จะเอาไม่เอา!!! ผู้บริหาร “งูใหญ่” เตือน “บาร์ซ่า” ค่าฉีกสัญญา “มาร์ติเนซ” ใกล้หมดอายุ

ปิเอโร่ ออซิลิโอ ผู้อำนวยการกีฬาของอินเตอร์ มิลาน ยืนยันว่า เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าตัวเก่งชาวอาร์เจนไตน์ จะย้ายทีมก็ต่อเมื่อมีสโมสรกล้าทุ่มเงินตามค่าฉีกสัญญาเท่านั้น และตัวเลขดังกล่าวก็มีวันหมดอายุระบุไว้ ซึ่งเป็นเหมือนกับการส่งคำเตือนไปถึงบาร์เซโลน่า ที่เปิดการเจรจาอย่างยืดเยื้ออยู่ในตอนนี้ตามรายงานข่าวจาก Sky Sport Italia สื่อแดนมักกะโรนี

นอกจากนี้ ออซิลิโอ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า “สถานการณ์ที่แท้จริงของ มาร์ติเนซ ในตอนนี้ก็คือ เขาจะได้ย้ายทีมก็ต่อเมื่อมีสโมสรจ่ายค่าฉีกสัญญาของเขาเท่านั้น

มันเป็นเงื่อนไขที่ทุกๆ คนรู้ และไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบัง…มันเป็นเงื่อนไขที่ยุ่งยากเพราะมีตัวเลขก้อนโตที่ระบุไว้แน่นอน และวันเลาที่หมดอายุ

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ เงื่อไขดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนกรกฏาคมซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มากนัก…และมันเป็นหนทางเดียวที่เป็นไปได้ที่จะไม่ได้เห็น มาร์ติเนซ เล่นให้กับอินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาลหน้า

เรายังไม่ได้พูดคุยเรื่องของ มาร์ติเนซ อย่างจริงจังกับสโมสรใดเลย เพราะว่าเรื่องง่ายๆ เลยก็คือ เราเชื่อใจในตัวเขา…เขาเป็นสมบัติชิ้นสำคัญของสโมสร และอย่าลืมว่าเขายังเหลือสัญญากับเราอยู่อีกถึงสองปี

เราไม่มีความต้องการที่จะขายผู้เล่นที่ดีที่สุดของเราออกไป แต่เราก็มองถึงการเสริมขุมกำลังของทีมในฤดูกาลหน้าด้วยการลงตลาดซื้อ-ขายนักเตะ

มีหลายสโมสรติดต่อเราเข้ามาเพื่อสอบถามเรื่องของ มาร์ติเนซ จากสโมสรเหล่านั้นมีทีมหนึ่งที่จริงจังมากที่สุด คือ บาร์เซโลน่า ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งสองสโมสรก็เต็มไปด้วความเป็นมิตร และมีความจริงใจต่อกัน

ผมไม่ปฏิเสธเรื่องนั้น…แต่ทาง บาร์เซโลน่า รู้จุดยืนของสโมสรเราเป็นอย่างดีว่า อินเตอร์ มิลาน ไม่มีความต้องการที่จะขาย เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ออกไปจากทีม ซึ่งการฉีกสัญญาเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจะทำได้ และผมคิดว่าเรื่องนี้มันชัดเจนอยู่แล้วนะ

อย่างไรก็ตาม อาร์ตูโร่ วิดัล กองกลางตัวเก๋าของเจ้าบุญทุ่ม ที่คาดว่าจะถูกแนบไปในข้อเสนอขอซื้อตัว มาร์ติเนซ ไม่มีความต้องการย้ายสลับขั้วไปยัง งูใหญ่ เพราะว่า ต้องการที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับต้นสังกัดปัจจุบัน แม้ว่า อันโตนิโอ คอนเต้ จะชื่นชอบในฝีเท้าของดาวเตะรายนี้เป็นอย่างมาก และต้องการนำไปเสริมขุมกำลังในแดนกลางของทีมก็ตามจากการรายงานของ AS สื่อในประเทศสเปน

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top