ต่อเนื่องจากอีพีที่แล้ว ที่ทางเว็บไซต์ 168Kick ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ อาชีพแปลกๆ หลังเลิกเล่นของอดีตนักเตะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งแต่ละรายที่คัดมานั้น ล้วนแต่มีเส้นทางที่ยากจะคาดเดา แล้วดูเหมือนว่า ห่างไกลออกไปจากโลกลูกหนังพอสมควร แฟนบอลอย่างเราๆ ท่านๆ คงจะนึกภาพแทบไม่ออก เพราะเวลาที่แต่ละรายอยู่ในสนาม แทบจะไม่มีเค้าลางใดๆ ว่าพวกเขาจะเดินทางดังกล่าว
โดยบทความปิดท้ายนี้ ยังเหลือนักเตะอีก 5 คนด้วยกัน ที่เลือกอาชีพอีก 5 สายอาชีพ ที่แตกต่างกันออกไปหลังแขวนสตั๊ดมานำเสนอ มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า แต่ละคนที่ติดโผเข้ามาในลิสต์ จะมีทางเลือกที่แปลกแหวกแนวแค่ไหน? แล้วจะมีพ่อค้าแข้งคนใดที่เดาเอาไว้บ้างหรือไม่?
เปิดหัวกันที่รายแรก เป็นอดีตนักเตะจากสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในยุครุ่งเรืองที่มี เควิน คีแกน กุมบังเหียน ผลงานในปี 1996 ถือว่าเขาเป็นปราการหลังที่เหนียวแน่น ช่วยให้ทีมมีลุ้นเบียดแย่งแชมป์ แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย นั่นก็คือ ฟิลิปป์ อัลแบร์ต ที่เลือกเส้นทางหลังแขวนสตั๊ด ด้วยการเป็นเจ้าของร้านขายของชำมายาวนานกว่า 11 ปี ซึ่งแรงจูงใจของเขาเริ่มมาจากไม่รู้จะทำอะไรกับชีวิต หลังไม่ได้มีชีวิตเป็นพ่อค้าแข้ง ที่มีตารางเวลาทั้งแข่งและซ้อมเป็นประจำ แต่พอหันมาเตรียมผลิตภัณฑ์เพื่อรับรองลูกค้า ทำให้ชีวิตของเขาดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ถึงขนาดที่เจ้าตัวการันตีไว้แบบไม่อายว่า พอหันมาเดินทางสายนี้ เขาได้จับเงินจำนวนมากกว่าตอนเป็นนักเตะเสียอีก
ต่อกันที่รายที่สอง เป็นอดีตกองกลางชื่อดังของสโมสร เชลซี อย่าง เควิน พีค็อก ที่ออกจากถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปเผชิญโชคกับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ตั้งแต่ปี 1996 แล้วก็แขวนสตั๊ดในปี 2002 ซึ่งในตอนแรกๆ แฟนบอล ยังคงเห็นหน้าค่าตาของเขาผ่านสื่อบ้าง เพราะได้รับเชิญไปเป็นคอมเมนเตเตอร์อยู่บ่อยครั้ง แต่พอประสบความสำเร็จแล้ว กลับมีสิ่งหนึ่งที่หัวใจเขาเรียกร้อง นั่นคือการหันหน้าเข้าหาศาสนาแบบเต็มร้อย ด้วยความศรัทธาแบบเต็มเปี่ยมในคริสตศาสนา เขาจึงเลือกออกจากอังกฤษบ้านเกิด ไปศึกษาด้านนี้แบบจริงจังที่ประเทศแคนาดาเป็นเวลาสามปี แล้วในปัจจุบันก็ได้เลื่อนขั้นเป็นบาทหลวงเรียบร้อยแล้ว โดยประจำอยู่ที่โบสถ์ คัลวารี่ เกรซ ที่เมืองคัลแกรี่ นั่นเอง
ถัดมาในรายที่สามเป็นอดีตวันเดอร์คิดส์ชื่อดัง ที่ตอนแจ้งเกิดขึ้นมาในบอลเยาวชนชิงแชมป์ยุโรปชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี กับทีมชาติฮอลแลนด์ ต่างมีแต่ยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ต้องการดึงตัวเขาไปร่วมทีม เพราะการเล่นของ รอยสตัน เดรนเธ่ นั้นโดดเด่นเกินวัย มีทักษะที่ไม่ธรรมดา ความเร็วที่จัดจ้าน และ ความกล้าที่เหนือกว่านักเตะในวัยเดียวกัน แต่เป็นทาง เรอัล มาดริด ที่ได้ลายเซ็นต์ของเขาไปครอง แต่ผลงานในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาบิว กลับไม่ปังดังคาด ทำให้ต้องร่อนเร่พเนจรไปเล่นแบบยืมตัวไปทั่ว รวมไปถึง เอฟเวอร์ตัน ในศึก พรีเมียร์ลีก
หลังจากหมดสัญญากับทีมในลีกยูเออี เดรนเธ่ ก็ประกาศเลิกเล่นในปี 2016 แล้วเลือกที่จะตามความฝันด้วยการเป็น แร็ปเปอร์ มีการปล่อยซิงเกิ้ลออกมาชื่อว่า “Roya2Faces” แต่ก็ไม่ดัง เลยกลายเป็นว่าต้องกลับไปเล่นฟุตบอลอีกเหมือนเดิมในสองปีถัดมา แถมยังมีปัญหาเรื่องฐานะการเงินล้มละลาย จนต้องสู้ชีวิตเป็นนักเตะในลีกล่างของสเปนอยู่ในตอนนี้
ต่อกันที่รายที่ 4 เป็นอดีตปราการหลังชาวสวิตเซอร์แลนด์ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สมัยยังค้าแข้งอยู่ แทบไม่มีใครจดจำผลงานได้ เพราะไม่ได้มีฝีเท้าที่โดดเด่นมากนัก แต่หลังจากแขวนสตั๊ดแล้ว เหมือนว่าเขาจะเจอกับหนทางที่ใช่มากกว่า ด้านการบริหารจัดการเงิน นั่นก็คือ รามอน เวก้า ที่ปัจจุบันเป็นนักให้คำปรึกษาด้านการเงินมืออาชีพ ที่คอยจัดการดูแลทรัพย์สินของลูกค้าในมือ ซึ่งเชื่อกันว่ามีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านปอนด์เลยทีเดียว
โดยเส้นทางนี้ทำให้เขามีชื่อเสียงถึงขนาดมีข่าวว่าจะเทคโอเวอร์สโมสรอย่าง ปอร์ทสมัธ รวมไปถึงลงชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่าในปี 2015 แต่กลายเป็นว่าล้มเหลวไปทั้งหมด แม้ว่าการใช้งานของกฏเบรกซิทจะทำให้บริษัทของ เวก้า เจอกับปัญหาใหญ่ แต่ว่ากันว่าทรัพย์สินรวมๆ ของเขา นั้นเพียงพอจะประคองตัวไปให้ผ่านพ้นวิกฤติแบบไม่มีปัญหาสั่นคลอน
ปิดท้ายกันที่รายที่ห้า เป็นอดีตกองกลางจอมขยันจากสโมสร อาร์เซน่อล อย่าง มาติเยอ ฟลามินี่ ซึ่งทุกวันนี้กลายเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จากการสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถหาจุดเชื่อมโยงที่ลงตัวระหว่าง เคมีวิทยา และ ชีววิทยา ออกมาได้ โดยไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อม ตามเทรนด์ของโลกที่กำลังฮิตกันอยู่ในตอนนี้ เคมีภัณฑ์ จากบริษัทของ ฟลามินี่ ที่โด่งดังที่สุด คือ เชื้อเพลิง ที่ผลิตจากวัชพืช โดยสามารถนำไปพัฒนาเพื่อใช้แทนพลาสติกได้ ซึ่งบริษัทของเขากับพาร์ทเนอร์อย่าง ปาสกวาเล่ กรานาต้า กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดกันว่ามูลค่าในตลาดตอนนี้สูงกว่า 3 หมื่นล้านปอนด์เลยทีเดียว