บทวิเคราะห์ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก เกมนัดตกค้าง เป็นการดวลแข้งกันระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีไทยลีก เปิดรังเหย้า ช้าง อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ “ม้านิลลำพอง” ระยอง เอฟซี ทีมบ๊วยของลีก โดยเกมนี้ขะลงสนามทำการแข่งขันกันในช่วงเย็นของวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น. ที่จังหวัดบุรีรัมย์
“หากสนใจบทวิเคราะห์คู่อื่นเพิ่มเติม ทุกท่านสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ 168kick.com”
เจ้าถิ่น “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้ไม่เหลือทรงทีมมหาอำนาจของลีกเลย ต้องหล่นลงมาอยู่ในโซนครึ่งล่างของตาราง ทำให้บอร์ดบริหารได้ตัดสินใจขอแยกทางกับ โบซิดาร์ บันโดวิช และได้นำกุนซือที่เคยพาทีมรุ่งเรืองในอดีตอย่าง อเล็กซานเดร์ กาม่า กลับมาบัญชาการทัพอีกครั้ง แต่กระนั้นการคุมทัพครั้งนี้ดูจะไม่ง่ายสำหรับเทรนเนอร์ชาวบราซิลเท่าไหร่นัก เมื่อ 2 เกมที่ได้คุมทัพอย่างเป็นทางการยังไม่สามารถเก็บชัยได้เลย ประเดิมด้วยการเสมอกับ “ช้างขาวจ้าวเกาะ” ตราด เอฟซี 2-2 ก่อนที่จะมาพ่ายให้กับอริเก่า “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-3 ในเกมล่าสุด ทำให้ ณ เวลานี้ทัพปราสามสายฟ้า เก็บมาได้เพียง 11 คะแนนเท่านั้นจาก 10 เกมที่ลงสนาม ส่งผลให้ทีมรั้งอยู่อันดับที่ 11 ของตารางคะแนน ทางด้านความพร้อมล่าสุดของทีมก่อนจะลงสนามเกมนี้มีข่าวดีเมื่อไม่มีแข้งตัวหลักคนใดติดปัญหาเจ็บป่วย หรือโดนแบนเลยแม้แต่รายเดียว นำทัพมาโดย สุภโชค สารชาติ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทย ที่ช่วยทีมซัดไปแล้ว 4 ประตูในฤดูกาลนี้
ฝั่งทีมเยือน “ม้านิลลำพอง” ระยอง เอฟซี น้องใหม่ของลีก ภายใต้การนำทัพของ อาร์ตูร์ แบร์นาร์เดส เทรนเนอร์ชาวบราซิลวัย 65 ปี เป็นทีมตัวเต็งอันดับหนึ่งเลยที่มีโอกาสตกชั้นในฤดูกาลนี้ ด้วยทีมที่กำลังมีปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนักจนต้องหากู้เงินเพื่อมาจ่ายใช้จ่ายในสโมสร ทางด้านผลงานในสนามก็อาการหนักไม่แพ้กันเมื่อขณะนี้พวกเขาเก็บมาได้เพียง 3 คะแนนเท่านั้นจากการลงสนาม 10 นัดที่ผ่านมา แน่นอนว่าด้วยคะแนนอันน้อยนิดที่คว้ามาได้ทำให้พวกเขาหล่นลงมาจมเป็นบ๊วยของลีกอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามผลงานการลงสนามในเกมนัดล่าสุดน่าจะสร้างขวัญกำลังใจให้ทีมได้บ้าง เมื่อพวกเขาสามารถสัมผัสรสชาติแห่งชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลได้สำเร็จด้วยการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “ช้างขาวเจ้าเกาะ” ตราด เอฟซี ได้แบบหวุดหวิด 2-1 สำหรับในเรื่องความพร้อมล่าสุดของทัพม้านิลลำพองมาด้วยขุมกำลังที่เต็มพิกัดเช่นกัน นำทัพมาโดย อาดัลกิโซ เนโต้ ปีกชาวบราซิลตัวเก่งที่เพิ่งรับบทฮีโร่เหมายิง 2 ประตูมาในเกมนัดล่าสุด
วิเคราะห์ก่อนเกม ทัพปราสายฟ้าฤดูกาลนี้มีปัญหาให้ต้องไปปรับแก้อีกหลายจุด โดยหลังจากที่ได้นายใหญ่คนใหม่เข้ามาคุมทีมดูพลังเกมรุกของพวกเขาเล่นกันได้อย่างดุดันขึ้นมา แต่ปัญหาหลักที่ทีมยังคงแก้ไม่ตก และเทียบกับทีมหัวตารางในเวลานี้ไม่ได้เลยคือเกมรับที่มีรอยรั่วให้เจาะอยู่หลายจุด 2 เกมที่ กาม่า เข้ามาคุมทัพโดนคู่แข่งถลุงไปถึง 5 ประตู ด้านผู้มาเยือนแม้ล่าสุดจะคว้าชัยมาได้ แต่ผลงานของทีมโดยรวมยังมองไม่เห็นจุดเด่นอะไรของทีมเลย แนวรุกก็ยิงได้น้อยที่สุดมนลีกเวลานี้ซัดไปได้เพียง 6 ประตูเท่านั้นจาก 10 เกม ส่วนเกมรับก็ไม่ได้เป็นทีมที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด เมื่อเสียไปแล้วถึง 24 ประตู(มากสุดในลีก) เกมนี้สิ่งที่ดีขึ้นมากกว่าเดิมจะเป็นความมั่นใจของทีมที่เพิ่งเก็บชัยนัดแรกมาได้แบบหมาดๆ ผิดกับ บุรีรัมย์ ที่ดูจะเล่นกดดันตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว ด้านรูปเกมยังเชื่อว่าเจ้าถิ่นจะพยายามโหมบุกเข้าใส่ตามสไตล์ ส่วนฝั่งทีมเยือนก็ตั้งรับรอสวนกลับตามทรงทีม ซึ่งด้วยคุณภาพของผู้เล่นเรียกว่ายังต่างกันอยู่หลายเสาไฟฟ่า จึงคิดว่าทัพม้านิลลำพองจะต้านทานความแกร่งของขุนพลเซาะกราวไม่ไหวจนพ่ายแพ้ไปในท้ายที่สุด
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3-4-3) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ, เรนาโต้ เคลิช, พรรษา เหมวิบูลย์ – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, รัตนากร ใหม่คามิ, จักรพันธ์ แก้วพรหม, ศศลักษณ์ ไหประโคน – ศุภโชค สารชาติ, จิดี คานยุค, มาร์โค เชโปวิช
ระยอง เอฟซี (4-3-3) : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล(GK) – วัชรินทร์ เนื่องพระแก้ว, สุวัฒน์ จันทร์บุญภา, ปาร์ค แท-ฮยอง, กีรติ แก้วหนองแดง – อนุชิต เงินบุคคล, ชินวัฒน์ วงศ์ไชย, วรุตน์ สัพโส – ดานิโล่ โลเปซ, อาดัลกิโซ เนโต้, ฮัน ชาง-วู
ผลสกอร์ที่คาด : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 – 0 ระยอง เอฟซี