Home บทความฟุตบอล ย้อนรอยทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในสายตาของ แกรี่ เนวิลล์

ย้อนรอยทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในสายตาของ แกรี่ เนวิลล์

0
ย้อนรอยทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในสายตาของ แกรี่ เนวิลล์

หลังจากสกู๊ปบทความที่แล้ว 168Kick ได้นำเสนอทีมยอดเยี่ยมศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ เจมี่ คาราเกอร์ กูรูชื่อดังกันไปแล้ว แน่นอนว่าคงจะขาดคู่กัดของเขาในวงการอย่าง แกรี่ เนวิลล์ ไปไม่ได้ เพราะสองคนนี้ต่างหากินด้วยการโยนลูกกันไปมาเสมอ ไม่ว่าจะไปออกรายการใดคู่กัน ต้องมีการจิกกัดเล็กๆ น้อยๆ เป็นกิมมิคให้แฟนๆ ได้นึกถึงสมัยที่พวกเขาทั้งสองคน เคยเป็นคู่แข่งกันในสนาม ต่างฝ่ายต่างไม่ลดราวาศอกให้แก่กัน เพื่อหวังที่จะทำผลงานให้กับต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ให้ขึ้นเป็นระดับท็อปให้ได้

การรับบทคอมเมนเตเตอร์ให้กับสื่อฟุตบอลรายการต่างๆ ของทั้ง เนวิลล์ และ คาราเกอร์ อาจมีการวิจารณ์ในบางหัวข้อที่แฟนบอลรู้สึกไม่เข้าตา เห็นแย้งเห็นต่างกันไปตามประสา เพราะความคิดเห็นส่วนบุคคล ยากที่จะเห็นตรงกันไปทุกเรื่องๆ ยิ่งกีฬาเป็นศาสตร์ด้านความบันเทิง ใช้จินตนาการทางความคิด บวกกับสัญชาตญาณในการเล่น จึงไม่มีสูตรสำเร็จแบบตายตัว ที่จะพาทีมไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ ฟอร์มการเล่นของนักเตะก็เปลี่ยนแปลงได้ทุกเกม ทุกสัปดาห์ มีปัจจัยที่เป็นตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ ที่สามารถส่งผลต่อผลงานในสนามแบบเลี่ยงไม่พ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วทุกการถกเถียงที่เกิดขึ้น ก็ไม่ต่างจากสีสันที่ทำให้วงการมีรสชาติไม่น่าเบื่อ หากต่างฝ่ายต่างเคารพซึ่งกันและกัน

บทความนี้พร้อมนำเสนอทีมยอดเยี่ยมของฝั่ง แกรี่ เนวิลล์ อีกหนึ่งกูรูฝีปากกล้ากันบ้าง? ว่าจะเลือกใครเข้ามาเป็น 11 คนที่ดีที่สุด ตามตำแหน่งไล่เรียงจาก ผู้รักษาประตู ไปจนถึง กองหน้า ในระบบเดียวกัน คือ 4-3-3 ซึ่งจะมีที่ทั้งเลือกเข้ามาแบบทับไลน์กัน รวมไปถึงที่เห็นต่างกันออกไปแต่ละตำแหน่ง โดยมีเหตุผลประกอบจากเจ้าตัวอธิบายเอาไว้สั้นๆ มาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า ทีมของอดีตแบ็คขวาระดับตำนานรายนี้จะเข้าตาหรือไม่? แล้วเขาจะทายแม่นตรงกับที่ประกาศจริงแค่ไหน?

เริ่มต้นกันที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู เนวิลล์ ชี้เป้าเลือกไปที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิลชอง ลิเวอร์พูล เช่นกัน เนื่องจากผลงานที่โชว์เซฟสำคัญให้กับต้นสังกัดดอย่างต่อเนื่อง พัฒนาฝีมือด้านต่างๆ ขึ้นมา จนโดดเด่นเป็นเบอร์ต้นๆ ของลีก โดยเฉพาะจังหวะดวลตัวต่อตัว ที่ช่วยให้ทีมได้แต้มสำคัญมาหลายเกม หากพัฒนาเรื่องการเล่นบอลกับเท้าให้ดีขึ้นได้ คงลบจุดอ่อนใหญ่ไปได้มากโข

ต่อเนื่องกันที่ตำแหน่งแบ็คขวา เนวิลล์ เลือกไปที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ จากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถึงแม้ว่าจะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อย แต่ตัว แกรี่ มองว่า เกมไหนที่ เรือใบสีฟ้า ขาดดาวเตะรายนี้ไป การเล่นของทีมจะไม่เต็มประสิทธิภาพ มีจุดอ่อนให้คู่แข่งโจมตีจนเสียทรง เป็นตัวเลือกที่ไว้ใจได้มากที่สุดในตำแหน่งนี้ จะได้โยกเอา ชูเอา คันเซโล่ ไปอยู่ฝั่งซ้ายได้ วอล์คเกอร์ มีทั้งความเร็วและประสบการณ์ ที่สามารถนำมาช่วยทีมได้ยามคับขัน

ถัดมาที่ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คฝั่งขวา เนวิลล์ เลือกไปที่ รูเบน ดิอาส อดีตนักเตะยอดเยี่ยมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หนึ่งสมัย ซึ่งถ้าเล่นเคียงข้าง วอล์คเกอร์ ในฝั่งเดียวกัน ความเข้าใจเกม และ สอดประสานของทั้งคู่ จะช่วยให้เกมรับด้านนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก น่าเสียดายไปหน่อยที่ฟอร์มของ ดิอาส ซีซั่นนี้อาจไม่ปังเท่าเดิม แต่ถ้ามองเรื่องมาตรฐานทั่วไป ก็เป็นแนวรับที่ไว้ใจได้เสมอ ด้วยการเข้าบอลที่เด็ดขาด แม่นยำเป็นจุดเด่น

ส่วนตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คอีกหนึ่งราย เนวิลล์ มองไปที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คส ที่กลับมาทำผลงานได้อยู่ในระดับสุดยอดอีกครั้ง หลังเจออาการบาดเจ็บหนักเล่นงาน ความแข็งแกร่ง ความเร็ว การอ่านเกม ความเป็นผู้นำ กองหลังชาวฮอลแลนด์ มีทุกองค์ประกอบที่ครบเครื่อง จิตใจแน่วแน่ไม่หวั่นไหว แม้จะเจอกับสถานการณ์ที่กดดัน มีมาตรฐานการเล่นที่คงเส้นคงวามาโดยตลอด ไม่เพียงแค่เกมรับที่เชื่อขนมกินได้ แต่ยังเติมขึ้นไปยิงประตูสำคัญๆ ให้กับ ลิเวอร์พูล อยู่บ่อยครั้ง ยากที่จะหาแนวรุกที่ดวลตัวต่อตัวแล้วผ่านเขาไปได้ง่ายๆ

ปิดท้ายตำแหน่งกองหลังกันที่แบ็คซ้าย ที่ทาง เนวิลล์ ยังคงใช้เหตุผลให้น้ำหนักเรื่องการประสานงาน เลยตัดสินใจชี้เป้าไปที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จากสโมสร หงส์แดง แม้ว่า ชูเอา คันเซโล่ จะเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นพอๆ กัน แต่มาตรฐานของ โรเบิร์ตสัน ที่ไม่ตกลงเลยตลอดสอง-สามปีหลัง เนวิลล์ ให้เครดิตเรื่องความคงเส้นคงวาเพิ่มไป ยิ่งถ้าได้เล่นฝั่งเดียวกับ ฟาน ไดจ์คส คงลงตัวแบบไม่ต้องมีอะไรให้ห่วง ความทุ่มเทที่ฟูลแบ็คชาวสก็อตแลนด์แสดงออกมาในสนาม ด้วยการขึ้นลงแบบไม่มีหมดตลอดด 90 นาที คงหานักเตะที่ฟิตขนาดนี้ แล้วแทบไม่เจออาการบาดเจ็บเล่นงานเลยได้ยากเอามากๆ ในยุคนี้

เข้าสู่ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ เนวิลล์ เลือกแตกต่างจาก คาราเกอร์ โดยเขามองว่า โรดรี้ กองกลางทีมชาติสเปนจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในสายตาของเขา เนวิลล์ ยอมรับตามตรงว่า ไม่ได้รู้สึกว้าวกับผลงานของ โรดรี้ ในช่วงแรกที่ย้ายมาเล่นในอังกฤษ แถมยังมองว่าเขาดูเชื่องช้า ตามความเร็วของลีกนี้ไม่ทัน แต่ในฤดูกาลนี้นักเตะยกระดับตัวเองขึ้นมาแบบคนละชั้น มีการเล่นที่ครบเครื่องทั้งรุกและรับ แถมยังมีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาสุดๆ อาจยังเทียบไม่ได้กับ แฟร์นันดินโญ่ ที่เคยส้รางผลงานระดับสุดยอเอาไว้เป็นเกณฑ์ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในแผลกลางของ เรือใบสีฟ้า ที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว

ถัดมาที่ตำแหน่งกองกลางอีกหนึ่งราย เนวิลล์ เลือกไปที่ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นคีย์แมนตัวสร้างสรรค์เกม มีคาแรกเตอร์แห่งผู้ชนะ พาทีมผ่านสถานการณ์ที่คับขันมาแล้วนักที่นัก เกมไหนตันๆ เพื่อนๆ พากันฟอร์มหลุด ใช้คำว่า คิดไม่ออกบอก เดอ บรอยน์ เป็นทางแก้อันแรกได้เลย ความกระหายที่จะเป็นแชมป์ของดดาวเตะรายนี้นั้นมีสูงมาก ทีเด็ดทั้งลูกจ่าย ลูกยิง ล้วนเชื่อใจได้เสมอ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีชื่อติดลิสต์ชิงนักเตะยอดเยี่ยมแน่นอน

ปิดท้ายตำแหน่งกองกลางกันที่ แบร์นาโด้ ซิลวา ที่ทาง แกรี่ เห็นตรงกับ คาราเกอร์ ว่า มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส สามารถช่วยเติมเต็มให้ทีมครบเครื่องได้ทั้งรุกและรับ แม้ว่าจะมีรูปร่างเป็นรองผู้เล่นคนอื่นๆ ในตำแหน่งนี้ แต่เขาสามารถอาศัยทักษะเฉพาะตัวในการดวลได้แบบไม่เป็นรอง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเกม ความคล่องแคล่วว่องไว การแก้ไขสถานการณ์ด้วยไหวพริบ การเล่นของเขาดูง่ายและไหลลื่น แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำแบบนี้ได้บนเวทีการแข่งขันที่มีความเข้มข้นสูง

เข้าสู่ตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีกด้านขวา ฤดูกาลนี้คงไม่มีใครฟอร์มแรงไปกว่า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซึ่งทั้ง เนวิลล์ และ คาราเกอร์ เห็นตรงกัน รวมไปถึงแฟนบอลทั้งโลก ผลงานของ ซาล่าห์ ที่แบกทัพ ลิเวอร์พูล ในช่วงแรกที่ฟอร์มยังไม่เข้าที่ ช่วยประคองสถานการณ์ให้ทีม ยืดอายุการลุ้นแชมป์มายาวจนถึงช่วงท้ายซีซั่นได้สำเร็จ แม้ว่าช่วงหลังผลงานจะดร็อปลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงนำเป็นดาวซัลโวของลีกอยู่ในตอนนี้ ไม่แปลกใจที่เขาจะมีชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล

หากมีชื่อของ ซาล่าห์ ที่นำเป็นดาวซัลโวอันดับหนึ่ง คงจะตัดชื่อของ ซอน เฮือง-มิน ดาวยิงทีมชาติเกาหลีใต้จากสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทิ้งไปไม่ได้ อาตี๋ซอน ยกระดับฝีเท้าของตัวเองขึ้นมาได้น่ากลัวอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่มีความเร็วและทักษะที่ยอดเยี่ยม แต่จังหวะการจบสกอร์ยังคมจนน่าเหลือเชื่อ ยิงได้ทั้งสองเท้าด้วยความหนักแน่นเท่าๆ กัน เข้ากับแทคติกส์รับแล้วสวนของ อันโตนิโอ คอนเต้ สุดๆ เพราะสามารถฉวยโอกาสกับการดักล้ำหน้าได้เก่งมากๆ

ปิดท้ายกันที่ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เนวิลล์ คงไม่มีทางเลือกอื่นใดที่เหมาะสมไปกว่า แฮร์รี่ เคน ที่ฟอร์มกลับมาเข้าฝักในช่วงท้ายซีซั่น หลังจากช่วงต้นฤดูกาล เจอมรสุมเรื่องข่าวย้ายทีมเล่นงานจนผลงานฝืดสุดๆ พอได้บอสใหม่อย่าง คอนเต้ เข้ามาปรับจูนเรื่องต่างๆ ให้ลงตัว เคน ที่เพิ่มศักยภาพและมิติการเล่น ด้วยการถอยตัวเองลงมาต่ำ แล้วรับบทบาทเป็นเพลย์เมคเกอร์ ไม่เพียงแค่สร้างสรรค์โอกาสให้ ซอน เฉิดฉายสุดๆ แต่ตัวเขาเองก็มีพื้นที่ให้คิดให้ทำอะไรมากขึ้น ไม่ว่าจะเลือกจบสกอร์เอง หรือ แอสซิสต์ ล้วนอันตรายไม่ต่างกันในนาทีนี้