บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีกเอ กลุ่มที่ 2 โปรแกรมการแข่งขันนัดที่ห้า เป็นการโคจรมาชนกันอีกครั้งระหว่าง “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยี่ยม เปิดสนามเหย้า เดน เเดรฟ ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ โดยทั้งสองทีมจะลงสนามปะทะกันในช่วงดึกของวันคืนอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 02.45 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองลูเวิน ประเทศเบลเยี่ยม
“หากสนใจบทวิเคราะห์คู่อื่นเพิ่มเติม ทุกท่านสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ 168kick.com”
เจ้าบ้าน “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยี่ยม ยังคงไว้ใจให้เทรนเนอร์ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ รับหน้าที่คุมทัพ โดยผลงานในรายการนี้พวกเขาเดินหน้ากวาดชัยชนะมาครองได้ถึง 3 เกม และแพ้เพียงแค่เกมเดียวในเกมเยือน ทีมชาติอังกฤษ 1-2 เท่านั้น ทำให้ทัพปีศาจแดงแห่งแผ่นดินยุโรปทะยานขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มเอาไว้ได้ในเวลานี้ ทางด้านผลงานการลงสนามเกมนัดล่าสุดของพวกเขานั้นยังรักษามาตรฐานฟอร์มเก่งเอาไว้ได้ เมื่อสามารถบุกไปเฉือนเอาชนะ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้แบบหวุดหวิด 2-1 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านขุมกำลังของเบลเยี่ยมในยุคนี้อุดมไปด้วยดาวเตะชื่อดังของวงการลูกหนังในหลายๆ ตำแหน่ง ซึ่งทำให้ผลงานโดยรวมในช่วงหลังมานี้พวกเขามักจะทำได้ดีเข้าไปเล่นรอบลึกๆ ในทุกรายการที่ลงสนาม จนฟีฟ่าแร้งกิ้งทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ของทีมฟุตบอลชายทั่วโลกในเวลานี้ สำหรับความพร้อมของทีมจะไม่ได้เห็นหน้าของ เอแดน อาซาร์ ดาวเตะของ เรอัล มาดริด ที่เพิ่งโดนตรวจพบเชื้อโคโนน่าไวรัส และ ยันนิก การ์ราสโก้ ตัวรุกจากสโมสร แอตเลติโก มาดริด ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เพียง 2 รายเท่านั้น ส่วนบรรดาแข้งตัวหลักที่เหลือของทีมพร้อมลงสนามช่วยชาติในเกมนี้กันทั้งหมด
ฝ่ายผู้มาเยือน “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ที่คุมทัพโดยกุนซือ แกเร็ธ เซาท์เกต ซึ่งในยุคของเขาถือว่าทำผลงานโดยรวมได้ดีกว่าที่ใครหลายคนคาดการเอาไว้ พาทีมเข้าไปเล่นรายการยูโร 2020 ได้แบบสบายๆ หายห่วง ทางด้านผลงานในรายการยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ยังดูจะหาความสม่ำเสมอไม่ได้เมื่อ 4 เกมที่ลงสนามเก็บชัยได้ 2 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 1 เกม โดยเกมหลังสุดที่พวกเขาลงสนามนั้นน่าผิดหวังสุดๆ เล่นในบ้านตัวเองแต่กลับพ่ายให้กับ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก 1-0 ทำให้แต้มหยุดอยู่ที่ 7 คะแนน หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 3 ของกลุ่มในเวลานี้ ด้านผลงานการลงสนามเมื่อกลางสัปดาห์ในเกมอุ่นเครื่อง เปิดบ้านเอาชนะ ทีมชาติไอร์แลนด์ 3-0 ขุมกำลังของทัพสิงโตคำรามยุคนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เล่นหลักจากทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก โดยสิ่งที่น่าจับตามองพวกเขาคือบรรดาแข้งเกมรุกที่มีตัวเลือกให้ใช้งานมากมาย และหลายๆ คนก็อายุยังน้อยมีโอกาสได้เห็นน่าเห็นตาไปอีกนาน สำหรับความพร้อมของผู้เล่นจะขาด แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ รีซ เจมส์ โดยทั้งคู่ต่างต้องชดใช้โทษแบนที่ได้รับใบแดงมาจากเกมนัดล่าสุด ส่วนทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โจโกเมซ คู่หูตัวหลักจาก ลิเวอร์พูล ก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ด้านคนอื่นๆ ที่เหลือไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะต้องพึ่งพา 2 พี่ใหญ่อย่าง แฮร์รี่ เคน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงประคองน้องๆ ในเกมนี้
วิเคราะห์ก่อนเกม เกมนัดแรกที่คู่นี้เจอกันถือว่าพลิกล็อคเล็กน้อยเมื่อทัพทรีไลออนส์ สามารถเฉือนเอาชนะมาได้แบบหวุดหวิด 2-1 แต่ก็อย่างที่ทราบว่าหลังจากนั้นพวกเค้ากลับไปพลาดท่าพ่ายให้กับ ทีมชาติเดนมาร์ก คาบ้านของตัวเอง ด้านสถานการณ์ในเกมนี้แน่นอนว่าเรื่องเกมรุกของผู้มาเยือนในเวลานี้สบายหายห่วงมีผู้เล่นที่พร้อมจะลงสนามช่วยทีมชาติทดแทนกันตลอดเวลา ซึ่งคุณภาพก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่นัก แต่ปัญหาจะเป็นที่เกมรับ เมื่อกองหลังตัวหลักนั้นหายไปจากทีมหลายคน อาจจะต้องพึ่งพา คอเนอร์ คัวดี้ ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผน เซ็นเตอร์แบ็ค 3 คน ด้าน ทีมชาติเบลเยี่ยม ตอนนี้เกมรุกดูจะต้องหวังเพิ่งการจบสกอร์ของ ลูกากู เพียงคนเดียวเท่านั้น ทีมมักเล่นในระบบกองหน้า 3 ตัวแต่ปีกของพวกเขาดันมีปัญหาทำประตูได้น้อย เนื่องจากการหายหน้าไปของ เอแดน ฮาซาร์ ซึ่งส่งผลกับเกมรุกของทีมอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามระบบของกุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ถือว่ายังเหนือกว่าฝั่ง แกเร็ธ เซาท์เกต อยู่เล็กน้อย แม้เกมแรกพ่ายมาแต่ด้วยรูปเกมไม่ได้เป็นรองทีมชาติอังกฤษ แต่อย่างใด เชื่อว่าด้วยการที่ได้ลงเล่นในถิ่นตัวเองที่พวกเค้าไม่แพ้ในเกมทางการมามากกว่า 10 ปี บวกกับความแค้นจากเกมนัดที่ผ่านมา จะพาทัพปีศาจแดงแห่งยุโรปเบียดคว้าชัยในเกมนี้ได้แบบสนุก
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติเบลเยี่ยม (3-4-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK) – เจสัน เดนาเยอร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น – เควิน เดอ บรอยน์, อั๊กเซล วิตเซล, ยูริ ตีเลอม็องส์, ธอร์ก็อง อาซาร์ – เฌเรมี โดกูว์, ดรีส์ เมอร์เท่นส์, โรเมลู ลูกากู
ทีมชาติอังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์, คอเนอร์ คัวดี้ , ไมเคิ่ล คีน, เบน ชิลเวลล์ – เดแคลน ไรซ์, แฮร์รี่ วิงค์ส – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เมสัน เมาท์, มาร์คัส แรชฟอร์ด – แฮร์รี่ เคน
ผลสกอร์ที่คาด : ทีมชาติเบลเยี่ยม 2 – 1 ทีมชาติอังกฤษ