6สมัย! เมสซี่ ผงาดเหนือVvD-โรนัลโด้ซิวบัลลงดอร์

ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์กัปตันทีม บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน สร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ 2019 และกลายเป็นนักเตะที่ได้ลูกบอลทองคำมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ลิโอเนล เมสซี่ รับบัลลง ดอร์ สมัยที่ 6

เมสซี่ มีผลงานกระหน่ำ 63 ประตูในทุกรายการกับทั้ง บาร์ซ่า และ ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งกด 46 ประตู และ 17 แอสซิตส์ในลาลีกา พร้อมคว้าแชมป์ ลาลีกา ฤดูกาล 2018-19 ที่ผ่านมา

ทำให้ก่อนหน้านี้เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าเก็บรางวัลส่วนตัวมาแล้วทั้ง ฟีฟ่า เบสต์ 2019 ในนฐานะนักเตะยอดเยี่ยมของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และรางวัลรองเท้าทองคำยุโรป โกลเด้น บูท 2019

และล่าสุด เมสซี่ เอาชนะทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังกัปตัน ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ของ ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 ในอันดับ 2 และอันดับ 3 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวซัลโวกัปตัน ทีมชาติโปรตุเกส ของ ยูเวนตุส รวมทั้ง ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 2 สตาร์ของ ลิเวอร์พูล ในอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ

โดยดาวดังชาวอาร์เจนไตน์วัย 32 ปีขึ้นรับลูกบอลทองคำสมัยที่ 6 ของเขาต่อจากปี 2008, 2013, 2014, 2016 และ 2017 ระหว่างพิธีมอบรางวัล บัลลง ดอร์ ครั้งที่ 64 ที่กร็องด์ ปาเล่ส์ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ส่วนอีก 3 รางวัลที่น่าสนใจคือรางวัล ยาชิน โทรฟี่ 2019 ในฐานะผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกตามชื่อของ เลฟ ยาชิน ตำนานนายด่านทีมชาติโซเวียตที่ได้รับการยกย่องให้ผู้รักษาประตูดีที่สุดในโลกจากการเป็นโกลเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับ บัลลงดอร์ เมื่อปี 1963 ตกเป็นของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตู ทีมชาติบราซิล ของ ลิเวอร์พูล

มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของ ยูเวนตุส รับรางวัล โกปา โทรฟี่ 2019 ในฐานะดาวรุ่งอายุไม่เกิน 21 ปียอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ต่อจาก คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าพรสวรรค์สูงของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เจ้าของรางวัลเมื่อปีที่แล้ว

และปิดท้ายด้วยรางวัล บัลลงดอร์ ของฝ่ายหญิง เป็นของ เมแกน ราปิโน่ ดาวเตะทีมหญิง ชาติสหรัฐอเมริกา ด้วยคะแนนโหวตเหนือ ลูซี่ บรอนซ์ ทีมชาติอังกฤษ และ อเล็กซ์ มอร์แกน เพื่อนร่วมทีม ยูเอสเอ

สรุป 30 อันดับบัลลงดอร์ 2019

อันดับ 1
ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า-บาร์เซโลน่า)

อันดับ 2
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ (เนเธอร์แลนด์-ลิเวอร์พูล)

อันดับ 3
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส-ยูเวนตุส)

อันดับ 4
ซาดิโอ มาเน่ (เซเนกัล-ลิเวอร์พูล)

อันดับ 5
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (อียิปต์-ลิเวอร์พูล)

อันดับ 6
คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (ฝรั่งเศส-เปแอสเช)

อันดับ 7
อลีสซง เบ็คเกอร์ (บราซิล-ลิเวอร์พูล)

อันดับ 8
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โปแลนด์-บาเยิร์น มิวนิค)

อันดับ 9
แบร์นาร์โด้ ซิลวา (โปรตุเกส-แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

อันดับ 10
ริยาด มาห์เรซ (แอลจีเรีย-แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

อันดับ 11
เฟร้งกี้ เดอ ยอง (เนเธอร์แลนด์-อาแจ็กซ์, บาร์เซโลน่า)

อันดับ 12
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (อังกฤษ-แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

อันดับ 13
เอแด็น อาซาร์ (เบลเยียม-เชลซี, เรอัล มาดริด)

อันดับ 14
เควิน เดอ บรอยน์ (เบลเยียม-แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

อันดับ 15
มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ (เนเธอร์แลนด์,อาแจ็กซ์, ยูเวนตุส)

อันดับ 17
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (บราซิล-ลิเวอร์พูล)

อันดับ 18
อองตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส-แอตเลติโก มาดริด, บาร์เซโลน่า)

อันดับ 19
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (อังกฤษ-ลิเวอร์พูล)

อันดับ 20 ร่วม
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (กาบอง-อาร์เซน่อล)
ดูซาน ทาดิช (เซอร์เบีย-อาแจ็กซ์)

อันดับ 22
ซน เฮือง-มิน (เกาหลีใต้-สเปอร์ส)

อันดับ 23
อูโก้ โยริส (ฝรั่งเศส-สเปอร์ส)

อันดับ 24
คาลิดู คูลิบาลี่ (เซเนกัล-นาโปลี)
มาร์ก-อันเดร แตร์ ชเตเก้น (เยอรมนี-บาร์เซโลน่า)

อันดับ 26
คาริม เบนเซม่า (ฝรั่งเศส-เรอัล มาดริด)
จอร์จินิโอ ไวนัลดุม (เนเธอร์แลนด์-ลิเวอร์พูล)

อันดับ 28
ชูเอา เฟลิกซ์ (โปรตุเกส-เบนฟิก้า, แอตเลติโก มาดริด)
มาร์กินญอส (บราซิล-เปแอสเช)
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค (เนธอร์แลนด์-อาแจ็กซ์)

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top