Home บทความฟุตบอล 10 สุดยอด วันเดอร์ คิดส์ วงการฟุตบอลจาก Goal ตอนแรก

10 สุดยอด วันเดอร์ คิดส์ วงการฟุตบอลจาก Goal ตอนแรก

0
10 สุดยอด วันเดอร์ คิดส์ วงการฟุตบอลจาก Goal ตอนแรก

โลกลูกหนังในปัจจุบันนี้ แตกต่างไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง เนื่องด้วยวิวัฒนาการด้านต่างๆ รวมไปถึงสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้กีฬาฟุตบอลกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก พร้อมกลับกลายเป็นตลาดทำเงินแห่งใหม่ไปพร้อมๆ กัน อันเป็นวงการที่เจ้าสัวหรือท่านชีคเงินหนา ต่างพร้อมก้าวกระโดดเข้ามาลงทุนได้ทุกเมื่อ หากโอกาสจากสโมสรชื่อดังเปิดกว้างขึ้นมา เพราะว่าการลงทุนหนักแค่ในช่วงแรก แต่ผลตอบแทนนั้นมีแต่เนื้อๆ เน้นๆ ในช่วงหลัง ถ้าบริหารงานได้ตามที่คาดการณ์เอาไว้

หนึ่งในช่องทางที่ทำให้เงินของวงการลูกหนังสะพัดมากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นการซื้อ-ขายนักเตะ ที่แต่ละดีลในทุกวันนี้ ล้วนเป็นตัวเลขระดับมหาศาล เนื่องจากนักฟุตบอลหนึ่งคน ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เล่นฟุตบอลเพียองย่างเดียวอีกต่อไป ภาพลักษณ์ของเขาต่อวงการกีฬา สามารถนำไปต่อยอดทำเงินได้หลากหลายช่องทาง ถ้าทีมใดหมายปองสตาร์ชื่อดังฝีเท้าระดับโลก นั่นหมายความว่าเม็ดเงินที่ต้องทุบคลังออกมาย่อมอยู่ในระดับที่เป็นสถิติอย่างแน่นอน ดังนั้นช่องทางที่ประหยัดเงินได้มากขึ้น คือ การไปเสาะหาดาวรุ่งฝีเท้าดี ที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลาจนกลายเป็นเพชรเม็ดงามมาปลุกปั้นตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งในวงการขนานนามนักเตะกลุ่มนี้ว่า “วันเดอร์ คิดส์” นั่นเอง

เว็บไซต์ 168Kick พร้อมนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับดาวรุ่งดวงใหม่ในวงการฟุตบอล ที่ถูกสื่อชื่อดังอย่าง โกล คาดว่าจะก้าวไปเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ในอนาคตโดยเป็นการคัดเลือกมาเน้นๆ จำนวน 10 รายด้วยกัน ขอเชิญผู้อ่านมาลุ้นไปพร้อมๆ กันเลยว่า 5 รายแรกจะมีใครติดโผเข้ามาบ้าง?

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 10 เป็นดาวรุ่งวัย 19 ปี สังกัดสโมสร เอาก์สบวร์ก ในศึก บุนเดสลีก้า เยอรมัน ที่ดีกรีก้าวไปติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดใหญ่ไปแล้ว นั่นก็คือ ริคาร์โด้ เปปี้ ซึ่งเล่นในตำแหน่งกองหน้าและตัวริมเส้น เป็นนักเตะที่มีเชื้อสายเม็กซิกันอยู่ในตัว มีสถิติการยิงประตูกับสโมสรอาชีพแรกอย่าง นอร์ท เท็กซัส อันน่าเหลือเชื่อ ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุไม่ถึง 17 ปี โดยเขาได้รับการฝึกฟุตบอลจากน้ำมือของคุณพ่อของเขาที่มีอาชีพเป็นโค้ชตั้งแต่อายุ 4 ขวบเท่านั้น

เปปี้ มีสไตล์การเล่นเหมือนแนวรุกสายเชิง ไม่ได้มีความเร็วมากนัก แต่จังหวะการลากเลื้อยหลบคู่แข่งด้วยทริกต่างๆ ไม่ต่างกับดาวเตะที่อิมพอร์ทมาจาก อเมริกาใต้ หลังจากย้ายไปอยู่กับทีมแม่อย่าง เอฟซี ดัลลัส แล้วทำผลงานได้เกินอายุ ทำให้ เอาก์สบวร์ก ยอมทุ่มเงินถึง 16.36 ล้านยูโร คว้าตัวเขามาร่วมทีมในตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะผ่านการเล่น 6 นัดแรก แบบไม่มีประตูและแอสซิสต์สักครั้งเดียว แต่ฟอร์มของเขากำลังดูดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วน่าจะเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมได้ในอนาคตอันใกล้

ต่อกันที่อันดับที่ 9 เป็นดาวรุ่งในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าวัยแค่ 18 ปี จากสโมสร เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก ที่มีทีมแมวมองอันยอดเยี่ยมในการเสาะหานักเตะฝีเท้าดีอายุยังน้อย มาปลุกปั้นแล้วขายทอดตลาดได้ราคางามอยู่เสมอ นั่นก็คือ เบนจามิน เซสโก้ ที่ก้าวไปติดทีมชาติสโลวีเนียชุดใหญ่ และทำประตูแรกได้ไปแล้ว เซสโก้ เริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้งกับ ราเดเซ่ ทีมเล็กๆ ในลีกบ้านเกิด ก่อนจะถูกขายให้กับ เคิร์สโก้ ในเวลาต่อมา แล้วโชว์ผลงานการทำประตูอันสุดโหด ด้วยการยิงไป 59 ลูกจาก 23 นัด ในระดับเยาวชน

อันเป็นฟอร์มที่ไปเตะตาแมวมองของ ซัลซ์บวร์ก ที่ตัดสินใจประมูลเขามาร่วมทีมด้วยราคาสูงถึง 2.5 ล้านยูโร แล้วปล่อยให้ทาง เอฟซี ไลเฟอร์ริ่ง ทีมในลีกรองของประเทศออสเตรีย ยืมตัวไปใช้งานแบบชั่วคราว โดยในฤดูกาลก่อน เซสโก้ ยิงไปได้ถึง 21 ประตู จากการลงสนาม 29 นัด จนทำให้ต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง ซัลซ์บวร์ก เรียกตัวเขากลับมาใช้งานแล้วในตอนนี้

ถัดมาที่อันดับที่ 8 เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่อายุแค่ 17 ปี แต่การอยู่กับทีมยอดนักปั้นอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แทบจะเป็นการการันตีโอกาสแจ้งเกิดได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นก็คือ ยูสซูฟา มูโกโก้ ศูนย์หน้าสายเลือดแคเมอรูน ที่เลือกเล่นให้กับทีมชาติเยอรมันในระดับเยาวชน เนื่องจากย้ายมาอยู่กับคุณพ่อในเมืองเบียร์ตั้งแต่ปี 2014 พรสวรรค์ในเกมลูกหนังของเขาฉายแววตั้งแต่เล่นให้กับ ซังค์ เปาลี ชุดสำรอง ที่ถล่มตาข่ายไปได้ถึง 23 ลูก จากการลงเล่นเพียงแค่ 13 เกมเท่านั้น

แล้วก็เป็นทาง เสือเหลือง ที่รับไปฉกตัวมาปลุกปั้นในอะคาเดมี่ตั้งแต่ปี 2016 แล้วต้องการหาทางให้เขาลงเล่นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 15 ปี เพียงแต่ติดกฏของลีก บุนเดสลีก้า แต่มีการแก้กฏดังกล่าวในปี 2020 ทำให้ มูโกโก้ ได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองเพื่อโชว์ฝีเท้าอยู่บ้าง ซึ่งเขาเป็นเจ้าของสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดดที่ได้ลงเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มูโกโก้ เป็นผู้เล่นผิวสี ที่มีร่างกายและกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง ยังพัฒนาการเติบโตของร่างกายได้อีกหลายปี ทักษะเบสิคฟุตบอลอยู่ในระดับที่เกินอายุ มีวิชั่นการเล่นที่ต่างจากผู้เล่นรุ่นราวคราวเดียวกัน ว่ากันว่านี่คือสมบัติสุดรักสุดหวงชิ้นต่อไปของ ดอร์ทมุนด์ ที่จะกลายเป็นคีย์แมนของทีมในระยะยาวเลยทีเดียว

ต่อเนื่องกันที่อันดับที่ 7 เป็นดาวรุ่งสัญชาติฮอลแลนด์ ที่เป็นเด็กสร้างจากอะคาเดมี่ของสโมสร อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม อีกเช่นเคย นั่นก็คือ เดวีน เรนช์ส แบ็คขวามากทักษะวัยแค่ 19 ปี ที่มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดเหนือกว่าเพื่อนร่วมรุ่น ที่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ โดยไม่ผ่านการลงสนามให้กับทีม ยอง อาแจกซ์ มาก่อน

เรนช์ส เป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็คขวา แต่เมื่อลงเล่นให้กับทีมระดับเยาวชน เขาสามารถไปยืนเป็นกองกลางหรือแม้แต่แนวรุกตัวริมเส้นก็ได้เช่นเดียวกัน จุดเด่นของเขาอยู่ที่จังหวะการเข้าสกัดที่แม่นยำ มีการอ่านทางคู่แข่งล่วงหน้าราวกับเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ยิ่งไปกว่านั้นทักษะในการเล่นเกมบุกของเขาก็ไม่ธรรมดดา ไม่ว่าจะเป็นจังหวะเติมขึ้นไปครอสจากริมเส้น หรือแม้แต่ลากตะลุยเพื่อเปิดทางให้เพื่อนก็ทำได้หมด เชื่อว่าอีกไม่นานฝีเท้าของเขาน่าจะดีพอในการติดทีมทัพอัศวินสีส้มชุดใหญ่ในเร็ววัน

ปิดท้ายกันที่อันดับที่ 6 เป็นแนวรุกดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสวัยแค่ 18 ปี จากสโมสร โอลิมปิก ลียง ที่เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของสโมสรแท้ๆ ปลุกปั้นมาตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นก็คือ ไรอัน แชร์กี้ ปีกพรสวรรค์สูง ที่ได้โอกาสลงสนามในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่อายุแค่ 16 ปีเศษเท่านั้น จุดเด่นของดาวเตะรายนี้ คือ ความกล้าเกินวัย เทคนิคการเล่นที่ไม่ธรรมดา การตัดสินใจเลือกเล่นในแต่ละช็อตคล้ายคลึงกับผู้เล่นชุดใหญ่ที่มีประสบการณ์มากมาย สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งริมเส้นและเพลย์เมคเกอร์ มีจังหวะการลากเลื้อที่พริ้วไหวยากจะหยุด

น่าเสียดายเล็กน้อยที่สภาพร่างกายของเขา มักจะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยครั้ง จนขาดการพัฒนาแบบต่อเนื่อง แต่สถานะของเขาในทีม โอแอล ชุดปัจจุบัน คือหนึ่งในขุนพลของทีมชุดใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเพาะบ่มประสบการณ์ในการเล่นระดับสูงไปเรื่อยๆ รับรองได้เลยว่าชื่อของเขาคงเป็นที่คุ้นหูแฟนบอลในอีกไม่นาน

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้