ย้อนรอยทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในสายตาของ เจมี่ คาราเกอร์

ย้อนความไปในปีก่อน หลังจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ทำการแข่งขันมากันจนเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ ใกล้ได้สโมสรที่จะเป็นแชมป์ ซึ่งเหลือม้าแข่งเพียงสองตัว คือ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่นอนว่าสื่อต่างๆ ในแดนผู้ดี ต่างเร่งทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการรีวิวผลงานของทีมต่างๆ และนักเตะออกมามากมาย แล้วกูรูในวงการที่แฟนๆ ทั่วโลกต่างเจอหน้าบ่อยที่สุด ย่อมหนีไม่พ้น เจมี่ คาราเกอร์ อดีตกองหลังจอมทุ่มเทของสโมสร หงส์แดง ที่รับบทคู่กัดในสายงานนี้กับ แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็คขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ ที่สามารถนำทั้งคู่มาขายสตอรี่ผูกเรื่องในอดีต เพราะเคยดวลแข้งกันมาในสมัยเป็นนักเตะได้ดี

การแสดงความคิดเห็นของพวกเขาทั้งคู่ในบริบทต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอล ย่อมมีทั้งผู้ติดตามชมที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่อาจลบภาพสมัยนักเตะของพวกเขาออกไปได้ หลายครั้ง คาราเกอร์ อาจมีหยิกแกมหยอกถึง ยูไนเต็ด จนแฟนบอล ปีศาจแดง ต่างพากันไปถล่มบนโลกออนไลน์ก็หลายครั้ง เช่นเดียวกับ เนวิลล์ ที่บางครั้งก็แอบแซะทีมอื่นๆยกเว้นอดีตต้นสังกัดของตัวเขาเอง คอมเมนท์หนุนหลังเพื่อนจนตัวเองเสียทรงเองก็ผ่านมาแล้ว อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ในรายการ มันเดย์ ไนท์ ฟุตบอล ที่ให้สองคนนี้จัดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลที่แล้ว ดูเหมือนว่าความคิดของทั้งคู่จะมีบรรทัดฐานที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ไม่ยกยอเข้าข้างหรืออคติกับสโมสรไหนเป็นพิเศษ แล้ววิจารณ์ออกมาได้ตามเนื้อผ้าและความคิดจริงๆ ของพวกเขา

ทีมงาน 168Kick มองว่า ความคิดเห็นของกูรูทั้งคู่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะมีการบอกเหตุผลประกอบทีมยอดเยี่ยมของพวกเขาในแต่ละตำแหน่ง ดังนั้นจึงหยิบยกมานำเสนอให้ผู้อ่านได้รับชมกันเป็นบทความสรุปโดยรวมที่เข้าใจง่าย โดยจะขอเริ่มกันที่ฝั่งของ คาราเกอร์ กันก่อนเป็นคนแรก มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้ของอดีตแนวรับจอมทุ่มเทในระบบ 4-3-3 จะมีใครติดโผเข้ามากันบ้าง? แล้วเหตุผลที่เลือกมาเป็นเพราะอะไร?

เริ่มต้นกันที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู คาราเกอร์ เลือกไปที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายด่านทีมชาติบราซิลของ ลิเวอร์พูล ที่ปีนี้ยังคงรักษามาตรฐานการเล่ได้คงเส้นคงวา มีเซฟสำคัญๆ ให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ ยิ่งเฉพาะการดวลเดี่ยวกันแบบตัวต่อตัว ที่พัฒนาการอ่านทางคู่แข่งได้ดีขึ้นเอามากๆ จากฟอร์มของเขาที่แสดงให้เห็นในสนาม ทำให้จำนวนเงินที่ หงส์แดง จ่ายไปให้กับ โรม่า ดูเป็นราคาที่คุ้มค่าไปเลยทีเดียว เหลือเพียงแค่เรื่องการเล่นบอลด้วยเท้าเท่านั้น ที่ยังมีช็อตให้แฟนบอลหวั่นใจกันอยู่บ้าง

ต่อเนื่องกันที่ตำแหน่งแบ็คขวา คาร่า เลือกไปที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ ดดาวเตะลูกหม้อของ ลิเวอร์พูล อีกหนึ่งราย ที่ปีนี้พัฒนาในเรื่องของศักยภาพด้านร่างกาย ให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเเยอะเอามากๆ จังหวะเข้าปะทะมีความหนักแน่นดุดัน ส่วนเรื่องการเติมเกมรุกที่เป็นจุดขาย ยังคงมีสถิติการแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูติดระดับท็อปของลีกการหุบตัวเองไปเป็นบทบาท อินเวิร์ท ฟูลแบ็ค ที่สร้างสรรค์เกมจากแดนหลัง ราวกับเป็นเพลย์เมคเกอร์ หากเซ้นส์บอลไม่ถึงจริงๆ คงทำไม่ได้อย่างแน่นอน

ถัดมาที่ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ครายแรก คงไม่มีใครกล้าตัดชื่อของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คส ออกไปแน่นอน เช่นเดียวกับรายของ คาราเกอร์ ที่รู้คุณภาพของดาวเตะรายนี้เป็นอย่างดีฟาน ไดค์จส กลับมาเล่นได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับร่างสุดยอดของเขาอีกครั้ง ความนิ่ง การอ่านเกมยังคงเฉียบขาด จังหวะดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับแนวรุกไม่มีตื่นตระหนกให้เห็น รูปร่างที่สูงใหญ่ แต่มีสปีดความเร็วที่วัดกับกองหน้าตัวจี๊ดได้แบบสบายๆ เป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่ง ยังไม่นับรวมการเติมขึ้นไปเล่นลูกเซ็ตพีซ แล้วทำประตูสำคัญให้กับทีมได้อยู่เนืองๆ

ด้านเซนเตอร์แบ็คอีกหนึ่งราย คาร่า เลือกเซอร์ไพรส์ชี้เป้าไปที่ โจเอล มาติป ที่เป็นพาร์ทเนอร์คู่ใจของ ฟาน ไดจ์คส ในสโมสร ลิเวอร์พูล ด้วยการให้เหตุผลว่า ปีนี้ผลงานของ มาติป อยู่ระดับเดียวกันกับ ฟาน ไดจ์คส โดดเด่นกว่าแต่ก่อนมากๆ หลังจากสลัดปัญหาอาการบาดเจ็บ ที่รบกวนให้เขาต้องพักการลงสนามไปได้แบบปลิดทิ้ง แม้ว่า รูเบน ดิอาส อดีตนักเตะยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาลก่อน จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่การเจอปัญหาเรื่องสภาพร่างกายรบกวนยิบๆ ย่อยๆ ทำให้เขาไม่สามารถรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น มาติป ยังมีทักษะเฉพาะตัวในการพาบอลขึ้นหน้า ซึ่งเติมมิติการเล่นให้กับเกมบุกของ หงส์แดง ได้อีกด้วย

ส่วนตำแหน่งสุดท้ายในแนวรับอย่างแบ็คซ้าย คาราเกอร์ เลือกไปที่ ชูเอา คันเซโล่ ฟูลแบ็คสาระพัดประโยชน์ทีมชาติโปรตุเกส จากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างสุดยอด โดยเฉพาะการเติมขึ้นไปเล่นเกมรุก เป็นทางเลือกในการขึ้นบอลราวกับเป็นตัวสร้างจังหวะสร้างสรรค์เกม มีจังหวะการยิงไกล และ ลูกครอสที่สุดแสนอันตราย แล้วการที่เขาเล่นได้ดีทั้งสองฝั่งเท่าๆ กัน ส่งผลให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีแนวทางการเล่นที่เลือกใช้งาน คันเซโล่ ได้อย่างอิสระตามต้องการ

เข้าสู่ตำแหน่งกองกลางรายแรก คาร่า เลือก เดแคลน ไรซ์ มารับบทบาทเป็นมิดฟิลด์เชิงรับ ด้วยผลงานอันโดดเด่นที่พาทัพ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ขึ้นมาเป็นสโมสรท้าชิงพื่่้นที่บอลยุโรป แม้ว่า ฟาบินโญ่ และ โรดรี้ จะเป็นสองนักเตะที่เป็นตัวท็อปของตำแหน่งนี้ แล้วอยู่กับสโมสรที่เบียดแย่งแชมป์กัน แต่ทาง ไรซ์ ทำให้ คาร่า ย้อนไปนึกถึงกองกลางยุคโบราณที่สามารถยืนคู่กันในระบบกลางสองคนตรงกลางสนาม คล้ายๆ กับบทบาทของ รอย คีน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่คอยมานั่งรอเล่นเกมรับอย่างเดียว แต่ยังพาบอลขึ้นหน้าไปเล่นเกมรุกได้ด้วย

ส่วนตำแหน่งมิดฟิลด์อีกหนึ่งราย คาราเกอร์ เลือกไปที่ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์คำสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ฝีเท้าของเขาเป็นที่ยอมรับกันไปทั่วทั้งวงการ เดอ บรอยน์ มีคาแรกเตอร์ของผู้ชนะ กระหายที่จะพาทีมไปประสบความสำเร็จ ไม่เงียบหายในเกมใหญ่ๆ สามารถเป็นตัวตัดสินเกมได้เสมอ ไม่ว่าจะลูกยิง ลูกจ่าย ล้วนทำได้ยอดเยี่ยม เติมเต็มแผงแดดนกลางของ ซิตี้ ให้มีความพิเศษเหนือทีมอื่นๆ ยามที่ทีมตกที่นั่งลำบากเจอแนวรับแข็งๆ ตันๆ เดอ บรอยน์ มักจะเป็นที่พึ่งให้ทีมผ่านวิกฤตินั้นได้เสมอ

ส่งท้ายตำแหน่งกองกลางรายสุดท้ายกันที่ แบร์นาโด้ ซิลวา กองกลางเท้าตะขอทีมชาติโปรตุเกส ที่ไม่ได้โดดเด่นแคทักษะความสามารถเฉพาะตัวที่วูบวาบ แต่ยังมีการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น แม้ว่าตัวจะเล็กแต่การแย่งบอลและเข้าสกัดของ แบร์นาโด้ นั้นมาในสไตล์กัดไม่ปล่อย ไม่จำเป็นต้องเล่นหนักแต่มีประสิทธิภาพ การออกบอลสั้นๆ ง่ายๆ ของเขา แต่เคลื่อนที่ไปทั่วแบบวิ่งพล่าน ทำให้เพื่อนมีทางเลือกในการจ่ายเสมอ ยิ่งเจอทีมที่เพรสซิ่งหนักๆ ยิ่งเป็นของชอบ เพราะแกะบอลออกมาจากพื้นที่แคบๆ ได้สบาย

เข้าสู่ตำแหน่งแดนหน้าฝั่งขวากันที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กองหน้ากึ่งปีกฝั่งขวาจากสโมสร ลิเวอร์พูล ที่จะขยับเข้าไปเล่นเป็นกองหน้าตัวกลาง ก็ทำได้ดีไม่เคอะเขิน มีสปีดความเร็วที่จัดจ้าน ครองบอลเหนียวแน่นติดเท้า ฉวยโอกาสเล่นกับกองหลังได้เก่ง ไม่สามารถละสายตาได้แต่วินาทีเดียว เท้าซ้ายของเเขาจบสกอร์ได้เฉียบคม จังหวะดวลกันหนึ่งต่อหนึ่ง ยากที่จะหากองหลังที่ประกบศูนย์หน้าชาวอียิปต์ได้อยู่หมัด แม้ว่าฟอร์มในช่วงท้ายซีซั่นจะดร็อปลงไปบ้าง แต่ช่วงเปิดฤดูกาลที่เผยร่างทองออกมา ยิงระเบิด ระเบ้อ จนนำเป็นดาวซัลโวของลีกแบบทิ้งขาดยาวๆ คงตัดชื่อเขาออกไปไม่ได้แน่

หากมี ซาล่าห์ ยืนเป็นกองหน้าฝั่งขวาแล้ว คงตัดชื่อกองหน้ากึ่งปีกฝั่งซ้าย ที่เป็นคู่แข่งแย่งตำแหน่งดาวซัลโวของลีกปีนี้อย่าง ซอน เฮือง-มิน จากสโฒสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทิ้งไม่ได้ ซอน พัฒนาฝีเท้าตัวเองขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้เต็มตัว ร่างกายของเขาสูงใหญ่ มีแรงปะทะเทียบเท่ากับนักบอลสัญชาติยุโรป แถมยังมีทักษะการเลี้ยงกินตัวที่ไม่ธรรมดา ความเร็วจัดจ้าน จบสกอร์ได้อย่างเฉียบคมทั้งสองเท้า เป็นคีย์แมนที่แบกทัพ ไก่เดือยทอง คว้าพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยการยิงแบบไม่พัก

ปิดท้ายกันที่ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญของ ซอน ที่รับหน้าที่ถอยลงมาต่ำ แล้วสร้างสรรค์โอกาสทำประตูจากลูกเปิดสวยๆ ให้มากมาย นั่นก็คือ แฮร์รี่ เคน ที่เพิ่มมิติการเล่นของตัวเอง ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้ยืนเป็นตัวรอจบสกอร์เพียงอย่างเดียว ศักยภาพการทำประตูของเขายังอันตรายเหมือนเคย ไม่สามารถประมาทได้ในจังหวะได้ง้างเท้ายิงแบบเหน่งๆ ที่ยังรับประกันความคมกริบอยู่เสมอ ยิ่งเพิ่มทักษะเพลย์เมคเกอร์เข้ามาแบบนี้ แนวรับคนไหนก็ย่อมจับทางยาก

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top