เข้าสู่บทความปิดท้ายในซีรีส์ 10 ดาวรุ่งวงการลูกหนังที่น่าจับตามองมากที่สุด ซึ่งนำข้อมูลอ้างอิงมาจากสื่อฟุตบอลชั้นนำอย่าง Goal ที่เป็นสำนักข่าวที่นำเสมอข้อมูลต่างๆ ในแต่ละหัวข้อได้น่าสนใจ โดยในอีพีเปิดหัวในอันดับที่ 10-6 แฟนๆ คงได้เห็นกันไปแล้วว่า เกณฑ์การจัดอันดับของสื่อนี้ ไม่ได้เลือกมาเฉพาะนักเตะที่อายุอยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 23 ปี ที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มดาวรุ่ง ที่ยังเล่นในทัวร์นาเมนต์บอลเด็กได้อยู่ แต่คัดมาเน้นๆ ในกลุ่มที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี แล้วมีศักยภาพและชื่อเสียงที่ยังไม่ได้รับความนิยมจากแฟนบอลมากนัก และยังพัฒนาฝีเท้าได้อีกยาวๆ

แน่นอนว่าดาวเตะแต่ละรายที่มีชื่อติดลิสต์เข้ามาในสกู๊ปนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเป้าหมายของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ที่ส่งทีมแมวมองไปเฟ้นหาผู้เล่นพรสวรรค์สูงจากทั่วทุกมุมโลก แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทำให้ดีลดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น เพราะอาจต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ ได้ออกผ่านการลงเล่นบนเวทีที่มีความเข้มข้นกว่าระดับบอลเด็กเสียก่อน เพราะสุดท้ายแล้วปัญหาในการลงตลาดนักเตะทุกวันนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนเม็ดเงินที่ต้องทุ่มลงไป แต่เป็นเรื่องคุณภาพของนักเตะที่ต้องผ่านเกณฑ์ที่สโมสรตั้งเอาไว้ แถมต้องย้ายเข้ามาร่วมทีมในเวลาที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นก็ต้องรอโอกาสจนก้นด้าน แล้วเป็นเหมือนการปิดกัน้พัฒนาการของเหล่าดาวรุ่งไปแบบกลายๆ อย่างน่าเสียดาย

วันนี้เว็บไซต์ 168Kick พร้อมนำเสนอ 5 รายชื่อสุดท้ายในตำแหน่งท็อปไฟว์ ซึ่งการันตีเเรื่องคุณภาพฝีเท้าได้เลยว่า จัดจ้านเป็นเบอร์ต้นๆ ของกลุ่ม วันเดอร์ คิดส์ ที่เตรียมจ่อก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในอีกไม่นานเกินรอ โดยบางรายอาจเป็นที่รู้จักของแฟนบอลที่ติดตามข่าวสารวงการฟุตบอลเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ละมีใครกันบ้างที่ติดโผเข้ามา? แล้วปัจจุบันพวกเขาสังกัดอยู่กับทีมไหน? เล่นในตำแหน่งใด? ผลงานรวมๆ เป็นอย่างไรกันบ้าง?

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 เป็นดาวรุ่งขวัญใจแฟนบอล เดอะ ค็อปส์ เจ้าของฉายา เจ้าจุก ที่โชว์ศักยภาพฝีเท้าได้เกินวัย จนถูกดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เป็นการถาวร ทั้งที่เพิ่งจะอายุแค่ 18 ปีเศษเท่านั้น นั่นก็คือ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต แนวรุกสาระพัดประโยชน์ ที่ทาง เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ คว้าตัวมาจาก ฟูแล่ม ด้วยสนนราคาเพียงแค่ 1.7 ล้านยูโรเท่านั้น

แต่เชื่อว่าคงต้องจ่ายโบนัสเพิ่มอีกบานตะไท เพราะนับวันฟอร์มของเจ้าหนูรายนี้มีแต่โดดเด่นขึ้นตลอด เล่นได้อย่างสาระพัดประโยชน์ในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นกองกลางตัวรุก หรือ ปีกทั้งสองฝั่ง มีทักษะฟุตบอลที่เหนือชั้นเกินวัย กล้าเล่นกล้าลุย เหลือแค่รอลุ้นเรื่องสภาพร่างกาย ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บข้อเท้าหักว่า เอลเลียต จะกลับมาใช้ศักยภาพได้เต็มที่ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้แบบเดิมหรือไม่?

ต่อกันที่อันดับที่ 4 เป็นกองกลางพรสวรรค์สูง ที่ก้าวไปติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะทัพอินทรีเหล็กต้องการกันท่าทีมชาติอังกฤษ ที่เตรียมพร้อมเปิดศึกดึงตัว จามาล มูเซียล่า มิดฟิลด์สาระพัดประโยชน์ของ บาเยิร์น มิวนิค ไปติดธงอยู่รอมร่อ ก่อนจะช้าไปเพียงไม่กี่ก้าว

เมื่อนักเตะตัดสินใจเล่นให้ประเทศบ้านเกิด มูเซียล่า ผ่านการฝึกฟุตบอลกับอะคาเดมี่ชื่อดังในแดนผู้ดีทั้ง เซาแธมป์ตัน และ เชลซี แต่สุดท้ายแล้วเป็น เสือใต้ ที่ตัดสินใจกล่อมให้เขาย้ายไปเซ็นต์สัญญานักเตะอาชีพได้สำเร็จ ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี เขาเริ่มได้ลงสนามโชว์ฟอร์มบ่อยครั้งให้กับต้นสังกัดมากขึ้นเรื่อยๆ เล่นได้ทั้งตำแหน่งกลางรุกและตัวริมเส้น มีทักษะการเล่นที่ดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ จ่อคิวก้าวขึ้นป็นความหวังใหม่ของ บาเยิร์น ยุคต่อไปแบบไร้คู่แข่ง

ถัดมาที่อันดับที่ 3 เป็นแนวรุกดีกรีทีมชาติสเปนชุดใหญ่ ที่เพิ่งจะแจ้งเกิดแบบเต็มตัวกับ บาร์เซโลน่า แบบก้าวกระโดดในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเศษ กาบี กลายเป็นความหวังใหม่ของถิ่น คัมป์ นู ที่แฟนบอล อาซูลกราน่า มองว่าเขาจะกลายเป็น ลิโอเนล เมสซี่ คนใหม่ได้ในอนาคต ดาวเตะรายนี้เป็นผลผลิตของ เรอัล เบติส ที่ถูกทัพ เจ้าบุญทุ่ม ไปฉกตัวมาเข้าศูนย์ฝึก ลา มาเซีย ได้อย่างทันท่วงที ก่อนจะเซ็นต์สัญญาอาชีพ

กาบี สามารถเล่นได้ทั้งตัวแหน่งตัวรุกริมเเส้น หรือถอยต่ำลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์กลางสนามก็ได้เช่นกัน ทักษะในเกมลูกหนังของเขานั้นล้นเหลือ ผ่านการฝึกฝนมาอย่างเข้มข้น ทุกวันนี้สถานะของเขาเปลี่ยนจากขุมกำลังชุด เบ กลายเป็นขุนพลทีมลชุดใหญ่แบบเต็มตัว เหลือแค่การขัดเกลาอีกเล็กน้อยจากมือของ ชาบี เอร์นานเดซ ที่มีสิทธิ์ปลุกปั้นให้ดาวรุ่งรายนี้ เฉิดฉายขึ้นมากกว่าเดิม โดยตัวนักเตะนั้นมีการเล่นที่เต็มไปด้วยแรงกระหาย แล้วความกล้าเล่นเกินวัยเป็นทุนอยู่แล้ว

เข้าสู่ตำแหน่งรองท็อปกันที่ในรายของ ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ แนวรุกดาวรุ่งทีมชาติเยอรมันจากสโมสร ไบเออร์ เลเเวอร์คูเซ่น ที่ก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ของต้นสังกัด หลังจากทีมต้องเสีย ไค ฮาเวิร์ทซ์ ไปให้กับ เชลซี แลกกับการได้เม็ดเงินมหาศาลเข้ามา ดาวรุ่งรายนี้มีทักษะการเล่นและพรสวรรค์ที่แฟนบอลมองว่าใกล้เคียงกับ ฮาเวิร์ทซ์ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ทั้งยิงทั้งจ่าย แบกทีมในช่วงเวลาสำคัญๆ ได้บ่อยครั้ง จนถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวัยแค่ 18 ปีเท่านั้น

น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ เวิร์ทซ์ ต้องพลาดการไปลุยศึก ฟุตบอลโลก ในปีนี้แทบจะเป็นที่แน่นอนแล้ว เพราะเพิ่งจะบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกขาด อันเป็นปัญหาที่ร้ายแรงสำหรับนักฟุตบอลอาชีพ โดยตอนนี้แฟนบอลของทีม ห้างขายยา คงได้แต่ภาวนาให้เขากลับมาเล่นได้เต็มร้อยเช่นเดิม หลังสลัดปัญหาอาการบาดเจ็บได้ในอนาคต

ปิดท้ายกันที่ดาวรุ่งเบอร์หนึ่งในสายตาของสื่ออย่าง Goal ที่ยกให้ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางมากพรสวรรค์วัย 18 ปีของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ครองแชมป์ไปในสกู๊ปนี้ เขาเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่ก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในวัยแค่ 16 ปีเศษ แล้วโชว์ฟอร์มโดดเด่นแบบเกินวัย จนกลายเป็นที่หมายปองจากยักษ์ใหญ่หลายทีม แต่สุดท้ายแล้วเป็นทาง เสือเหลือง ที่กล้าทุ่มข้อเสนอราว 25 ล้านยูโร ดึงตัวเขามาเล่นในศึก บุนเดสลีก้า เยอรมัน ตามรอยของรุ่นพี่ในทีมชาติอังกฤษอย่าง เจดอน ซานโช่

เบลลิงแฮม เป็นกองกลางที่เล่นได้หลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นตัว สร้างสรรค์เกม หรือ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ทักษะในการเล่นเกมรับและเกมรุกนั้นเพียบพร้อม บวกกับแรงกระหายที่พร้อมวิ่งแบบไม่มีหมดตลอดด 90 นาที ไม่มีใครกล้าการันตีว่าเขาจะได้อยู่ค้าแข้งในเมืองเบียร์อีกนานเท่าไหร่ เมื่อทีมฟอร์มแรงอย่าง ลิเวอร์พูล เริ่มมีข่าวเชื่อมโยงกับเขาแบบหนาหูว่า พร้อมทุ่มเงินระดับร้อยล้านยูโร แลกกับการได้ตัวเขามาเล่นในถิ่น แอนฟิลด์