Home บทความฟุตบอล รวมดาว วัน แคป วันเดอร์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ

รวมดาว วัน แคป วันเดอร์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ

0
รวมดาว วัน แคป วันเดอร์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ

ความเดิมจากบทความที่แล้ว ที่ทางทีมงาน 168Kick นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนักเตะ วัน แคป วันเดอร์ ของ ทีมชาติอังกฤษ ที่เป็นผู้เล่นที่เคยติดทีมชาติ แล้วได้ลงเล่นไปเพียงนัดเดียว ในตำแหน่งกองหน้าไปแล้ว ซึ่งทางผู้อ่าน คงได้เห็นกันไปแล้วว่า พ่อค้าแข้งแต่ละราย ที่มีชื่อติดโผเข้ามานั้น แม้จะคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี แต่ใช่ว่าระดับฝีเท้า จะก้าวขึ้นไปเล่นในเวทีระดับชาติได้ง่ายๆ ต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ในการจะเป็นขาประจำ

ผู้เล่นบางคนฝีเท้าดีก็จริง เวลาเล่นให้กับทีมเล็กๆ แต่พอขยับระดับตัวเองไปเล่นให้กับทีมใหญ่ ก็ไม่สามารถรักษาผลงานเอาไว้ได้ บางคนอยู่กับทีมใหญ่ แต่โอกาสลงเล่นจำกัด ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ ก็มีสิทธิ์หลุดโผได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีเกณฑ์การตัดสินที่แน่นอน การตัดสินใจขั้นสุดท้าย ย่อมอยู่กับผู้จัดการทีม สิงโตคำราม ในช่วงเวลานั้นๆ ที่มีความชื่นชอบนักเตะในสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป ต้องเลือกผู้เล่นให้เข้ากับระบบของทีม ใช่ว่าแค่เก่งอย่างเดียว จะได้รับโอกาสเสมอไปอย่างที่เห็นกันในชุดปัจจุบันเป็นต้น

บทความนี้มาถึงคิวผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางกันบ้างแล้ว ซึ่งแต่ละรายที่คัดเข้ามาติดโผ เชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลในยุค 2000 ย่อมคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี เพราะล้วนแต่เป็นระดับสตาร์ในศึก พรีเมียร์ ลีก ในช่วงเวลานั้นแทบทั้งสิ้น โดยทุกคนที่จะกล่าวถึงล้วนแขวนสตั๊ดไปหมดแล้ว และปิดสถิติการเล่นในนามทีมชาติไว้เพียงแค่นัดเดียว แต่จะมีใครกันบ้างที่ติดโผเข้ามา แล้วรายละเอียดต่างๆ นั้นเป็นมาอย่างไร?

เริ่มต้นกันที่รายแรก เป็นดาวรุ่งที่แจ้งเกิดกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ พอทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ก็ถูกทาง ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปเสริมทัพด้วยราคามหาศาลในยุคนั้น ถือเป็นการทุ่มทุนที่มีความเสี่ยงไม่น้อย แต่เนื่องมาจากในช่วงเวลาดังกล่าวสโมสร แกะเขาเหล็ก นั้นขาดทุน เลยจำเป็นต้องหาทางเอาตัวรอด ด้วยการขายสตาร์ออกไปเพื่อประคองทีม แล้วทาง เซ็ธ จอห์นสัน ก็เป็นหนึ่งในนั้น

สไตล์การเล่นของเขา เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ถนัดเท้าซ้าย ออกบอลได้แม่นยำ มีการเข้าปะทะที่หนักหน่วง ได้ใจแฟนบอล ขยับถ่างไปยืนปีกหรือแบ็คซ้ายก็ทำได้ไม่เลว โดยทาง จอห์นสัน ถูกทาง ปีเตอร์ เทย์เลอร์ เรียกไปติดทีมในยุคนั้น เป็นเกมกระชับมิตร ที่พบกับ ทีมชาติอิตาลี ที่สนาม เดลเล่ อัลปิ ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของทัพอัซซูรี่ ด้วยสกอร์ 1-0 แล้วทาง จอห์นสัน ได้ลงมาเล่นเป็นตัวสำรองแทน แกเร็ธ แบร์รี่ ในนาทีที่ 73 แล้วก็ไม่มีผลงานอะไรให้เป็นที่น่าจดจำ

ถัดมาที่รายที่สอง เป็นกองกลางพันธุ์ดุอย่าง ลี โบว์เยอร์ ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด ในยุคที่รวมพลังหนุ่มเป็นจุดขาย เป็นกองกลางสายปะทะ ที่มีความขยันและทุ่มเทเป็นไม้ตาย พร้อมเข้าปะทะแบบไม่มีกลัวใคร ขยับถ่างออกไปยืนริมเส้นก็ได้ มีทีเด็ดในการสอดขึ้นไปทำประตู โดยเกมที่เขาติดทีมชาตินัดแรก เป็นทาง สเวน โกรัน อีริคสัน ที่เรียกตัวไปใช้งาน

โดยได้ลงเล่นในตำแหน่งปีกขวา แทนที่ของ เดวิด เบ็คแฮม ในเกมกระชับมิตร ที่พบกับ โปรตุเกส ที่สนาม วิลล่า ปาร์ค ในปี 2002 ซึ่งเกมนั้นจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 แล้วก็เป็นเกมที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก เพราะโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 62 และเป็นทาง เทรเวอร์ ซินแคลร์ ที่ลงมาแทน

ต่อกันที่รายที่สาม เป็นกองกลางสายเดียวกับ โบว์เยอร์ แต่มีการเล่นที่ดูสุขุม และ ใจเย็นมากกว่า เน้นการเข้าปะทะแบบดักทาง ไม่ใช่เสียบสไลด์แบบทิ้งตัว ความคล่องตัวอาจไม่มากเท่า แต่จังหวะการคุมเทมโป้ของเกมดูมีชั้นเชิง ไม่เร่งร้อนจนรวน โดดเด่นในการเป็นหัวใจในแดนกลางให้กับสโมสร แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของทีมกุหลาบไฟ แบบแท้ๆ จนก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงและกลายเป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมา นั่นก็คือ เดวิด ดันน์ ที่ถูกทาง อีริคสัน ดึงตัวมาติดทีมชาติในเกมกับโปรตุเกสเช่นกัน โดยได้ลงสนามมาแทนที่ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในช่วงครึ่งหลัง แต่ผลงานก็ไม่เป็นที่น่าประทับใจ เมื่อเทียบกับผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกันที่เป็นแคนดิเดตส่งผลให้ในเวลาต่อมาจึงหลุดทีมไปแบบยาวๆ โดยไม่ได้กลับมาติดธงอีกเลย จนถึงช่วงที่แขวนสตั๊ด

ถัดมาในรายที่สี่ เป็นมิดฟิลด์พันธุ์เถื่อน ที่ฝีเท้าอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ากิริยาท่าทาง ที่แสดงออกมาถึงความบ้าดีเดือดในสนาม เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่การเล่นอันดุดันของเขา แฟนบอลบางส่วนยังมองว่าเกินความพอดีไปหน่อย มีการตัดเกมที่เด็ดขาด บวกกับการจ่ายบอลอันแม่นยำเป็นจุดขาย แต่ด้วยการใช้ร่างกายที่หนักหน่วง เลยทำให้ผลงานในช่วงท้ายอาชีพดร็อปลงแบบน่าใจหาย

ไม่นับรวมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนอกสนาม ที่สร้างวีรกรรมเอาไว้แบบนับไม่ถ้วน จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก โจอี้ บาร์ตัน ที่ถ้าไปเอาดีทางด้านต่อยตี อาจได้ดีไม่แพ้เล่นฟุตบอลก็เป็นได้ โดยเขาถูกทาง สตีฟ แม็คคลาเรน เรียกมาติดทีมในเกมอุ่นเครื่อง ที่ดวลแข้งกับ ทีมชาติสเปน ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายในนามทีมชาติของ แกรี่ เนวิลล์ แล้วผลดันลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของพลพรรคสิงโตคำราม 0-1 โดย บาร์ตัน โดนเปลี่ยนตัวลงมาแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในนาทีที่ 79 แต่ก็ไม่สามารถช่วยทีมให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ได้

ปิดท้ายกันที่กองกลางคนสุดท้ายที่มีชื่อติดโผเข้ามาในคลิปนี้อย่าง ไรอัน เมสัน ลูกหม้อแท้ๆ ของทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ทะลุขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ แล้วทำผลงานได้น่าประทับใจ สไตล์การเล่นของเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นมิดฟิลด์สายเชิง ที่ไม่เน้นการเข้าปะทะที่หนักหน่วงมากนัก เน้นอ่านทางแล้วตัดบอล อาศัยความแม่นยำในการวางบอลสั้น-ยาว เป็นจุดขาย

แต่ด้วยสภาพร่างกายที่เจออาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอด ทำให้ต้องแขวนสตั๊ดไปก่อนวัยอันควร แล้วหันไปเอาดีด้านการคุมทีม โดยเขาถูกทาง รอย ฮ็อดจ์สัน เรียกไปรับใช้ชาติเพียงหนึ่งนัด ในเกมกระชับมิตร ที่ออกไปเยือน อิตาลี ที่สนาม ยูเวนตุส สเตเดี้ยม ปี 2015 ผลจบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1 ซึ่งเขาลงมาเล่นเป็นตัวสำรองแทนที่ของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในนาทีที่ 74 แล้วก็สามารถทำได้หนึ่งแอสซิสต์อีกด้วย ส่งผลให้ทีมรอดจากความพ่ายแพ้ได้แบบหวุดหวิด เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าเสียดายฝีเท้า เพราะมีโอกาสไปได้ไกลกว่านี้

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้