟเดริโก้ เชียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่
ผลสกอร์ที่คาด : ทีมชาติฮอลแลนด์ 1 – 1 ทีมชาติอิตาลี