ผ่านไปแล้วในตอนแรกกับบทความ 10 อันดับดาวยิงสูงสุดในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งแฟนๆ คงได้เห็นกันไปแล้วว่า มีพ่อค้าแข้งหลายรายที่ทำผลงานได้น่าจับตามอง แต่สุดท้ายแล้วน่าเสียดายที่ชาติของพวกเขา อาจไม่ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ถึงแม้จะมีสถิติการถล่มประตูที่ไม่ธรรมดา แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง รวมไปถึงคุณภาพทีมโดยรวม ที่สู้คู่แข่งในโซนต่างๆ ไม่ไหว แฟนๆ เลยอดดูการวาดลวดลายของผู้เล่นบางราย บนรายการที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ที่เขี้ยวที่สุดในวงการลูกหนัง

ปัจจุบันกฏการแข่งขันฟุตบอลโลก ไม่ว่าจะเป็นรอบใดก็ตาม ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย เพื่อหาทางให้ได้รับความนิยมจากแฟนบอลมากขึ้น แต่ละโซนจะมีโควต้าที่เหมาะสมตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้คร่าวๆ ก่อนจะมีการประชุมกันตามรอบ หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากคณะกรรมการในภายหลัง แน่นอนว่าศึก เวิลด์ คัพ จะขาดทีมแม่เหล็กที่ดึงดูดแฟนบอลให้ติดตามไม่ได้ แต่ด้วยปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ย่อมทำให้มีชาติมหาอำนาจบางชาติ ต้องตกรอบไปตั้งแต่หัววันอย่างน่าเสียดาย ทำให้อดไปโชว์ฝีเท้าในรายการที่ 4 ปีจะมีครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าหวยไปออกที่ อิตาลี เจ้าของแชมป์ยูโรครั้งล่าสุด

บทความนี้เตรียมปิดท้ายคอนเทนต์นี้ ในอันดับที่ 5-1 ซึ่งการันตีได้เลยว่า ซูเปอร์สตาร์ที่ติดโผเข้ามาในคลิปนี้ ล้วนแต่เป็นดาวเตะที่แฟนบอลคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี แล้วครั้งนี้อาจเป็นบอลโลกครั้งสุดท้ายของหลายคน ที่อายุอานามกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการค้าแข้ง มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่าในตำแหน่งท็อปไฟว์ของสกู๊ปนี้จะมีใครติดโผเข้ามาบ้าง?

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 เป็นกองหน้าเท้าคมที่สังกัดอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง อินเตอร์ มิลาน ที่กำลังลุ้นคั่วแชมป์ลีกอิตาลีอย่างเมามัน นั่นก็คือ เอดิน เชโก้ ที่เป็นตัวแบกของทีมชาติ บอสเนีย แอนด์ เฮเซอร์โกวีน่า ในแดนหน้า แต่น่าเสียดายที่พาทีมไปไม่ถึงฝั่งฝัน ต้องตกรอบไปแต่หัววันเพราะอยู่ร่วมกลุ่มที่หินไม่น้อย อย่างไรก็ตามผลงานส่วนตัวของ เชโก้ ในการเล่นรอบคัดเลือกที่ผ่านมาก็มองข้ามไม่ได้ เพราะเขากดประตูไปได้มากถึง 25 ลูกเลยทีเดียว ทั้งที่ศักยภาพทีมอาจสู้คู่แข่งทีมอื่นในโซนยุโรปไม่ได้ก็ตาม

ถัดมาที่อันดับที่ 4 เป็นแนวรุกเบอร์หนึ่งของทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่เป็นที่มาของวลีที่ว่า โน เมสซี่ โน ปาร์ตี้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงสังกัดสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ต่อให้ผลงานในระดับสโมสรจะดร็อปลงไป แต่ยามลงเล่นบนเวทีทีมชาติ ยังคงเป็นตัวแบกทีมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เกม หรือการยิงประตูสำคัญๆ แม้ว่าอายุอานามจะย่างเข้าสู่วัย 35 ปี แต่ฟอร์มของเขาไว้ใจได้เสมอ แฟนบอลฟ้าขาวอุ่นใจทุกครั้งที่เห็นเขาลงสนาม เห็นได้จากตัวเลข 28 ประตู ที่เขากดไปในรอบคัดเลือกที่ผ่านมาทั้งหมด

ต่อกันที่อันดับที่ 3 เป็นศูนย์หน้าที่เคยผ่านเข้าไปเล่นใน เวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายมาแล้ว และสร้างวีรกรรมเอาไว้จนเป็นที่จดจำในทางไม่ดี นั่นก็คือ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงที่การจบสกอร์หน้าปากประตู คมไม่แพ้ฟันของเขา ปัจจุบันในวัย 35 ปี บทบาทของเขาในทีม แอตเลติโก มาดริด เปลี่ยนไปกลายเป็นตัวสำรองคอยเปลี่ยนเกมในช่วงหลัง เพื่อเปิดโอกาสให้กองหน้ารุ่นน้อง ได้มีซีนในการแสดงศักยภาพกันบ้าง แล้วถึงตอนนี้ก็ได้อำลาทีมไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตลอดเส้นทางการค้าแข้งที่ผ่านมา ซัวเรซ ก็โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมให้กับทีมชาติอุรุกวัยอยู่เสมอ เห็นได้จากสถิติที่ยิงไปถึง 29 ประตู ที่เป็นตัวเลขที่มากพอตัว

เข้าสู่ตำแหน่งรองท็อปแม้ว่าจำนวนประตูของเขา จะเท่ากับอันดับที่สามที่ผ่านมา แต่ด้วยศักยภาพของทีมชาติที่เป็นรอง หลายสื่อจึงมอบตำแหน่งนี้ให้กับเขา นั่นก็คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หนึ่งในกองหน้าเบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน ร้อนแรงในการถล่มประตูมาสองปีติด แถมในปีนี้ยังแบกทีมชาติโปแลนด์ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ได้สำเร็จ แน่นอนว่าเขาคือความหวังเบอร์หนึ่งของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย การยิงไปถึง 29 ประตูให้กับทีมชาติโปแลนด์ ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ผ่านมาทั้งหมด ย่อมเป็นการการันตีคุณภาพฝีเท้าของเขาได้เป็นอย่างดี หวังว่าเขาจะไปได้ดีกับทีมใหม่อย่าง บาร์เซโลน่า

ปิดท้ายกันที่แชมป์อันดับหนึ่งประจำสกู๊ปนี้ เจ้าของสถิติการยิงประตูให้กับทีมชาติสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์โลกฟุตบอล เครื่องจักรถล่มประตูขนานแท้ ที่ถึงแม้ในช่วงแรกจะเล่นในตำแหน่งปีก มีแค่ลีลาที่วูบวาบเร้าใจในช่วงวัยรุ่น แต่พอปรับสไตล์การเล่นมาเป็นตัวจบสกอร์แล้ว อะไรก็หยุดเขายากจริงๆ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แนวรุกทีมชาติโปรตุเกส วัย 37 ปี ที่บอลโลกรอบสุดท้ายรอบนี้ น่าจะเป็นสมัยสุดท้ายของเขาแล้ว ถ้าคาดเดาจากอายุในปัจจุบัน ตลอดการเล่นรอบคัดเลือกในรายการนี้ ซีอาร์เซเว่น ถล่มประตูไปได้มากถึง 32 ลูก ครองบัลลังก์ได้อย่างน่าชื่นชม แล้วคงเพิ่มจำนวนได้อีกไม่น้อยหลังจากนี้