10 สโมสรในยุโรป ที่ครองแชมป์ลีกได้มากที่สุด ตอนจบ

เข้าสู่ตอนปิดท้ายของสกู๊ป 10 สโมสรในทวีปยุโรป ที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดมากครั้งที่สุด ที่แฟนๆ ที่ได้ติดตามตอนแรก คงได้เห็นกันไปแล้วว่า หลายสโมสรที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ย่อมมีวันที่ต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่แทบทุกทีม ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของการผลัดใบนั้นจะมาเมื่อไหร่? แต่นั่นก็เป็นสัญญาณของลีกต่างๆ ในประเทศโซนนั้นๆ ถ้าในกรณีที่มีสโมสรอื่นก้าวขึ้นมาสืบทอดความยิ่งใหญ่แทนได้ เพราะเป็นเหมือนแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของวงการฟุตบอลในประเทศ

แน่นอนว่าคงปฏิเสธได้ยากว่าลีกที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินการทำทีมสูง ย่อมช่วยให้มีวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ราวกับใช้ทางลัดเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แฟนบอลทั่วโลกเป็นที่รู้จัก เพื่อหวังเพิ่มฐานแฟนบอลให้มากขึ้น ด้วยการยอมทุ่มทุนไปก่อน แล้วค่อยตักตวงผลประโยชน์หลังจากที่ทีมอยู่ในจุดที่อยู่ตัวในวงการแล้ว ซึ่งบางลีกในยุโรปที่มีแต่แชมป์หน้าเดิมๆ ย่อมพัฒนาไปได้ช้ากว่า เหมือนว่าความสำเร็จในระดับประเทศ อาจเพียงพอกับความต้องการของแฟนบอลแล้ว ต่อให้อัดการสันบสนุนเข้าไป แต่เป็นเงินที่ก้อนใหญ่ไม่พอก็สูญเปล่าอยู่ดี

บทความนี้ พร้อมนำเสนออีพีปิดท้ายของคอนเทนต์เดิมแบบต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นอันดับที่ 5 ไล่เรียงไปจนถึงอันดับที่ 1 การันตีได้เลยว่า แฟนบอลบางรายที่ได้รับชม อาจแทบไม่เคยได้ยินชื่อสโมสรที่ครองแชมป์จนเป็น เต้ย ภายในประเทศต่างๆ มาก่อน เพราะบางทีมนั้นแทบจะผูกขาดความสำเร็จอยู่เจ้าเดียวแบบไร้คู่แข่ง มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า สโมสรใด? จากประเทศไหนกันบ้าง? ที่คว้าจำนวนแชมป์ลีกสูงสุดในถิ่นฐานบ้านเกิดในตำแหน่งท็อปไฟว์ของทวีป ทุกคำตอบรวบรวมเอาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว

เปิดหัวกันที่อันดับที่ 5 เป็นสโมสรจากประเทศโปรตุเกส ที่โด่งดังมาตั้งแต่ยุคโบราณย้อนไปกว่า 30-40 ปีก่อนบนเวทีระดับทวีป มีผู้เล่นชื่อดังของโลกเป็นตัวชูโรง ก่อนที่กาลเวลาจะผันเปลี่ยนไป แล้วทีมอื่นๆ ภายในประเทศ เริ่มยกระดับตัวเองขึ้นมาเท่าทัน จนแทบจะแซงหน้า เบนฟิก้า กันไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากแนวทางการบริหารสโมสร ที่เน้นการขายผู้เล่นที่เป็นสตาร์ประจำทีม แล้วแสวงหากำไรแบบเน้นๆ เลยเจอลูปขึ้นๆ ลงๆ ไม่สามารถฉีกทีมร่วมลีกแบบขาดลอยได้ โดยทาง เหยี่ยวลิสบอน กดแชมป์ลีกแดนฝอยทองไปทั้งหมดถึง 37 สมัย

ต่อกันที่อันดับที่ 4 เป็นสโมสรจากแดนเทพนิยาย ประเทศกรีซ ซึ่งเคยสร้างความสั่นสะเทือนให้วงการลูกหนังได้ช่วงหนึ่ง จากแนวทางการเล่นเฉพาะตัว ด้วยการเน้นเกมรับที่เหนียวแน่น แล้วอาศัยการโจมตีด้วยจังหวะสวนกลับแบบคมๆ นั่นก็คือ โอลิมเปียกอส ที่เคยเป็นสโมสรที่ลงทุนทำทีมไปไม่น้อยอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย เม็ดเงินอัดฉีดต่างๆ ย่อมลดน้อยถอยลงไป ปัจจุบันทำได้แค่รับเลี้ยงอดีตสตาร์ที่หมดสภาพ แล้วต้องการหาสโมสรที่พอมีชื่อพักพิงในช่วงท้ายของอาชีพ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศมาจนถึงตอนนี้ เพราะกวาดแชมป์ลีกสูงสุดไปมากถึง 47 สมัย

ถัดมาที่อันดับที่ 3 เป็นหนึ่งในสโมสรชื่อดังจากศึก สก็อตติช พรีเมียร์ลีก ประเทศสก็อตแลนด์ เจ้าของฉายา ม้าลายเขียวขาว ที่เคยเป็นที่พักพิง สำหรับนักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นบนเวทีระดับสูงในอังกฤษ รวมไปถึงเป็นเวทีโชว์ฝีเท้าสำหรับดาวรุ่ง ที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากทีมชุดใหญ่ นั่นก็คือ เซลติก เอฟซี หรือ กลาสโกลว์ เซลติก ที่แฟนบอลยุคก่อนๆ ย่อมคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี ซึ่งต่อให้พวกเขาจะคว้าแชมป์ลีกภายในประเทศไปถึง 52 สมัย แต่ด้วยคุณภาพของลีกที่มีความเข้มข้นน้อย เหมือนว่าถูกผูกขาดจากทีมใหญ่แค่ไม่กี่เจ้า พอออกไปเล่นบนเวทีระดับทวีป มักจะลงเอยด้วยความผิดหวังเสมอ

เข้าสู่ตำแหน่งรองท็อปกันที่อริร่วมเมืองกลาสโกลว์อีกหนึ่งทีม ที่สามารถเคลมตำแหน่งเบอร์หนึ่งในแดนขี้เมาได้เต็มตัว นั้นก็คือ เรนเจอร์ส หรือ ชื่อเดิมว่า กลาสโกลว์ เรนเจอร์ส ที่เคยประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ลีกสูงสุดภายในประเทศมากถึง 55 สมัย แม้ว่าจะมีช่วงตกต่ำที่ต้องตกชั้นไปเล่นในลีกรอง มีปัญหาด้านการเงินจนถึงขั้นเกือบล้มละลาย แต่หลังจากผ่านวิกฤติมาได้ ด้วยการวางแผนงานการบริหารที่รัดกุม ในยุคปัจจุบัน เดอะ ไลท์ บลู เริ่มได้รับการยอมรับบนเวทีระดับทวีปมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ถูกด้อยค่าเหมือนยุคก่อน ล่าสุดดพวกเขาผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศถ้วย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก แล้วยื้อกับคู่แข่งอย่าง แฟร้งค์เฟิร์ต ไปถึงช่วงดวลจุดโทษ น่าเสียดายที่ต้องลงเอยด้วยควมพ่ายแพ้

ปิดท้ายกันที่อันดับที่หนึ่งเป็นทีมสุดเซอร์ไพรส์ที่โผล่เข้ามาในคลิปแบบไม่มีใครคาดคิด นั่นก็คือ ลินฟิลด์ จากลีกประเทศไอร์แลนด์เหนือ ในกรุง เบลฟาสต์ ซึ่งแฟนบอลอาจคุ้นเคยกับชื่อสนามเหย้าของพวกเขาอย่าง วินเซอร์ สเตเดี้ยม มากกว่าชื่อทีมเสียอีก ครองตำแหน่งสโมสรที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดในยุโรปไปมากถึง 56 สมัย ไม่มีสตาร์ชื่อดังสังกัดอยู่เหมือนกับหลายทีมที่มีอันดับรอง ความเข้มข้นในการแข่งขันของลีกน้อยกว่าใครเพื่อน เน้นใช้ทรัพยากรแบบโอท็อปที่เป็นนักเตะฝีเท้าดีภายในประเทศเป็นแกนหลัก แต่ถ้าศักยภาพดดีพอก็พร้อมส่งออกไปเล่นนอกบ้านเกิดเพื่อรับรายได้ที่สูงกว่า โดยถ้าเทียบคุณภาพผู้เล่นกันแบบไม่เข้าข้าง สตาร์ของทีมอาจไปได้ไกลแค่อยู่กับทีมระดับกลางใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เท่านั้น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top