บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่สองตามตารางแข่งขันคู่ที่สามของวันเสาร์ เป็นการพบกันระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะลงประเดิมสนามเกมนัดนี้เป็นเกมแรก ต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ โดยทั้งสองทีมจะลงฟาดแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ที่ 19 กันยายน เวลา 23.30 น. ที่โรงละครแห่งความฝัน สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าบ้าน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ “เฮียยิ้ม” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตำนานดาวยิงซูเปอร์ซับเบอร์หนึ่งของสโมสร ปีที่แล้วพาทีมจบในอันดับที่ 3 ด้วยการเร่งเครื่องช่วงท้ายซีซั่น คว้าโควต้าไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ โปรเจ็คท์การทำทีมในฤดูกาลนี้มีแนวทางชัดเจน คือ ยูไนเต็ดส์ รีบิ้วท์ เป็นการเลือกซื้อตัวผู้เล่นเข้ามาเสริมทีมตามสเปคที่โค้ชต้องการ เน้นหนักไปที่เรื่องอายุการใช้งานที่ต้องเล่นได้อีกนาน ท้ายที่สุด ณ ปัจจุบันเลยได้ตัวใหม่มาเพียงรายเดียวนั่นคือ ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค มิดฟิลด์สาระพัดประโยชน์จาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ส่วนการปล่อยผู้เล่นออกไปที่น่าสนใจมีเพียง อเล็กซิส ซานเชซ ที่ขายขาดให้กับ อินเตอร์ มิลาน และ ทาฮิธ ชอง ที่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นเกมอุ่นเครื่องที่บุกพ่าย “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า แบบเสียท่า 0-1 สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว เหลือแค่รอเช็คความฟิตขั้นสุดท้ายของ ปอล ป็อกบา กองกลางเจ้าปัญหาที่เพิ่งหายจากการติดเชื้อโควิด-19 และ ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายตัวหลักว่าจะลงเล่นเต็มเวลาได้หรือไม่? นอกเหนือจากรายชื่อที่กล่าวมาข้างต้นไร้ปัญหาใดๆ พร้อมลงช่วยทีมได้หมดทุกคน นำทัพมาโดย บรูโน่ แฟร์นานเดส เพลย์เมคเกอร์เดอะแบกที่เป็นความหวังสูงสุดของทีมชั่วโมงนี้
ฝั่งทีมเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ลูกทีมของขรัวเฒ่า รอย ฮอดจ์สัน ที่นำทีมจบในอันดับที่ 14 ในซีซั่นก่อน ไม่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นแบบเหนื่อยหน่ายเหมือนในอดีตเพราะช่วงต้นฤดูกาลโกยแต้มตุนไว้ได้เยอะพอตัว โดยกุนซือทาถูมีแนวทางการเล่นแบบชัดเจน คือการเน้นเกมรับให้เหนียวแน่นที่สุดแล้วอาศัยจังหวะฉาบฉวยในการเล่นเกมเคาน์เตอร์ แอทแทค โจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นแนวรุกที่มีฝีเท้าจัดจ้าน การเสริมทัพที่น่าสนใจปีนี้เป็นการดึงตัว เอเบเรชี่ เอเซ่ ปีกดาวรุ่ง, นาธาน เฟอร์กูสัน แบ็คอนาคตไกล และ มิชี่ บาตชูอายี่ ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยม มาเติมความแข็งแกร่ง แต่ยังไม่มีการปล่อยผู้เล่นหน้าเดิมๆ ออกไปแม้แต่รายเดียวเพราะมีขนาดทีมที่เล็กอยู่แล้ว ด้านการลงเล่นนัดเปิดสนามเกมลีกนั้นเชือด “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ในรังของตัวเองแบบหวุดหวิด 1-0 และการลงสนามนัดล่าสุดช่วงกลางสัปดาห์ในศึก อีเอฟแอล คัพ นั้นบุกเสมอ “เดอะ เชอร์รี่ส์” บอร์นมัธ แบบไร้สกอร์ และพ่ายในการดวลจุดโทษแบบน่าเสียดาย 10 ต่อ 11 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์พร้อมสรรพไร้ตัวผู้เล่นบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว ทุกคนฟิตสมบูรณ์พร้อมลงช่วยทีมในเกมนี้ได้ทั้งหมดนำทัพมาโดย วิลฟรีด ซาฮา แนวรุกคนสำคัญที่กำลังเล่นได้อย่างเข้าฝัก
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าพอสมควรด้วยผลงานชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด แม้ว่าในเกมอุ่นเครื่อง ปีศาจแดง จะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ แต่ถ้าได้ดูรูปเกมจริงๆ จะเห็นได้ว่าครองเกมได้เหนือกว่า แอสตัน วิลล่า เสียอีกเพียงแต่ใช้โอกาสเปลืองอย่างน่าเกลียด แถมผู้เล่นที่ยืนคุมแนวรับก็เป็นชุดผสมที่เล่นกันแบบขาดความเข้าใจเลยทำให้เกิดความขาดๆ เกินๆ ไม่ลงตัว ซึ่งแน่นอนว่าเกมนี้เจ้าถิ่นจะปรับเปลี่ยนมาใช้ผู้เล่นตัวหลักแบบเต็มสูบที่มี บรูโน่ คอยป้อนบอลให้แนวรุกฝีเท้าจัดในแดนบนย่อมทำให้ทีมกลับมามีความน่ากลัวเหมือนที่เห็นในปีก่อน เหลือลุ้นแค่ว่าแนวรุกแดนบนจะยิงทิ้งยิงขว้างกันเองรึเปล่าเท่านั้น ส่วนทาง คริสตัล พาเลซ คงมาในสไตล์ที่ตัวเองถนัด คือ เน้นเกมรับให้เหนียวแน่นขอไม่แพ้เอาไว้ก่อน แล้วรอลุ้นในจังหวะสวนกลับว่าจะพลิกสถานการณ์ยิงประตูช็อคเจ้าบ้านได้หรือไม่? ดังนั้นเมื่อวัดองค์ประกอบของแต่ละทีมแล้วยังเชื่อว่า ปีศาจแดง ยังเหนือกว่าอยู่พอสมควร และมีสิทธิ์สูงที่จะเก็บชัยในถิ่นได้ในเกมนี้ แต่สกอร์ที่ออกมาคงไม่ขาดลอยเนื่องจากรูปแบบการเล่นเกมบุกยังดูไม่ลงตัวเท่าไหร่นัก
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (GK) – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดลอฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – ปอล ป็อกบา, สกอตต์ แมคโทมิเนย์ – แดเนียล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล
คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : บิเซนเต้ ไกวต้า (GK) – โจเอล วอร์ด, สกอตต์ แดนน์, ชีคคู คูยาเต้, ไทริค มิตเชลล์ – แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เจฟฟรีย์ ชลุปป์ – จอร์แดน อายิว, วิลฟรีด ซาฮา
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 1 คริสตัล พาเลซ