บทความ : 10 ดีลสุดพัง !!! จากฝีมือการช็อปของ “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน”

ฮวน เซบาสเตียน เวร่อน

อันดับที่ 1 ฮวน เซบาสเตียน เวร่อน ย้ายจาก ลาซิโอ ในปี 2001 ค่าเสียหาย 38.34 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : เวร่อน เป็นกองกลางในสไตล์เพลย์เมคเกอร์พันธุ์แท้ดีกรีทีมชาติอาร์เจนติน่า ผ่านประสบการณ์ค้าแข้งมาอย่างโชกโชนทั้งในลีกบ้านเกิดและโด่งดังจนเป็นที่น่าจับตามองในการเล่นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ให้กับ
อินทรีฟ้าขาวลาซิโอ พาทีมคว้าแชมป์ลีก, โคปปา อิตาเลีย และอิตาเลียน ซูเปอร์คัพ จนในที่สุด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงตัดสินใจคว้าตัวดาวเตะรายนี้มาร่วมทีมด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของเกาะอังกฤษ ณ เวลานั้นถึง 28.1 ล้านปอนด์ แม้ว่า เวร่อน จะเป็นนักเตะที่มีทักษะสูง, ออกบอลได้แม่นยำได้ทั้งระยะใกล้และไกล, ยิงไกลได้ดี, มีทีเด็ดจากลูกเซ็ต พีซ และสร้างเพลย์การเล่นสวยๆ ให้กับทีมอยู่เสมอ แต่ว่าเขาไม่สามารถปรับตัวในการเล่นศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษได้ เนื่องจากความแตกต่างกันของสปีดบอล, การโดนไล่กดดันบีบให้เล่นยาก และการเข้าบอลที่ดุดัน ทำให้ เวร่อน ที่เป็นนักเตะที่ต้องใช้เวลาครองบอลก่อนจะสร้างเพลย์สวยๆ ไม่มีเวลามากพอ
จึงส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของเขาที่ตกลงมาอย่างชัดเจน โดยที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พยายามปรับตำแหน่งของเขาไปหลากหลายแบบทั้งเล่นเป็นกองกลางตัวคุมจังหวะ หรือโยกไปเล่นริมเส้นเพื่อโรเตชั่นกับ เดวิด เบ็คแฮม ในบางนัดก็ไม่ได้ช่วยให้ฟอร์มกระเตื้องขึ้นมาสมกับราคามหาศาลที่ทุ่มจ่ายไป แต่อย่างน้อยๆ แฟนบอลปีศาจแดง อาจจะจดจำช่วงเวลาดีๆ ของมิดฟิลด์รายนี้ได้บ้างในการโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจบางนัดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแมตช์ไฮไลท์อย่างการเป็นส่วนหนึ่งในผู้เล่นที่พลิกนรกเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปถึงถิ่น 5-3 จากการที่ตามหลังไปก่อนถึง 0-3 ส่วนผลงานที่ผิดพลาดจนติดตาเป็นเกมที่เล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้วพ่ายคาบ้านให้กับ มิดเดิ้ลสโบรห์ ไปอย่างน่าเสียดาย 0-1 จากความผิดพลาดของเขาที่ถูกแย่งบอลไปจนเสียประตูโทนในนัดดังกล่าว…ท้ายที่สุด ปีศาจแดง ตัดสินใจปล่อยตัว เวร่อน ในราคาเลหลังแบบครึ่งต่อครึ่งให้กับ เชลซี ในปี 2003 จบสถิติการขายวิญญาณไว้ที่ลงเล่นทั้งหมด 81 นัดทำไปทั้งสิ้น 11 ประตู กับ 11 แอสซิสต์ตลอดสองฤดูกาล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย พร้อมกับควบตำแหน่งรองแชมป์ลีก คัพ ในฤดูกาล 2002/2003

เวร่อน ยิงประตูขึ้นนำ 4-3 ในนัดที่บุกไปเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 5-3
ความผิดพลาดในนัดที่พบกับ มิดเดิ้ลสโบรห์
อันแดร์สัน

อันดับที่ 2 อันแดร์สัน ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ ในปี 2007 ค่าเสียหาย 28.35 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : อันแดร์สัน เป็นกองกลางชาวบราซิลที่มีสไตล์การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจตั้งแต่อายุยังน้อยสร้างชื่อด้วยการช่วย เอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ลีกและบอลถ้วย 2 รายการมาครอง แถมโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จนถูกยกให้เป็น “วันเดอร์คิด” และ “นิว โรนัลดินโญ่” เขาเป็นนักเตะที่มีทักษะสูง, เบสิคดี และครองบอลได้เหนียวแน่นตามสไตล์บราซิลเลียน แถมมาด้วยสกิลการเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่จ่ายบอลและสอดมายิงประตูสวยๆ ได้บางครั้ง…จากทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวัยเยาว์ของดาวเตะรายนี้จนในที่สุด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ตัดสินใจทุ่มเงินราว 30 ล้านยูโร ณ เวลานั้น ดึงตัวเข้ามาสู่ชายคา โรงละครแห่งความฝัน ในฤดูกาลแรกฟอร์มของเขายังคงน่าจับตามองเอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้แบบไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ แถมยังคว้ารางวัล Golden Boy 2008 มาประดับอาชีพได้สำเร็จ (ยกตัวอย่างนักเตะชื่อดังที่คว้ารางวัลนี้ : ลิโอเนล เมสซี่ 2005, ปอล ป็อกบา 2013 และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ 2017 เป็นต้น) อย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตนอกสนามทั้งกินดื่มแบบตามใจและเป็นนักเตะที่หลงแสงสี ปาร์ตี้บ่อย ส่งผลให้สภาพร่างกาย, ความฟิต และผลงานในสนามตกลงเรื่อยๆ นอกจากนั้นยังถูก เฟอร์กี้ จับไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางที่ต้องลงต่ำมากลางสนาม ช่วยทั้งเกมรุก-เกมรับ เริ่มทำให้การตัดต่อพันธุกรรมของดาวเตะรายนี้ผิดพลาดจนไม่อาจฉายแสงได้แบบช่วงวัยรุ่นอีกเลย…บทสรุปของเขาในการขายวิญญาณให้กับ ปีศาจแดง ตลอด 8 ฤดูกาล ลงเล่นไปทั้งสิ้น 181 นัดทำไปทั้งสิ้น 9 ประตูกับ 21 แอสซิสต์ เกียรติประวัติแชมป์กับสโมสรประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย…ท้ายที่สุด อันแดร์สัน ถูกปล่อยตัวออกจากสโมสรในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล แบบฟรีๆ ในปี 2015 และกลับไปเล่นในลีกบ้านเกิด

รวมประตูและแอสซิสต์ทั้งหมดของ อันแดร์สัน ในสีเสื้อปีศาจแดง
ดีเอโก้ ฟอร์ลัน

อันดับที่ 3 ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ย้ายจาก อินดีเพนเดียนเต้ ในปี 2002 ค่าเสียหาย 9.9 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : ฟอร์ลัน ย้ายจากแดนอเมริกาใต้มาแสวงโชคกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสถิติไม่ธรรมดาลงเล่นให้กับ อินดิเพนเดียนเต้ ไปทั้งหมด 21 นัด ทำไปทั้งสิ้น 13 ประตู เป็นกองหน้าในแบบฉบับโป้งปิดบัญชี มีทีเด็ดอยู่ที่ความคมในการจบสกอร์ทั้งสองเท้า ไม่ได้มีทักษะการเลี้ยงที่โดดเด่น สวยงาม พริ้วไหว แต่ทดแทนด้วยเบสิคฟุตบอลที่นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี…อย่างไรก็ตามนักเตะอเมริกาใต้กับ ปีศาจแดง ขึ้นชื่อว่าของแสลงหยิบ 10 ใช้ได้สัก 2 คนก็นับว่าโอเคแล้ว ซึ่งทาง ฟอร์ลัน ก็เข้าข่ายล้มเหลวเลยถ้าดูสถิติการยิงประตูเทียบกับการลงเล่น
การเปิดตัวในฤดูกาลแรกของเขากับทีมค่อนข้างย่ำแย่ ยังปรับตัวไม่ได้อย่างชัดเจนลงสนามไปทั้งสิ้น 18 นัดทุกรายการ ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวนับว่าผิดคาดจากการคาดหวังของแฟนบอลอย่างมาก ยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับ รุด ฟาน นิสเตลรอย คู่แข่งในการแย่งตำแหน่งในทีมยิ่งแล้วใหญ่ ด้านไฮไลท์ในการค้าแข้งของ ฟอร์ลัน นั้นนัดแรกอยู่ที่การยิงประตูแบบสุดสวยด้วยการตะบันด้วยขวาแบบเต็มเท้าจากนอกกรอบในเกมกับ เซาแธมป์ตัน แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นคือการฉลองประตูของเขาที่ถอดเสื้อแล้วใส่คืนไม่ทันจนต้องถอดเสื้อวิ่งไล่บอลเป็นนักบอล อบต. อยู่สักพัก…แต่ไม่พอ!!! สิ่งที่คุ้มที่สุดสำหรับสาวก เร้ด อาร์มี่ คือ ฟอร์ลัน เป็นฮีโร่ตะบันสองประตูช่วยให้ ปีศาจแดง บุกไปลูบคมคู่แค้นตลอดกาลอย่าง “ลิเวอร์พูล” ถึงถิ่นแบบสุดเจ็บแสบ ยิ่งเฉพาะลูกแรกที่ เยอร์ซี่ ดูเด็ค รับบอลพลาดลอดหว่างขาถูกฉกไปยิ่งง่ายๆ ยิ่งตอกย้ำความอับอายเข้าไปใหญ่ ภาพรวมของ ฟอร์ลัน ในการค้าแข้งกับ ยูไนเต็ด นั้นไม่สวยงามเอาเสียเลยอยู่กับทีม 4 ฤดูกาล ทำไปทั้งสิ้น 17 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ จากการลงเล่นไปทั้งสิ้น 98 นัด เกียรติประวัติคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย สุดท้ายย้ายออกจากทีมไปด้วยค่าตัวแค่ราว 3 ล้านยูโรไปร่วมทีมบียาร์เรอัล แต่กลับระเบิดฟอร์มยอดดาวยิงหลังจากนั้นกวาดรางวัลส่วนตัวมากมาย อาทิ เช่น ปิชิชี่ 2 สมัย, รองเท้าทองคำร่วมกับ เธียร์รี่ อองรี และบอลทองคำจากการเป็นดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2010 เป็นต้น

ฟอร์ลัน ยิงประตูสุดสวยใส่เซาธ์แธมป์ตันแต่กลับใส่เสื้อไม่ทันหลังฉลองประตู
ฟอร์ลัน เหมาคนเดียวสองประตูที่ “แอนฟิลด์
เบเบ้

อันดับที่ 4 เบเบ้ ย้ายจาก วิตอเรีย กิมาไรส์ ในปี 2010 ค่าเสียหาย 7.92 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : การจากไปของ คาร์ลอส เตเบซ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทิ้งช่องโหว่ให้กับทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แบบใหญ่หลวง เพราะว่าทีมจะเหลือศูนย์หน้าตัวความหวังแค่ เวย์น รูนี่ย์ เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ดังนั้นการเสาะหา “นิว โรนัลโด้” จึงเริ่มต้นขึ้นแล้วท้ายสุดหวยก็มาออกที่ “เบเบ้” นักเตะที่แทบจะไร้โปรไฟล์จาก วิตอเรีย กิมาไรส์ ที่ยังไม่เคยลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรแม้แต่นัดเดียว แต่โชว์ฟอร์มหรูในเกมสำรองด้วยการยิงไป 5 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 6 นัด โดยคนที่เป่าหูให้ เฟอร์กี้ จ่ายเงินราว 7.4 ล้านปอนด์ในขณะนั้น เพื่อฉีกสัญญาคว้าตัว เบเบ้ มาร่วมทีม คือ คาร์ลอส เคยรอซ อดีตผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่ ท่านเซอร์ เชื่อมือเป็นอย่างมาก โดยที่ เฟอร์กี้ ไม่เคยชมฝีเท้าดาวเตะรายนี้แม้แต่นาทีเดียวก่อนเซ็นสัญญา หลังจากย้ายมาร่วมทีม ปีศาจแดง ทางด้าน เบเบ้ ก็ไม่สามารถแสดงความสามารถให้เห็นได้เลยว่าเขามีราคาคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่สโมสรทุ่มลงไป ไม่มีความโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งให้เห็นเลย แทบจะเรียกได้ว่าเป็นนักบอลเกรดรองด้วยซ้ำ โดยเขาลงเล่นไปเพียง 7 นัดให้กับทีมชุดใหญ่ของ ปีศาจแดง ทำไปแค่ 2 ประตูตลอด 4 ฤดูกาลที่มีสัญญาอยู่กับทีม เนื่องจากส่วนมากจะถูกปล่อยให้สโมสรอย่าง เบซิคตัส, ริโอ อาฟ และ ปากอส เดอ เฟร์เรยร่า ยืมตัวไปใช้งานมากกว่า แต่ก็ไม่มีผลงานใดๆ ให้น่าจดจำ…ท้ายที่สุดแล้วก็ถูกขายไปให้ เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวราว 3 ล้านยูโรในปี 2014 เกียรติประวัติที่แทบไม่น่านับ คือ แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย (ลงเล่นไม่ถึง 10 นัดไม่ได้เหรียญ)

ไฮไลท์การเล่นของ เบเบ้ ในสีเสื้อ ปีศาจแดง
เคลแบร์สัน

อันดับที่ 5 เคลแบร์สัน ย้ายจาก แอตเลติโก พาราเนนเซ่ ในปี 2003 ค่าเสียหาย 7.74 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวว่าต้องการเซ็นสัญญากับนักเตะทีมชาติบราซิลชุดฟุตบอลโลกปี 2002 อยู่สองรายในขณะนั้น คือ โรนัลดินโญ่ และ เคลแบร์สัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเป็นที่ทราบกันว่า “นักเตะสัญชาติบราซิลคนแรก” ที่เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็น เคลแบร์สัน ที่พกดีกรีแชมป์โลกมาเผชิญโชคที่เกาะอังกฤษ ด้วยค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเขาถูกคาดหวังว่าจะมาแทนที่ของ ฮวน เซบาสเตียน เวร่อน ที่ย้ายไปร่วมทีม เชลซี ได้อย่างไร้รอยต่อ…อย่างไรก็ตามการค้าแข้งในอังกฤษไม่เป็นอย่างที่ เคลแบร์สัน วาดฝันไว้เพราะเขาได้รับบาดเจ็บตั้งแต่นัดที่ 2 ที่ลงเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่ การเล่นของดาวเตะรายนี้ไม่มีอะไรหวือหวา จะเป็นตัวรับก็ไม่ใช่-ตัวรุกก็ไม่เชิง ส่วนมากจะปักหลักในแดนกลางคอยต่อบอลสั้นๆ ง่ายๆ เรียกได้ว่าความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ…เขาอยู่กับทีมทั้งสิ้นสองฤดูกาลลงเล่นไปทั้งสิ้น 30 นัดทำไป 2 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย ก่อนย้ายไปร่วมทีม เบซิคตัส ในปี 2005 ด้วยค่าตัวราว 2.95 ล้านยูโร…โดยภายหลัง เคลแบร์สัน ออกมาเปิดเผยว่าถูก โรนัลดินโญ่ เป่าหูว่าจะย้ายมาเล่นด้วยกันในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ท้ายที่สุดก็อย่างที่เห็นกันว่า “เหยินน้อย” เปลี่ยนใจไปสร้างตำนานไว้อย่างสวยงามที่แดนกระทิงดุกับ “บาร์เซโลน่า” แทน

ฟอร์มของ เคลแบร์สัน ในนัดชิงฟุตบอลโลก 2002 กับทีมชาติเยอรมัน
นิค พาวล์

อันดับที่ 6 นิค พาวล์ ย้ายจาก ครูว์ อเล็กซานดรา ในปี 2012 ค่าเสียหาย 6.75 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : นิค พาวล์ นักเตะพรสวรรค์สูงที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักตั้งแต่อายุ 16 ปี เริ่มต้นการค้าแข้งด้วยตำแหน่งกองหน้าแล้วเปลี่ยนมาเล่นกองกลางจนถึงปัจจุบันมีจุดเด่นอยู่ที่ลูกยิงไกลที่เฉียบคมและหนักหน่วง โดยหลังจากที่เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ ครูว์ อเล็กซานดรา ในระดับลีก ทู ทางด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ไม่รอช้าควักเงินก้อนโตราว 6 ล้านปอนด์ดึงตัวมาเสริมทัพ…พาวล์ ประเดิมสนามในเกมลีกนัดแรกให้กับ ปีศาจแดง ได้อย่างงดงาม หลังจากลงสนามมาแทน ไรอัน กิ๊กส์ ในนาทีที่ 71 และใช้เวลาเพียงแค่ 11 นาทีเท่านั้นในการเบิกสกอร์แรกด้วยลูกยิงไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษอย่างสุดสวย หลังจากนั้นก็เข้าๆ ออกๆ ในทีมชุดใหญ่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนัก สืบเนื่องมาจากตัวเขาเองมีปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้าอยู่ตลอดทั้งที่แฟนบอลคาดหวังว่าเขาคือ “พอล สโคลส์” คนต่อไปก็ตาม… หลังจากนั้นก็ถูกปล่อยให้อีกหลายสโมสรยืมตัว อาทิ เช่น วีแกน แอธเลติก, เลสเตอร์ ซิตี้ และ ฮัลล์ ซิตี้ แต่ผลงานก็ไม่เปรี้ยงปร้างจนสุดท้ายก็โดน ปีศาจแดง ปล่อยตัวออกไปแบบฟรีๆ ในปี 2016 ปิดสถิติกับ ปีศาจแดง ด้วยการลงเล่นทั้งหมด 9 นัด ทำไปแค่ประตูเดียว…ปัจจุบันกำลังค้าแข้งให้กับ สโต๊ค ซิตี้ ในวัย 26 ปี

ประตูประเดิมสนามของ นิค พาวล์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นประตูเดียวที่เขาทำได้ในสีเสื้อ ปีศาจแดง
โซรัน โทซิช

อันดับที่ 7 โซรัน โทซิช ย้ายจาก ปาร์ติซาน ในปี 2009 ค่าเสียหาย 6.3 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : โซรัน โทซิช ถูกค้นพบโดยแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างการเล่นเกมยุโรปให้กับ ปาร์ติซาน ที่พบกับ เฟเนบาห์เช่ ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น มีจุดเด่นอยู่ที่ความคล่องแคล่ว, เล่นบอลได้สองเท้า, เบสิคดี และทีเด็ดในการยิงลูกเซต พีซ โดยทาง ปีศาจแดง ปิดดีลดาวเตะรายนี้ตั้งแต่ปี 2008 แต่ต้องปล่อยตัวให้กับต้นสังกัดยืมตัวต่ออีก 1 ฤดูกาลเพื่อรอใบอนุญาตการทำงานบนเกาะอังกฤษ ในตอนแรก อเดม ลายิช เพื่อนร่วมทีมของเขาจะย้ายมาร่วมทีมด้วยกัน แต่ปรากฏว่าดีลเกิดมีปัญหาในตอนท้ายซึ่งทาง โทซิช มีส่วนช่วยทีมชาติเซอร์เบีย ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีเข้าสูรอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร และช่วยทีมชาติชุดใหญ่ผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกปี 2010…หลังจากย้ายมาในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทางด้าน โทซิช ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับทีมสำรองเพื่อใช้เวลาปรับตัว ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในตัวหลักของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่คุมทีมในขณะนั้น แต่ก็ยังถูกเมินจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่จะดึงตัวขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ตามที่แฟนบอลต่างเรียกร้อง ท่ามกลางกระแสข่าวลือ ณ ตอนนั้นว่า “เขาตัวเล็กเกินไป” และสรีระของเขายังไม่พร้อมที่จะรับแรงปะทะอันหนักหน่วงของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ ซึ่งในตอนแรกสโมสรวางตัวเขาไว้ว่าจะเป็นตัวแทนของ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” และ “ไรอัน กิ๊กส์
แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปแค่ 3 นัดรวมแค่ 79 นาทีเท่านั้นและไม่สามารถทำประตูหรือแอสซิสต์ได้แม้แต่ครั้งเดียว ก่อนจะถูกขายไปให้กับ ซีเอสเคเอ มอสโก ทีมดังจากลีกรัสเซีย ด้วยราคา 9.5 ล้านยูโร

ไฮไลท์ของ โทซิช ระหว่างที่เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อันดับที่ 8 แองเจโล่ เฮนริเกซ ย้ายจาก ยูนิเวอร์ซิดาด เดอ ชิลี ในปี 2012 ค่าเสียหาย 4.75 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : แองเจโล่ เฮนริเกซ เคยมาทดสอบฝีเท้ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 15 ปี และนับตั้งแต่นั้นก็ถูกจับตามองจากแมวมองของสโมสรมาโดยตลอด เขาเป็นดาวยิงที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว, หาช่องเก่ง และยิงประตูได้อย่างเฉียบคม เคยถูกยกย่องจากนิตยสาร FourFourTwo ให้เป็นท็อป 5 ของดาวรุ่งยอดเยี่ยมในปี 2011 ด้วยการโชว์ฟอร์มในบอลถ้วยโซนอเมริกาใต้รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีได้อย่างน่าจับตามอง และสามารถก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ให้กับ ยูนิเวอร์ซิดาด เดอ ชิลี ด้วยอายุเพียงแค่ 17 ปี แถมทำผลงานได้เกินคาดด้วยการทำไปทั้งสิ้น 11 ประตู จากการลงเล่น 18 นัด เป็นสาเหตุให้ ปีศาจแดง คว้าเขามาร่วมทีมในปี 2012 ด้วยความคาดหวังอย่างสูง แต่จนแล้วจนรอดดาวยิงรายนี้ก็ไม่เคยได้ประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้แต่นาทีเดียว…โดยถูกปล่อยยืมให้ไปเล่นกับ วีแกน แอธเลติก, เรอัล ซาราโกซ่า และ ดินาโม ซาเกร็บ ตามลำดับ…แล้วก็ถูกโละออกไปให้กับ ดินาโม ซาเกร็บ ด้วยค่าตัวเลหลังแบบขาดทุนแค่ 1.67 ล้านยูโรเท่านั้น

ผลงานนัดประเดิมสนามของ แองเจโล่ เฮนริเกซ กับทีมสำรอง ในเกมที่เจอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า

อันดับที่ 9 เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า ย้ายจาก น็องต์ ในปี 2003 ค่าเสียหาย 4.05 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) : การตามหาทายาทของ รอย คีน กองกลางกัปตันทีมในตอนนั้นมาลงเอยที่มิดฟิลด์แคเมอรูนวัยแค่ 22 ปีที่มีชื่อว่า เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า จากสโมสรน็องต์ ที่ทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้อย่างน่าสนใจ มีการเล่นที่ดุดันคล้ายคลึงกับ “คีโน่” เข้าบอลลูกถึงคน, ออกบอลแม่นยำ และมีร่างกายที่แข็งแกร่งตามแบบฉบับนักเตะผิวสีจากแอฟริกาใต้…เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงไม่รอช้าจัดการจ่ายเงินราว 3.5 ล้านปอนด์ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2003 แต่ตลอดสองฤดูกาลที่อยู่กับทีมเขาได้ลงเล่นไปทั้งหมด 39 นัดทุกรายการ ทำไป 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ แต่ภาพรวมไม่มีผลงานใดๆ เป็นชิ้นเป็นอัน ไร้ความประทับใจต่อแฟนบอล สร้างความเฟอะฟะอยู่บ่อยๆ โดยเขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์ฟุตบอลอังกฤษได้ รวมไปถึงเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ และภาษาที่ใช้สื่อสารอีกด้วย…ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกเลหลังขายไปให้ แอสตัน วิลล่า ในปี 2005 ด้วยค่าตัวแค่ 1.5 ล้านปอนด์เท่านั้น

หนึ่งในประตูที่ เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า ทำได้ในเกม “สงครามกุหลาบ” กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด
มาเม่ บิรัม ดิยุฟ

อันดับที่ 10 มาเม่ บิรัม ดิยุฟ ย้ายจาก โมลด์ ในปี 2010 ค่าเสียหาย 4.05 ล้านปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบัน) – มาเม่ บิรัม ดิยุฟ เป็นนักเตะสัญชาติเซเนกัลคนแรกที่ย้ายมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2009 หลังจากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับดาวยิงรายนี้ไว้ก่อน 1 ปีและปล่อยให้ โมลด์ ยืมตัวต่อเพื่อรอใบอนุญาตการทำงานบนเกาะอังกฤษ เนื่องจากติดตามดูฟอร์มการเล่นของดาวยิงผิวสีมานานถึง 2 ปี จนมั่นใจว่าเขาคือหนึ่งในดาวยิงที่มีพรสววรค์…จุดเด่นของ ดิยุฟ อยู่ที่ความเร็วและร่างกายที่แข็งแกร่งอันเป็นจุดเด่นของนักเตะผิวสีทั่วไป นอกเหนือจากนั้นยังหาตำแหน่งในการจบสกอร์ได้เก่ง โดยตลอดการลงเล่นสามฤดูกาลให้กับ โมลด์ ทั้งสิ้น 77 นัด เขาทำไปถึง 35 ประตู กับ 18 แอสซิสต์…อย่างไรก็ตามเมื่อย้ายมาเล่นบนเกาะอังกฤษเขาไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองได้เลย ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ ปีศาจแดง ไปแค่ 9 นัดทุกรายการทำไป 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ตลอดสองฤดูกาลเท่านั้น…ท้ายที่สุดถูกสโมสรขายให้กับ ฮันโนเวอร์ 96 ในปี 2012 ด้วยราคาแค่ 1.8 ล้านยูโร

รวมผลงานของ มาเม่ บิรัม ดิยุฟ ในสีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top