ขึ้นชื่อว่ากีฬาแล้ว กิจกรรมประเภทนี้แบ่งแยกเป็นทั้งเล่นได้ทั้งเดี่ยว, คู่ และ กลุ่ม ตามชนิดกันออกไป อันต้องใช้ทักษะและแรงกาย เป็นเครื่องมือในการลงห้ำหั่นกัน เพื่อแย่งชิงรางวัลและไปถึงจุดหมายที่ตั้งเป้าเอาไว้ ยิ่งเฉพาะ ฟุตบอล ซึ่งเป็นที่นิยมไปทั่วโลก มีแฟนๆ ชื่นชอบและติดตามมาก ที่ถูกนำไปใช้เป็นการฆ่าเวลาด้วยการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จับกลุ่มเล่นกันตามสถานที่ต่างๆ สร้างคามบันเทิงเริงใจกันโดยทั่ว แต่ถ้าเป็นในระดับการแข่งขันอาชีพแล้ว ความตึงเครียดและความเข้มข้นในสนาม ต่างกันราวฟ้ากับเหว

แน่นอนว่าเกมลูกหนังที่เราได้ชมกันผ่านทางหลายช่องทาง โอกาสที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องจังหวะการเข้าปะทะนั้นเป็นไปได้ยาก เมื่อมีการกระทบกระทั่งกันในหมู่ชายฉกรรจ์ สิ่งที่ตามมาแบบเลี่ยงไม่ได้ คือ เรื่องของอารมณ์ที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ของตัวนักเตะ แม้ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพ ก็ใช่ว่าจะประพฤติตัวในสนามได้เหมาะสมเสมอไป เลยเป็นสาเหตุให้ต้องมีการตัดสินเรื่องการคาดโทษ ใบเหลือง ใบแดง เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามแล้วเกิดดความรุนแรงอันไม่เหมาะสมในสนาม เพื่อรักษาเรื่องของน้ำใจนักกีฬาที่เริ่มหดหายไปขึ้นทุกวัน

บทความนี้เว็บไซต์ 168Kick พร้อมนำเสนอเกี่ยวกับ 7 นักเตะชื่อดัง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีน้ำใจนักกีฬาเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลก เพราะไม่เคยโดนใบแดงไล่ออกจากสนามให้เสื่อมเสียเกียรติการเป็นพ่อค้าแข้งเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากเอามากๆ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลที่มีการปะทะกันแบบถึงเนื้อถึงตัวตลอด 90 นาทีในแต่ละเกม มาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า กลุ่มผู้เล่นที่น่ายกย่องเหล่านี้ จะมีใครติดโผมากันบ้าง? แล้วพวกเขาเล่นในตำแหน่งอะไร? มีนักเตะขวัญใจของแฟนๆ ติดโผเข้ามาบ้างหรือไม่?

เริ่มต้นกันที่รายแรก เป็นกองหลังในยุคโบราณดีกรีทีมชาติอิตาลี ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่ช่วงยุคปี 70 ด้วยการเล่นในตำแหน่งสวีปเปอร์ ที่ถึงแม้ฟุตบอลในยุคก่อนจะมีการเข้าปะทะที่หนักแน่นมากกว่าในยุคนี้ด้วยซ้ำ แล้วยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยผู้ตัดสินในจังหวะต่างๆ แต่ทาง กาเอตาโน ชีเรีย กองหลังที่ลงเล่นให้กับ ยูเวนตุส และ อิตาลี รวมกันกว่า 700 นัด กลับไม่เคยโดดนใบแดงไล่ออกจากสนามแม้แต่ครั้งเดียว นับว่าเป็นแนวรับที่เล่นได้อย่างขาวสะอาดมากๆ ในยุคที่กีฬาชนิดนี้นั้นเน้นการเข้าปะทะเป็นจุดขาย

ต่อกันที่รายที่สอง เป็นกองกลางจอมเก๋าทีมชาติโปรตุเกส ที่ปัจจุบันยังค้าแข้งอยู่กับสโมสร วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส มีฝีเท้าที่ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่า จิ๋วแต่แจ๋ว ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในการค้าแข้งบนเวทีใหญ่ และ ทักษะการคุมเกมที่หาตัวจับได้ยาก นั่นก็คือ ชูเอา มูตินโญ่ มิดฟิลด์สาระพัประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งรุกและรับแบบสมดุลย์ ด้วยการยืนปักหลักตรงกลางสนาม มีบทบาทช่วยทีมตั้งแต่การบุกและป้องกัน อีกแค่ราว 50 นัด เขาจะลงเล่นครบทุกรายการในระดับอาชีพแตะหลักพันนัด แต่ยังไม่เคยโดนใบแดงสักใบเดียว มีแค่เหลืองแก่ๆ ตามตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นเอง

ถัดมาที่รายที่สาม เป็นกองหน้าระดับตำนานของสโมสร เรอัล มาดริด ในยุค 90 ต่อเนื่องถึงกลางยุค 2000 มีสไตล์การเล่นที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพ จังหวะการจบสกอร์ด้วยเท้าซ้ายอันเฉียบคมของเขา ยังคงติดตราตรึงใจแฟนบอล ราชันชุดขาว มาจวบจนทุกวันนี้ น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องแยกทางกับสโมสรแบบไม่เต็มใจนัก จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ราอูล กอนซาเลซ ที่ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่กับทีมใด ก็ยิงกระจายจนมีถ้วยติดมือแบบไม่ขาด ตลอดเส้นทางการค้าแข้งของ ราอูล เขาโดนใบเหลืองไป 50 ครั้ง ซึ่งเฉลี่ยเพียงแค่ 1 ใบต่อ 20 นัดเท่านั้น ถือว่าเป็นนักเตะที่เล่นได้ใสสะอาดมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ

ต่อเนื่องกันที่รายที่สี่ เป็นศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ ที่โด่งดังเป็นอย่างมากในยุค 70-80 มีจังหวะการจบสกอร์ที่คมกริบเป็นพรสวรรค์เฉพาะตัว ลีลาท่วงท่าการเล่นงดงาม แตกต่างกับนักฟุตบอลคนอื่นๆ ในยุค ที่เน้นการเข้าปะทะและใช้ความแข็งแรงของร่างกายเป็นจุดขาย ไม่เหมือนกับทาง แกรี่ ลินิเกอร์ ที่ก้มหน้าก้มตาหาโอกาสเจาะแนวรับคู่แข่งด้วยการใจจดใจจ่อเพียงแค่การส่องประตูเพียงอย่างเดียว สถิติของดาวยิงรายนี้ถือว่าน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก ไม่เคยโดนคาดโทษจากการโดนใบเหลืองหรือใบแดงแม้แต่ใบเดียว แน่นอนว่าฉายา มิสเตอร์ไนซ์กาย นั้นเป็นสิ่งที่คู่ควรกับเขาอย่างที่สุดแล้ว

เข้าสู่รายที่ 5 กันที่สุดยอดฟูลแบ็คดีกรีแชมป์โลกจากทีมชาติเยอรมัน ที่ทุกวันนี้เหล่าดาวรุ่งที่เล่นในตำแหน่งเดียวกันกับเขา ยังคงเอาแนวทางการเล่นไปศึกษา เพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตัวเอง นั่นก็คือ ฟิลิปป์ ลาห์ม ยอดดาวเตะสาระพัดประโยชน์ ที่นอกจากจะเล่นริมเส้นได้ทั้งสองฝั่งแล้ว ยังสามารถขยับมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับได้อีกด้วย แม้ว่าจะเล่นในตำแหน่งที่รับผิดชอบเรื่องของเกมรับเป็นหลัก หลีกเลี่ยงจังหวะเข้าปะทะไม่ได้ แต่การลงสนามตลอด 16 ปีของเขา ไม่เคยได้รับใบแดงแม้แต่ใบเดียว มีแต่การโดนคาดโทษดด้วยใบเหลืองแค่ 60 ครั้งเท่านั้น

ถัดมาที่รายที่ 6 เป็นยอดมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนยุคทอง ที่กวาดแชมป์ระดับเมเจอร์ระดับชาติได้ครบ แถมผลงานในระดับสโมสรกับ บาร์เซโลน่า ก็จัดว่าเป็นผู้เล่นแกนหลักของทีมที่ขาดไม่ได้ ปัจจุบันย้ายไปผจญภัยค้าแข้งอยู่ในแดนปลาดิบกับสโมสร วิสเซล โกเบ ด้วยการอาศัยชั้นเชิงความเก๋า ในการดวลแข้งกับดาวเตะรุ่นน้อง นั่นก็คือ อันเดรส อินิเอสต้า ยอดมิดฟิลด์เท้าตะขอ ที่ลงสนามในเกมฟุตบอลอย่างเป็นทางการเกินกว่า 960 นัดทุกรายการ แต่ยังไม่เคยเสียสถิติโดนใบแดงตะเพิดออกจากสนามแม้แต่เกมเดียว เต็มที่คือโดนใบเหลืองคาดโทษรวมไปแค่ไม่ถึง 70 ครั้งเท่านั้น

ปิดท้ายกันที่ยอดดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส วัยย่าง 35 ปี อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่หากไม่เจออาการบาดเจ็บเล่นงาน เขาคือศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทัพ ตราไก่ และ สโมสร เรอัล มาดริด ที่ไม่ว่าขาดเขาไปเกมไหน รับรองได้เลยว่าขาดใจแน่นอน เพราะการเล่นของเขานั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการจบสกอร์ที่เฉียบคม และ การสร้างสรรค์เกม เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้มีจังหวะยิงประตู เป็นหนึ่งในตัวเต็งรางวัล บัลลงก์ดอร์ สมัยหน้า แม้ว่าจะอยู่บนเส้นทางสายลูกหนังอาชีพมากว่า 18 ปี แต่ไม่เคยโดนใบแดงสักครั้ง แถมที่ผ่านมาเพิ่งจะโดนใบเหลืองไปเพียง 16 ใบ นับเป็นดาวเตะที่เล่นได้อย่างมีน้ำใจนักกีฬามากที่สุดคนหนึ่งในวงการ