บทวิเคราะห์ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน เกมเปิดหัวประจำสัปดาห์ที่ 15 คู่บิ๊กแมตช์ ลงเล่นกันในช่วงดึกของวันศุกร์ที่ 8 มกราคม เวลา 02.30 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 9 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม เอสตาดิโอ โบรุสเซีย-พาร์ค เป็นคิวการดวลแข้งกันระหว่างทีมอันดับที่ 7 “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ทีมจ่าฝูงของตารางคะแนนในขณะนี้
เจ้าบ้าน “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ขุนพลของ มาร์โค โรเซอ หลังจากออกไปเผชิญโลกกว้างในบอลยุโรปถ้วยใหญ่ แต่ด้วยความที่มีตัวหมากให้เลือกใช้งานไม่เพียงพอ ทำให้สภาพความฟิตของนักเตะตัวหลักไม่ดีเท่าเดิม จนท้ายที่สุดผลงานในบอลลีกที่ควรโฟกัสกลับตกลงแบบน่าใจหาย อย่างน้อยสิ่งที่สามารถไว้ใจได้ คือเกมที่เจอกับทีมเล็กมักจะตบเด็กโชว์ได้อยู่บ่อยๆ แนวรุกยังคงจัดจ้านเร้าใจแนวรับหากไม่เจอกับทีมระดับท็อปของลีกก็เก็บกินได้ไม่ยากนัก ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นเกมลีกประเดิมช่วงปีใหม่ที่บุกเชือดน้องใหม่ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ แบบเฉียดฉิว 1-0 โดยเกมนี้จะอดใช้งาน ยาน โอลส์โชวสกี้, ร็อคโค ไรต์ซ, วาเรนติโน่ ลาซาโร่, ทอร์เบน มูเซล และ ฟามาน่า ไควซีร่า รวมไปถึง มาร์คุส ตูราม ที่ติดโทษแบนยาวอีก 4 นัด นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมเป็นตัวเลือกในการลงเล่นเกมนี้ได้ทั้งหมด โดยดาวเด่นที่น่าจับตามองในชุดนี้หนีไม่พ้น เบรล เอ็มโบโล่ กองหน้าตัวพริ้วที่เพิ่งเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยให้ทีมได้ในนัดล่าสุด
ทีมเยือน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค หลังจากผ่านฤดูกาลที่เพอร์เฟคท์เกินความคาดหมายด้วยการกวาดเรียบวุธทุกถ้วยที่ลงเล่น ขุนพลของ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค เริ่มเจอความยากลำบากไม่น้อยยามเจอกับคู่แข่ง เนื่องจากความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นเหมือนป้ายตราว่า “ใครๆ ก็อยากล้มยักษ์เพื่อชื่อเสียง” กำลังหลักยังคงเป็นหน้าเดิมๆ ที่ยังรักษามาตรฐานในการเล่นได้อย่างน่าชื่นชม เกมรุกเด็ดขาดเร้าใจไม่ต่างจากเดิม แต่เกมรับมีรอยรั่วให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตัวหลักเริ่มอายุมากขึ้นจนสภาพร่างกายถดถอยลง ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นเกมลีกที่โกงตายเปิดบ้านแซงชนะ ไมนซ์ 05 แบบสุดมัน 5-2 แม้ว่าจะโดนลูบคมด้วยการถูกนำไปก่อนสองประตู อย่างไรก็ตามเกมนี้จะขาด ต็องกีย์ เนียนซู และ โจชัว เซิร์คซี ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บแค่สองราย ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์พร้อมแย่งตำแหน่งกันเป็น 11 ตัวจริงทั้งหมด แน่นอนว่าความหวังสูงสุดในการทำประตูคงไม่ใช่ใครอื่นๆ นอกจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเป้าที่เป็นเบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้
วิเคราะห์ก่อนเกม การปะทะกันในช่วงหลังของทั้งสองทีมไม่จบลงด้วยผลเสมอมานานถึง 6 นัดติดต่อกันแล้ว เดาไม่ยากว่าเป็นฝ่ายแชมป์เก่า บาเยิร์น มิวนิค ที่ทำได้ดีกว่าอยู่เล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะว่า ขุมกำลังของพวกเขานั้นเป็นต่อทีมอื่นๆ ร่วมลีกแบบคนละชั้น แม้ว่าช่วงแรกของฤดูกาลอาจจะสะดุดอยู่หลายนัด แต่นั่นก็เป็นเพราะตัวหลักของพวกเค้ากรำศึกหนักมาอย่างยาวนาน ซึ่งก็ไม่วันนี้ เนื่องจากพวกเค้าได้พักมาเต็มๆ เกือบสองสัปดาห์ อย่างไรก็ตามช่วงหลังเจ้าถิ่น สิงห์หนุ่ม มักจะแลกหมัดด้วยเกมรุกได้แบบสูสี แต่การขาดหายไปของ มาร์คุส ตูราม ที่แทบจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่สุดในแนวรุกนั้นย่อมลดทอนศักยภาพของทีมลงไปพอสมควร ยิ่งมาวัดกันในแผงกองกลางและกองหลัง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ยิ่งเป็นรองกว่าแบบชัดเจน ยังไม่นับถึงขุมกำลังที่ม้านั่งสำรองสำหรับเปลี่ยนเกม เชื่อว่าเกมนี้จะเปิดหน้าแลกกันแบบไม่มีใครกลัวใคร แต่ท้ายที่สุดแล้วขอซื้อใจ เสือใต้ ที่เล่นเกมบุกได้ดุดันกว่าว่ามีโอกาสสูงที่จะบุกมาเก็บสามแต้มนำจ่าฝูงต่อไปได้อย่างเฉียดฉิวด้วยการอาศัยขุมกำลังที่ฝีเท้าเหนือกว่า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (4-2-3-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ (GK) – สเตฟาน ไลเนอร์, มัตธิอัส กินเทอร์, นิโค เอลเวดี้, ออสการ์ เวนด์ท – คริสตอฟ คราเมอร์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์ – พาทริค แฮร์มันน์, ลาร์ส สตินเดิล, โยนาส โฮฟมันน์ – เบรล เอ็มโบโล่
บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ (GK) – นิคลาส ซูเล่อ, เยโรม บัวเต็ง, ลูคัส เอร์นานเดซ, อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ – โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ดาวิด อลาบา – คิงสลี่ย์ โกม็อง, โธมัส มุลเลอร์, เซิร์จ นาบรี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ผลสกอร์ที่คาด : โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 1 – 2 บาเยิร์น มิวนิค