แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลัก อังกฤษ มีแนวโน้มชัดเจนที่จะเซ็นสัญญากับ ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์กัปตันทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่มันก็มีหลายเหตุผลที่จะเป็นบททดสอบว่า พลพรรค “ปีศาจแดง” จะทำสำเร็จหรือไม่
แน่นอนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอล แต่พวกเขาต้องเจอกับความล้มเหลวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และในเวลานี้ “ปีศาจแดง” หมดโอกาคว้าตั๋วไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว
ความยากของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการคว้าตัว ไรซ์
การห่างหายจากความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาค่อยๆพังทลายลงไป และการไม่ได้ไปเล่นในฟุตบอลถ้วยใหญ่ยุโรปในปีหน้าก็ยิ่งส่งผลให้แผนการคว้าผู้เล่นใหม่เข้ามายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์ของ เวสต์แฮม เคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า เขาไม่ต้องการปล่อยตัว ไรซ์ ออกจากสโมสร แต่อดีตโค้ช เอฟเวอร์ตัน และ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยเจอเหตุกาณ์ลักษณะนี้มาแล้วเช่นเดียวกัน
ย้อนกลับไปในปี 2004 ช่วงที่ มอยส์ ยังคุม เอฟเวอร์ตัน เขาเคยกล่าวว่า “ผมคิดว่า เวย์น รูนีย์ ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลคือ คุณต้องก้าวต่อไป” ซึ่งในเวลาต่อมา รูนีย์ ก็ย้ายมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวราว 27 ล้านปอนด์
ในความคิดเห็นของ มอยส์ เขาก็พยายามยอมรับความเป็นจริงว่า ผู้เล่นอายุน้อยที่เก่งที่สุด จะถูกเกลี้ยกล่อมจากสโมสรที่ใหญ่กว่าไม่ช้าก็เร็ว เพราะมันเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ และโอกาสในการทำงานให้กับทีมที่ใหญ่ขึ้น มั่งคั่งขึ้น และประสบความสำเร็จมากขึ้น
ขณะเดียวกัน เวสต์แฮม รู้ดีว่า พวกเขาต้องทำงานอย่างไรต่อไป ยกตัวอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์, แฟรงค์ แลมพาร์ด, โจ โคล, เกล็น จอห์นสัน และ ไมเคิ่ล คาร์ริค ต่างเริ่มต้นกันที่สโมสรของพวกเขาก่อนจะจากไปเพื่อพบกับความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง
แฟนรุ่นเก่าของ “ขุนค้อน” จะจำได้ว่า พอล อินซ์ อดีตกองกลางตัวเก่งเคยทำเงินไว้ให้กับสโมสร 1 ล้านปอนด์ หลังย้ายไปเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคเริ่มต้นกอบโกยความสำเร็จของพลพรรค “ปีศาจแดง” ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือเลือดวิสกี้
แหล่งข่าวในสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด มองว่า ไรซ์ จะเป็นกรณีเดียวกันกับ อินซ์ ที่เข้ามาจุดประกายความสำเร็จให้กับทีม โดยเพิ่มความดุดัน ความมุ่งมั่น และความเป็นผู้นำให้กับแผงกองกลางของ “ปีศาจแดง” ยุคใหม่
ดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้ถูกมองว่ามีบุคลิกที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้เล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคใหม่ภายใต้การนำของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก และยังเป็นการเซ็นสัญญาที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงเป้าหมายที่เป็นไปได้อื่นๆ ที่สโมสรพร้อมที่จะสร้างเพื่อความสำเร็จอีกครั้งในอนาคต
เวสต์แฮม ประกาศตั้งค่าตัว ไรซ์ ไว้เกือบ 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ลงทุนในการคว้าตัว แจ็ค กรีลิช จอมทัพกัปตันทีม แอสตัน วิลล่า เข้ามาเสริมทัพเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว และมันเป็นจำนวนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจต้องคิดหนักเช่นกัน
ขณะเดียวกัน คู่แข่งรายอื่นๆในการคว้าตัว ไรซ์ อย่าง แมนฯ ซิตี้ ก็เพิ่งคว้าตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป และ เชลซี ซึ่งปล่อยตัว ไรซ์ ออกไปตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นนั้น ก็กำลังมีนโยบายใหม่หลัง โรมัน อบราโมวิช ขายสโมสรสำเร็จ
เชลซี กำลังเจอปัญหาอาจเสียผู้เล่นคีย์แมนในแนวรับอย่าง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ในซัมเมอร์นี้ให้กับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า แบบไร้ค่าตัวตามลำดับ รวมถึงอาจต้องมองหาหัวหอกรายใหม่เข้ามาแทน โรเมลู ลูกากู ที่มีปัญหากับ โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมัน
ลิเวอร์พูล กำลังมุ่งความสนใจไปที่การสร้างมิดฟิลด์สายเลือดใหม่ โดยนักเตะอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ เจมส์ มิลเนอร์ ต่างอายุเกิน 30 ปีแล้ว โดยแหล่งข่าวระบุว่า พวกเขาพุ่งความสนใจไปที่ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษของ ดอร์ทมุนด์ เป็นเป้าหมายแรกที่จะคว้าตัวในปี 2023
ดังนั้น แมนฯ ซิตี้, เชลซี และ ลิเวอร์พูล ไม่น่าจะไล่ล่าลายเซ็นของ ไรซ์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ และทีมอย่าง ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ หรือ อาร์เซน่อล ก็ไม่ได้ถูกมองว่า มีเงินทุนเพียงพอสำหรับการแข่งขันคว้าตัวกองกลาง เวสต์แฮม ไปร่วมทีมถ้าเขาตัดสินใจออกจาก “ขุนค้อน” เมื่อสิ้นสุดซีซั่น
ไรซ์ เหลือสัญญาอีก 2 ปีที่ถิ่น ลอนดอน สเตเดี้ยม และ เวสต์แฮม ก็มีตัวเลือกในการขยายสัญญาของเขาออกไปอีก 12 เดือน ซึ่งทำให้พวกเขาไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องรีบปล่อยตัวกองกลางวัย 23 ปี รายนี้ไปแต่อย่างใด
สิ่งที่ ไรซ์ ต้องตัดสินใจ
เวสต์แฮม จะยึดมูลค่า 100 ล้านปอนด์ กับ ไรซ์ ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มในฤดูกาลที่ดีที่สุดในอาชีพของตัวเอง หลังได้รับการโหวตเป็นอันดับที่ 3 รองจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีก ของ ลิเวอร์พูล และ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางของ แมนฯ ซิตี้ จากรางวัล FWA Footballer of the Year เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ปัจจุบัน ไรซ์ มีรายได้ 62,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์กับ เวสต์แฮม แต่เขาสามารถเพิ่มเงินเดือนนั้นได้ 3-4 ด้วยการย้ายมาที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ในทางตรงกันข้าม “ขุนค้อน” ก็ไม่ต้องการปล่อยตัวเขาออกจากสโมสร
อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นหนทางสู่ความหายนะทางการเงินของ เวสต์แฮม เช่นกัน หากพวกเขาเพิ่มค่าจ้างของ ไรซ์ มากกว่านักเตะคีย์แมนคนอื่นๆอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ, จาร์รอด โบเวน, ซาอิด เบห์ราม่า และ โทมัส ซูเซก
เวสต์แฮม และ ไรซ์ มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็จะมองหาข้อได้เปรียบ แต่ตอนนี้ “ปีศาจแดง” ไม่ใช่ทีมในอดีตที่นักเตะหลายๆคนฝันไว้อีกต่อไป เนื่องจากผู้เล่นอย่าง ลูกากู, ปอล ป็อกบา, อังเคล ดิ มาเรีย และ แฮร์รี่ แมคไวร์ พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาล้มเหลว
แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถทำให้ ไรซ์ ได้เงินจำนวนมหาศาล แต่ถ้าเขาต้องการที่จะเป็นแชมป์รายการใหญ่ๆ นั้น ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า มันจะสำเร็จในสีเสื้อ “ปีศาจแดง”