10 อันดับนักเตะที่เก็บแต้มได้มากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังผ่าน 100 นัดแรก ตอนจบ

ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในหัวข้อ 10 อันดับนักเตะที่เก็บแต้มได้มากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังผ่านการลงเล่น 100 นัดแรกไปแล้ว ผู้อ่าน คงได้เห็นกันตามรายชื่อไปแล้วว่า พ่อค้าแข้งแต่ละราย ส่วนใหญ่แล้วเป็นการซื้อตัวมาเสริมทัพทั้งสิ้น ซึ่งยุคของการใช้เงินเพื่อซื้อความสำเร็จ เป็นผลมาจากการเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร เชลซี ของมหาเศรษฐีชาวรัสเซียอย่าง โรมัน อบราโมวิช ที่พลิกโฉมลีกสูงสุดแดนผู้ดีจากหน้ามือเป็นหลังมือ แสดงให้เห็นถึงพลังของเม็ดเงินในด้านบวกว่า ถ้าใช้แบบถูกทิศถูกทางไม่หว่านมั่วซั่ว สามารถพาทีมไปถึงแชมป์ได้

แน่นอนว่าศึก พรีเมียร์ลีก ทุกวันนี้ มีการพัฒนาการของลีกแบบก้าวกระโดด ผู้เล่นชั้นนำทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะย้ายมาสัมผัสบรรยากาศสักครั้ง เพราะเป็นเวทีที่รวบรวมดาวเตะฝีเท้าดีเอาไว้มากมาย การแข่งขันชิงชัยสูงเอามากๆ เริ่มต้นตั้งแต่บุคบิ๊กโฟร์ ที่มีม้าแค่สี่ตัวที่เป็นเต็งแชมป์ เปลี่ยนมาเป็นท็อปซิกซ์ ที่แต่ละสโมสรล้วนมีขุมกำลังนักเตะที่แข็งแกร่งใกล้เคียงกัน ต้องลุ้นกันว่าฝีมือของกุนซือคนไหน ที่ปรุงแต่งวัตถุดิบได้กลมกล่อมที่สุด แล้วสามารถยืนระยะรักษาผลงานการเก็บแต้มได้แบบยาวๆ จนก้าวขึ้นไปสู่บัลลังก์แชมป์ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งสถานการณ์แต่ละเกมยากที่จะมีใครคาดเดาได้ หากพลาดทำแต้มหล่นเพียงแค่ไม่กี่นัด โอกาสมีสิทธิ์หลุดดลอยไปอยู่ในมือของคู่แข่ง เปลี่ยนชะตากรรมของทีมได้ในชั่วพริบตาเดียว

วันนี้ทีมงาน 168Kick พร้อมนำเสนอ บทความปิดท้ายในหัวข้อเดิม ที่จะเป็นผู้เล่นที่ครองอันดับในตำแหน่งท็อปไฟว์ การันตีได้เลยว่า แต่ละรายล้วนมีชื่อคุ้นหูแฟนบอลเป็นอย่างดี หากสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า ผู้เล่นในแนวรับนั้นติดโผเข้ามามากเป็นพิเศษ แตกต่างกับผู้เล่นแนวรุกที่เป็นเหมือนไม้ประดับ อันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างย้อนแย้งกับเกมที่เกิดขึ้นในสนาม ที่ทุกวันนี้ศึก พรีเมียร์ลีก ล้วนมีการยิงประตูแต่ละเกมที่ถล่มทลาย มีลูกยิงสวยๆ เป็นไฮไลท์ให้แฟนบอลได้ติดตามชมกันแบบไม่ขาดตอน มาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าหรือมิดฟิลด์ติดโผเข้ามากู้หน้าบ้างหรือไม่? พวกเขาเล่นให้กับสโมสรใดในยุคนั้น? ย้ายมาด้วยราคาค่างวดเท่าไหร่? ช่วยทีมกวาดแต้มในการลงสนาม 100 นัดแรกไปได้มากแค่ไหน?

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง ที่นับตั้งแต่เขาปรับตัวกับความเร็วในลีกอังกฤษได้ ก็กลายเป็นพาร์ทเนอร์คู่ขาของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ช่วยทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กวาดดแชมป์มาครองได้มากมายจนล้นตู้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก เนมานย่า วิดิช เซนเตอร์แบ็คตัวแกร่งชาวเซอร์เบีย เจ้าของฉายาเซอร์บิเนเตอร์ อันมาจากสไตล์การเล่นที่เหมือนนักล่า ไล่เตะขาคู่แข่งสังเวยใบเหลืองใบแดง แลกกับการหยุดแนวรุกฝีเท้าจัดจ้านมากมายหลายจังหวะ ราคาค่างวดของ วิดิช ที่ย้ายจาก สปาร์ตัก มอสโค มาอยู่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้นตกอยู่ที่ราว 10.5 ล้านยูโรเท่านั้น แม้ว่าช่วงแรกจะโชว์สเต็ปเป็นบ่อให้เจาะไปไม่น้อย แต่เมื่อดูสถิติโดยรวมหลังผ่านการเล่น 100 นัดแรกไปแล้ว ปรากฏว่า วิดิช ช่วยต้นสังกัดกวาดแต้มไปได้มากถึง 243 คะแนนเลยทีเดียว

ต่อกันที่อันดับที่ 4 เป็นนักเตะเพียงแค่รายเดียวในสกู๊ปนี้ ที่เป็นผลงานการปั้นของสโมสรแท้ๆ ไม่ได้เสียเงินค่าตัวซื้อมาร่วมทีมแม้แต่แดงเดียว จึงสามารถภูมิใจได้เต็มภาคภูมิ จ่อคิวกำลังจะกลายเป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ ยังเหลือเวลาให้พัฒนาฝีเท้าอีกยาวๆ ทุกวันนี้ เทรนท์ เป็นหนึ่งในคีย์แมนของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ขาดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นผลงานการเล่นของ ลิเวอร์พูล ในสนาม จะลดความน่ากลัวลงอย่างชัดเจน เขาเป็นแบ็คขวายุคใหม่ ที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่การเปิดบอลจากริมเส้น แต่ยังสามารถหุบเข้าไปสร้างสรรค์เกมได้ ช่วยให้เทรนเนอร์ใช้งานตามแทคติกส์ได้แบบหลากหลาย หลังผ่านการลงสนาม 100 นัดแรกให้กับ หงส์แดง ไปแล้ว เทรนท์ ช่วยต้นสังกัดกวาดแต้มไปได้มากถึง 245 คะแนน ซึ่งเมื่อดูจากผลงานของทีมในช่วงหลัง ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก

ข้ามมาที่อันดับสองร่วมรายแรก เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าคนเดียวที่ติดโผเข้ามาในสกู๊ปนี้ เจ้าของฉายาที่ถูกตั้งโดยแฟนบอลเมืองไทยว่า ไอ้แมลงสาป ศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติไอวอรี่ย์ โคสต์ ที่ไม่ว่ากองหลังรายไหนก็ไม่อยากปะทะด้วย จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงระดับตำนานของสโมสร เชลซี ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในดีลการซื้อตัวที่ดีที่สุดในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ยอมควักกระเป๋าราว 38.5 ล้านยูโร ดึงตัวเขามาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย ในปี 2004 แล้วช่วยยิงประตูให้กับทีมได้อย่างถล่มทลาย มีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และความคมในการจบสกอร์ เป็นดาวยิงที่มีความครบเครื่องที่ทุกวันนี้ สิงโตน้ำเงินคราม ยังหาตัวแทนไม่ได้ ผลงานหลังผ่านการลงเล่นในลีกแดนผู้ดดี 100 นัดแรก ดดร็อกบา ช่วยทีมกวาดแต้มไปมากถึง 246 คะแนน นับว่าคุ้มค่าทุกเพนนีที่จ่ายไปจริงๆ

ต่อเนื่องกันที่อันดับที่สองร่วมอีกหนึ่งคน เป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีผลงานการเฝ้าเสาที่คงเส้นคงวามาตลอด เป็นแคนดิเดตมือหนึ่งของทีมชาติบราซิล นั่นก็คือ เอแดร์ซอน นายทวารวัย 28 ปี ที่ทาง เรือใบสีฟ้า ยอมยกขันหมากมูลค่า 40 ล้านยูโร ไปสู่ขอมาจาก เบนฟิก้า ทีมชั้นนำจากลีกโปรตุเกส ซึ่งเป็นผู้รักษาประตูในสไตล์ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตามหาตัวเลือกที่เหมาะสมมาอย่างยาวนาน เพราะต้องการมีผู้เล่นตำแหน่งนี้ที่ใช้เท้าออกบอลได้ดี และมีฝีมือการเซฟประตูที่ไว้ใจได้ แล้วเคยพลาดหวังมาแล้วกับ เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารจอมเก๋าที่เป็นลูกน้องเก่า ผลงานของ เอแดร์ซอน หลังผ่านการเฝ้าเสา 100 นัดแรกให้กับ ซิตี้ ถือว่าไม่ธรรมดาเลย มีสถิติช่วยทีมเก็บแต้มไปได้มากถึง 246 คะแนน

ปิดท้ายกันที่อันดับที่หนึ่ง เป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คดีกรีทีมชาติสเปน ที่ตัดสินใจย้ายสัญชาติเมื่อช่วงก่อนศึกยูโรครั้งก่อน หลังรอคอยโอกาสในทีมชาติฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ อายเมริค ลาปอร์ก ที่ทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจยอมจ่ายเงินราว 40 ล้านยูโร ดึงตัวเขามาร่วมทีมในปี 2017 จากสโมสร แอธเลติก บิลเบา

ลาปอร์ก นับว่าเป็นปราการหลังที่มีความนิ่งพอตัว การอ่านทางบอลที่แม่นยำ การเข้าสกัดที่อ่านจังหวะได้ตรงเป๊ะ แถมยังถนัดเท้าซ้าย สามารถขึ้นบอลจากแดนหลังได้ ตรงสเปคทุกอย่างที่ เป๊ป ต้องการนำมาใช้งาน เสียดายที่เขาโชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะมักจะไม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง มีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง

พอกลับมาก็ต้องนั่งรอโอกาสไปก่อน เนื่องจากคู่แข่งคนอื่นๆ ในทีม ศักยภาพฝีเท้าแทบจะเท่าเทียมกัน แต่หลังผ่าน 100 นัดแรกในลีก เขาก็ช่วยทีมกวาดแต้มไปมากถึง 254 คะแนน หากมองว่าผลงานของเขาในการคุมแนวรับ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยให้ เรือใบสีฟ้า ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกได้ คงไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินจริงไปนัก

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top