5 แข้งพรีเมียร์ที่ฟอร์มโหดทันทีหลังย้ายมา  

ดาร์วิน นูเนซ หัวหอกคนใหม่ชาวอุรุกวัยของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตะบันคนเดียว 4 ลูก ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่พลพรรค “หงส์แดง” บุกไปอัด แอร์เบ ไลป์ซิก แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน 5-0

ขณะที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ศูนย์หน้าป้ายแดงทีมชาตินอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ใช้เวลาเพียง 10 นาที ประเดิมสกอร์แรกให้กับพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือชาวสเปน ในเกมกระชับมิตรกับ บาเยิร์น มิวนิค

2 ดาวยิงคนใหม่ของทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ถือว่าน่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับฤดูกาลใหม่ที่เริ่มขึ้น และตลอดหลายปีที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีก ก็มีผู้เล่นป้ายแดงที่ย้ายเข้ามา และทำผลงานได้สุดยอดตั้งแต่ปีแรก ซึ่ง 5 แข้งต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาระเบิดฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเพียงใด

1. เลส เฟอร์ดินานด์

เฟอร์ดินานด์ เป็นหนึ่งในยอดดาวยิงในของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยุคบุกเบิกเมื่อซีซั่น 1992/93 โดยอดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ซัดปถึง 20 ประตู พาต้นสังกัดอย่าง ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ทะยานขึ้นมาจบด้วยอันดับที่ 5 ในตารางคะแนน

จากฟอร์มที่สุดยอดตลอด 3 ปี กับ คิวพีอาร์ ทำให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 6 ล้านปอนด์ คว้าตัว เฟอร์ดินานด์ ไปล่าตาข่าย และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ทีมใหม่ต้องผิดหวังหลังระเบิดตาข่ายทันทีไปในเกมเปิดตัวกับ โคเวนทรี จากนั้น ซัดอีก 2 ประตู ในเกมกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ในอีก 3 วันต่อมา

ผลงานปีแรกของ เฟอร์ดินานด์ กับ นิวคาสเซิล นั้น เขายิงประตูไปรวมทุกรายการถึง 29 ลูก จาก 43 เกมที่ลงสนาม ซึ่งเป็นจำนวนที่เหลือเชื่อมากทีเดียว

2. ดิเอโก้ คอสต้า

หัวหอกชาวสเปน ย้ายจาก “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ในศึกลา ลีกา มาร่วมทีม เชลซี ด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์ปี 2014 และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดย คอสต้า ทำประตูในเกมเปิดตัวศึก พรีเมียร์ลีก กับ เบิร์นลีย์ ต่อด้วยยิง เลสเตอร์ ซิตี้ และซัดเบิ้ล 2 ลูกกับ เอฟเวอร์ตัน และกดแฮตทริกใส่ สวอนซี

คอสต้า ยังคงถล่มตาข่ายคู่แข่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหลังซัดไป 11 ลูก จาก 10 เกมแรกในลีก และซีซ่นดังกล่าว ดาวยิงเลือด “กระทิงดุ” ก็ช่วยให้ เชลซี คว้าแชมป์ลีกสำเร็จ เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีของสโมสร  พน้อมจบผลงานส่วนตัวด้วยการยิงไป 20 ประตู แม้จะได้รับบาดเจ็บ และติดโทษแบนอยู่บ่อยครั้งก็ตาม

3. อลัน เชียร์เรอร์

เชียร์เรอร์ ยังคงเป็นดาวซัลโวสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ด้วย 260 ประตู ตลอดอาชีพค้าแข้ง 14 ปี ในลีกสูงสุดของอังกฤษ ดังนั้น จึงไม่น่าเซอร์ไพรส์เลยที่เขาจะออกสตาร์ทได้อย่างน่าทึ่งกับสโมสรใหม่อย่าง “กุหลาบไฟ” แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 1992-93 แบล็กเบิร์น ทำลายสถิติการซื้อตัวแพงที่สุดของเกาะอังกฤษด้วยการทุ่มเงิน 3.6 ล้านปอนด์ คว้าตัว เชียร์เรอร์ วัย 22 ปี มาจาก เซาแธมป์ตัน ซึ่งพลพรรค “กุหลาบไฟ” ปาดหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนใจนักเตะได้สำเร็จ

เชียร์เรอร์ ทำผลงานได้อย่างสุดยอด หลังยิง 2 ประตู ในเกมเปิดตัวกับ คริสตัล พาเลซ และถล่มตาข่ายไปถึง 10 ประตูจากการลงเล่น 10 นัดแรกในลีก ก่อนที่อาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าจะทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่เขาก็ยังซัดให้กับ แบล็กเบิร์น ตลอดทั้งซีซั่น 20 ประตูเลยทีเดียว

4. โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

ปีกชาวอิยิปต์ เคยล้มเหลวในพรีเมียร์ลีก มาแล้ว ระหว่างเล่นให้กับ เชลซี ในปี 2014-16 ก่อนจะย้ายไปเรียกฟอร์มกับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และในซัมเมอร์ปี 2017 ลิเวอร์พูล ก็ทุ่มเงิน 37 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขามาเสริมทัพ 

ซาล่าห์ ต้องการพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักว่า สามารถเล่นในลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้ และเขาก็ทำสำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มเยี่ยมตั้งแต่เกมแรกกับ ลิเวอร์พูล ด้วยการซัดประตูใส่ วัตฟอร์ด และยังคงยิงคู่แข่งอย่างต่อเนื่องด้วยผลงาน 12 ประตูจากการลงเล่น 15 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก

ขณะเดียวกัน ซาล่าห์ ยังคงร้อนแรงไม่หยุดตลอดทั้งซีซั่นดังกล่าว โดยซัดไปถึง 32 ประตูในลีกจาก 36 เกมที่ลงสนาม พร้อมความรางวัลรองเท้าทองคำได้สำเร็จ และสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของศึกพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ปี 1994/95 เลยทีเดียว

5. รุด ฟาน นิสเตลรอย

เครื่องจักรถล่มประตูชาวฮอลแลนด์ ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น ในเอริวี่ลีก มาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2001 ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ โดยก่อนหน้านี้ 1 ปี ฟาน นิสเตลรอย เกือบย้ายมาเล่นกับ “ปีศาจแดง” เต็มทีแล้ว แต่มีปัญหาอาการบาดเจ็บจึงทำให้การย้ายสังกัดต้องหยุดชะงักไป

 ในปีแรก ศูนย์หน้าชาวดัตช์ ไม่ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสก็อตแลนด์ และแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องผิดหวังเลยหลังรอคอยเจ้าตัวมาปีเต็มๆ หลังซัดไปถึง 2 ประตูในเกมประเดิมสนามช่วยให้  “ปีศาจแดง” เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด เอาชนะ ฟูแล่ม แบบสุดมันส์ 3-2

 ซีซั่นดังกล่าว ฟาน นิสเตลรอย ซัดรวมกันไปถึง 36 ประตู จาก 49 เกมที่ลงสนาม ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นสถิติที่โหดสุดๆสำหรับนักเตะที่ย้ายมาเป็นปีแรก

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top