ทำความรู้จัก 3 ทีมน้องใหม่ศึกพรีเมียรลีก ฤดูกาล 2022-23

พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-23 ใกล้จะเริ่มเปิดฉากฟาดแข้งกันทุกขณะ แน่นอนว่าทุกๆปีจะต้องมีทีมน้องใหม่ที่ขึ้นมาจากเวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งปีนี้มีทั้งทีมที่คุ้นหน้งคุ้นตาอย่าง ฟูแล่ม และ บอร์นมัธ รวมไปถึงทีมที่ห่างหายจากลีกสูงสุดไปนานอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ผ่านการเลื่อนชั้นขึ้นมา วันนี้ 168kick จะพาเพื่อนๆไปเจาะลึกทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น ดูว่าแต่ละทีมมีดีอะไรที่ทำให้สามารถขึ้นมาโลดแล่นบนลีคสูงสุดได้

ฟูแล่ม

เจ้าสัวน้อย” ภายใต้การคุมทีมของ มาร์โก ซิลวา กุนซือชาวโปรตุเกส ที่มีประสบการณ์หลายปีบนเวทีพรีเมียร์ลีก เลื่อนชั้นขึ้นมาในฐานะแชมป์ของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดยพวกเขาโกยมาได้ถึง 90 คะแนนจาก 46 เกมที่ลงเล่น

ฟูแล่ม เป็นทีมที่มีเกมรุกดุดันในลีกรองพวกเขาซัดไปถึง 106 ประตู ทิ้งห่างทีมอืนๆแบบไม่เห็นฝุ่น โดยแผนการเล่นหลักๆมีอยู่ 2 ระบบ มักจะใช้ 4-2-3-1 เป็นหลุก และหากเกมไหนที่หวังจะบุกแหลกก็จะปรับมาใช้ระบบ 4-3-3 นอกจากนี้แม้จะมีอัตราการยิงประตูที่สูงมากๆแต่ทว่า ฟูแล่ม กลับมีเกมรับที่ไว้ใจได้เช่นกัน พวกเขาไม่ได้เป็นสไตล์ที่ยิงมายิงกลับ เกมรับสามารถไว้ใจได้ ดูแล้วแตกต่างจากทีมน้องใหม่สไตล์ชอบเกมรุกทีมอื่นๆ ที่มักขึ้นมาตกม้าตายบนลีกสูงสุด เนื่องจากรับมือกับบรรดาแนวรุกของทีมในพรีเมียร์ลีกไม่ไหว

สำหรับผู้เล่นที่น่าจับตามองของแชมป์จากแชมเปี้ยนชิพส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นเกมรุก เริ่มที่ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้าร่างใหญ่ชาวเซอร์เบีย ที่เคยมีประสบการณ์บนลีกสูงสุดกับนิวคาสเซิ่ลมาแล้ว แม้ผลงานตอนนั้นจะไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่ก็ตาม มิโตรวิช กลายมาเป็นยอดดาวยิงของลีกรองเขาทำไปถึง 43 ประตูจาก 44 เกมที่ลงเล่นในลีก คว้าตำแหน่งดาวซัลโวแบบไม่มีใครแข่งด้วยต้องมารอดูว่าการกลับมาคราวนี้กองหน้าวัย 27 ปี จะกู้ชื่อเสียงของตนเองให้กลับมาได้หรือไม่

นักเตะที่น่าจับตามองรายต่อมา แฮร์รี วิลสัน ปีกชาวเวลส์ อดีตดาวรุ่งน่าจับตามองของสโมสร ลิเวอร์พูล ฤดูกาลที่ผ่านมาเขาเป็นท็อปแอสซิสต์ของลีกทำไปคนเดียว 19 ครั้ง เป็นอีกคนที่ทำให้แนวรุกของ ฟูแล่ม ยิงทะลุร้อยประตู

บอร์นมัธ

เดอะเชอร์รีส์” อยู่ภายใต้การคุมทัพของ สก็อต พาร์คเกอร์ เลื่อนชั้นขึ้นมาในฐานะรองแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เป็นทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่น ฤดูกาลที่ผ่านมาเสียประตูน้อยที่สุดในลีก(39 ประตู) และแพ้น้อยที่สุด โดยแผนการเล่นเก่งคือ 4-3-3 จุดที่น่าเป็นห่วงแน่นอนว่าคือเรื่องแนวรุกที่ฝากความหวังไว้กับกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียวเท่านั้น หากขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดของประเทศอาจจะโดนจับทางได้ง่าย

ผู้เล่นที่น่าจับตามอง คนแรกเริ่มที่ โดมินิก โซลันเก้ อดีตกองหน้าอนาคตไกลของทีมชาติอังกฤษ เด็กปั้นของ เชลซี ที่เคยค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล แต่ไม่ประสบความสำเร็จกับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศ จนต้องออกมาเก็บประสบการณ์กับทีมที่พร้อมให้โอกาสลงสนาม เขากลายมาเป็นดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของทีม เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาซัดไปคนเดียว 29 ประตู เป็นรองดาวซัลโวของศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ

ฟิลลิป บิลลิ่ง มิดฟิลด์ร่างยักษ์ชาวเดนมาร์ก นอกจากจะเล่นเกมรับได้ดีแล้ว ด้านเกมรุกยังหวังผลได้ฤดูกาลที่ผ่านมา ทำไป 10 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ และนักเตะอีกรายที่น่าจับตามอง ลอยด์ เคลลี่ ปราการหลังหนุ่มอนาคตไกลสัญชาติอังกฤษ เป็นกองหลังตัวหลักที่ทำให้ “เดอะเชอร์รีส์” กลายเป็นทีมที่มีเกมรับดีที่สุด จนคว้าตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

เจ้าป่า” อดีตทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษที่ห่างหายจากเวทีพรีเมียร์ลีกไปนานถึง 23 ปี คุมทัพโดย สตีฟ คูเปอร์ กุนซือชาวเวลส์ พวกเขาเป็นทีมที่ชนะเลิศในรอยเพลย์ออฟ หลังจบเป็นอันดับ 4 ของตารางคะแนนในฤดูกาลปกติ สำหรับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถือเป็นทีมที่เล่นได้หลายแท็กติก โดยวิธีการเล่นที่ใช้บ่อยๆคือระบบกองหลัง 3 คนอย่าง 3-4-1-2 เมื่อต้องเล่นเกมรับเยอะก็จะปรับมาเป็น 5-3-2 และแม้จะมีเซนเตอร์ฮาร์ฟถึง 3 คน แต่พวกเขากลับเป็ยทีมที่เล่นเกมรุกได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย

ผู้เล่นตัวเก่งของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มีหลายรายเลยทีเดียวทั้ง เบรนแนน จอห์นสัน ปีกตัวเก่งที่อายุเพียง 21 ปี แต่ทำไปถึง 18 ประตู พร้อมกับ 10 แอสซิสต์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา, ไรอัน เยตส์ มิดฟิลด์ตัวรับหนุ่มที่มีส่วนช่วยทีมทำไปถึง 9 ประตู แม้จะเล่นเรื่องเกมรับเป็นหลัก รวมไปถึง สก็อตต์ แมคเคนนา กองหลังคนสำคัญที่ลงสนามช่วยทีมแทบทุกเกมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และต้องมารอลุ้นว่าจะได้ตัว เจมส์ การ์เนอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งอนาคตไกลที่ยืมมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาช่วยทีมอีกปีหรือไม่ เพราะดาวเตะรายนี้ถือเป็นแข้งตัวหลักที่ช่วยทีมให้กลับขึ้นมาสู่เวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top