ท็อดด์ โบห์ลี่ ไหวไหมนี่

“คนเก่าเขาทำไว้ดี” ประโยคนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวไม่น้อย ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เพราะมันคือการเปรียบเทียบกันแบบชัดเจน ซึ่งเราจะไม่พูดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องฟุตบอลกัน โดยเป็นประเด็นของสโมสรขวัญใจแฟนบอลไทยอีกหนึ่งทีม ที่มีแฟนบอลให้การติดตามและเอาใจช่วยกันหนาหูหนาตาพอสมควร แต่ก็อาจจะไม่เท่าตอนที่พวกเขาผงาดได้แชมป์ลีกรัวๆ มาเชยชม ก็เป็นอันเข้าใจกันได้ แต่ก็เป็นการคัดแฟนบอลพันธุ์แท้ไปในตัว โดยจะมาพูดถึงเรื่อง ประธานเจ้าของคนใหม่นามว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ เศรษฐีชาวอเมริกัน ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ว่าเขาจะซื้อสโมสรเพราะรักทีมจริงๆ หรือ เข้ามากอบโกยเงินแค่นั้น

การขายทีมแบบจำใจของ โรมัน อับราโมวิช

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมากสำหรับแฟนบอลและทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” ที่ โรมัน อับราโมวิช หรือ “เสี่ยหมี” ฉายาที่คนไทยตั้งให้เขา ได้จำใจขายสโมสรให้กับ ท็อดด์ โบห์ลี นักธุรกิจสัญชาติอเมริกัน วัย 47 ปี แบบที่ไม่ได้เดินทางมาที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ หรือก้าวเท้ามายังประเทศอังกฤษ เพราะถูกแบน ตั้งแต่ปี 2561 ด้วยข้อหาเป็นพวกพ้องของ วลาดิเมียร์ ปูติน ยิ่งมีสงครามระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยิ่งแล้วกันใหญ่ ทำให้เขาต้องขายสโมสรแบบโดนบังคับกลายๆ ก็ไม่ผิดนัก

แน่นอนว่าตั้งแต่เจ้าตัวเทคโอเวอร์ในปี 2003 เป็นต้นมา รวมระยะเวลากว่า 19 ปี เขาได้ทำให้สโมสรทีมนี้ กลายเป็นบิ๊กทีมแห่งพรีเมียร์ลีก และ ยุโรป สถาปนาเป็นยอดทีม จากทีมที่อยู่โซนบนของตาราง กลายเป็นทีมแชมป์ ที่เรียกได้ว่าทุกปีต้องมีแชมป์อะไรก็ได้ติดมือ เรื่องความสำเร็จแฟนบอลทราบกันดีอยู่แล้ว

แต่ทว่าการที่ ท็อด โบห์ลี่ เป็นเจ้าของใหม่ของทีม เขาจะสามารถพาทีมแห่งนี้บินสูงเหมือนเดิมได้หรือไม่ เพราะมาตรฐานที่คนเก่าทำเอาไว้ ถือว่าสูงเหลือเกิน ซึ่งตอนนี้ยังฟันธงกันไม่ได้ เพราะบอลยังไม่ได้เปิดฤดูกาล แต่ก็มาดูในส่วนของการเสริมทัพนักเตะ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นด่านแรกที่เจ้าของทีมชาวอเมริกัน จะต้องพิสูจน์ให้ตัวเองเห็น

ท็อดด์ โบห์ลี่ ไหวไหมนี่

แรกเริ่มเดิมที ผู้เขียนจะทำบทความนี้เสร็จไปตั้งนานแล้ว แต่ถ้าการรีบออกงานมาแบบชุ่ยๆ แบบที่ซี้ซั้วคิดไปเอง รีบออกงาน หรือ รีบโพสต์ให้งานมันครบๆ เสร็จๆ ไป มันก็เป็นอะไรที่ดูทุเรศไปหน่อย ผู้เขียนจึงรอดูสถานการณ์ให้แน่ชัด แล้วค่อยซัดแบบตรงเป็นเด็น เอาเหตุผลและความน่าจะเป็นมาคุยกัน เพราะทีแรก ต้องยอมรับว่า เชลซี เดินเกมช้าในเรื่องของการเสริมทัพนักเตะ เพราะดูจากทีมคู่แข่งที่เหนือกว่าเขาสองทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ได้เสริมทัพอาวุธหนักมาแล้ว ได้อย่างฮือฮาทั้งที่ตลาดยังไม่เปิดทำการด้วยซ้ำไป

จากการที่พวกเขาเสียแนวรับอย่าง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังพันธุ์ห้าวเป้ง ที่ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด และ อันเดรียส คริสเตนเซ่น กองหลังตัวกลางที่ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ทำให้พวกเขาต้องเสริมเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีพอจะเป็นตัวจริง มายืนคู่กับ ติอาโก้ ซิลวา ซึ่งแน่นอนว่าอายุอานามก็มากแล้ว จะให้เป็นตัววิ่งตัวชน ก็คงไม่ไหว ดังนั้นตำแหน่งที่ขาดคือกองหลังอีกราย ซึ่งในรายของ ฌูลส์ คูนเด้ ปราการหลังของ เซบีย่า ที่มีข่าวลือออกมาอย่างหนักว่า เป็นเป้าหมายเสริมทัพรายแรกๆ ของทีม ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว

แต่ทว่าล่าสุด พวกเขาประกาศคว้าตัว คาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังฝีเท้าดีจาก นาโปลี มาเสริมทัพ แม้อายุจะ 31 ปี แต่ดูทรงแล้วเล่นได้ ถือว่าเป็นการเสริมทัพที่ดีเลยทีเดียว แต่เมื่อมงดูรายชื่อที่เหลือ ถ้าพวกเขาคว้า คูนเด้ มาได้ ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีพอสมควร ส่วน นาธาน อาเก้ ความคิดเห็นของผู้เขียน ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะนัก เพราะนอกจากราคาแพงแล้ว ฟอร์มที่อยู่กับ ซิตี้ ก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เสี่ยงซื้อแพงแต่ได้แค่อะไหล่ มันไม่น่าจะคุ้มกันนัก

ส่วนรายของ มัทไธจ์ เดอ ลิกต์ ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งตรงจุดนี้ ไม่ได้แข้งรายนี้ก็ไม่มีอะไรเสียหายมากนัก เพราะผลงานของเจ้าตัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ส่วนทางแบ็ค พวกเขาก็น่าจะพยายามรั้งตัว เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ มาร์กอส อลอนโซ่ ไว้กับทีม แต่ถ้าปล่อยไป แน่นอนว่าเจ้าของทีมก็ต้องทุ่มกันหน่อย เพราะแผนของ ทูเคิ่ล แบ็คทั้งสองฝั่งมีความจำเป็นอย่างมากต่อระบบการเล่นของเขา

ถัดมาที่กองกลาง การที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ฉีดวัคซีนไปแค่เข็มเดียว มันไม่เป็นผลดีต่อการเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่น และ รายการแข่งขันนอกประเทศ ส่วนทาง จอร์จินโญ่ แข้งคนสำคัญอีกราย ก็ออกอาการมึนงงต่อสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ เพราะเหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียวเท่านั้น

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กองกลางดาวรุ่งที่ถูกยืมตัวไปอยู่กับ คริสตัล พาเลซ ก็ทำผลงานได้สะแดวแห้ว หวังว่าแข้งรายนี้จะได้ลงเล่นกับต้นสังกัดที่แท้จริงเสียที แต่ทว่า อนาคตของ บิลลี่ กิลมอร์ ที่เคยดูว่าจะมีแวว อนาคตยังดูน่าเป็นห่วง แต่ดูทรงว่าตรงจุดนี้ ส่วน เดแคลน ไรซ์ ดูแล้วยากที่จะได้ตัว เพราะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตั้งราคาไว้ถึง 100 ล้านปอนด์

ส่วน เฟรงกี้ เดอ ยองต์ ถ้าพวกเขาสนใจจริงก็มีโอกาส เพราะภาษีดีกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะพวกเขาได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั่นเอง ถัดมาที่ตัวรุก เอาเข้าจริงไม่น่าปล่อย โรเมลู ลูกากู ในรูปแบบยืมตัว แม้นักเตะจะโคตรงองแงใจมดก็ตาม เพราะน่าจะใช้จิตวิทยาหรือให้แข้งรายนี้ไปพบแพทย์แล้วไซโคว่า อยากจะล้มเหลวที่พรีเมียร์ลีกอีกเหรอ? แต่เราก็ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น เลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

ส่วน ฮาคิม ซีเย็ค ถูกปล่อยไปก็ไม่น่าจะมีผลอะไรมาก โดยพวกเขาคว้าตัว ราฮีม สเตอร์ลิ่ง มาแล้ว ก็ถือเป็นการซื้อตัวที่ดีพอสมควร แต่ตอนนี้พวกเขาขาดกองหน้าตัวเป้า ถ้าจะดันเอา อาร์มันโด้ โบรฆา มาสลับลงกับ ติโม่ แวร์เนอร์ ก็พอดูดีพอสมควร

ส่วนเรื่องข่าวการซื้อตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีรายงานว่า เป็นลิสต์การเสริมทัพของ ท็อด โบห์ลี่ย์ ที่ต้องการแข้งรายนี้ ก็เข้าใจได้ เพราะเป็นเรื่องการตลาดและการจะให้แฟนบอลได้มอบความรักให้แก่เขา แต่ก็มีรายงานว่า โธมัส ทูเคิ่ล ไม่อยากได้แข้งสตาร์รายนี้ เพราะกลัวจะควบคุมยากและขัดต่อแผนการทำทีมของเขา แต่ถ้าดีลนี้เกิดขึ้นจริง ผลดีก็ส่งถึงสโมสรและประธานสโมสรโดยตรง

ในส่วนทีมบริหาร ปีเตอร์ เช็ค ได้แยกทางกับ เชลซี จากตำแหน่ง ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคนิค คอยดูแลบรรดานักเตะชุดใหญ่ รวมถึงดาวรุ่งที่ย้ายออกไปค้าแข้งด้วยสัญญายืมตัวกับสโมสรอื่น โดยก่อนหน้านี้เขาทำงานกับ มาริน่า กรานอฟสกายา ผู้อำนวยการสโมสร ที่เพิ่งอำลาสโมสรไป เช่นเดียวกับ บรูซ บัค ประธานสโมสรที่จะอำลาตำแหน่งเช่นกัน

ก็เรียกว่าตำแหน่งสำคัญหายไปสามตำแหน่ง ก็จะดูว่าจะมีใครมารับตำแหน่งนี้แทน ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็เป็นงานหนักของ โบห์ลี่ เอาแค่การเสริมทัพ ที่เดินหน้าช้าไปนิดหน่อย ถ้าเทียบกับทีมอื่น แต่ถ้าพวกเขาได้นักเตะที่เป็นเป้าหมายการเสริมทัพหลักเข้ามาสู่ทีมจริงๆ ด่านแรกในตลาดการซื้อ-ขาย ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์

แต่การได้ตัว คูลิบาลี่ และ สเตอร์ลิ่ง แค่สองรายในตอนนี้ บอกเลยว่า ผลงานของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ยังไม่ดีเพียงพอ

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top