สถานการณ์ของการเทคโอเวอร์สโมสร เชลซี ที่มีกลุ่มทุนของนักธุรกิจอย่าง ท็อดด์ โบรห์ลี่ย์ เป็นผู้ชนะการประมูล เพิ่งจะเรียบร้อยแบบสดๆ ร้อนๆ หลังทาง รัฐบาลประเทสอังกฤษ และ พรีเมียร์ลีก สององค์กรที่จำเป็นต้องรับรองเรื่องนี้ ได้เปิดไฟเขียวตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วทำการอนุมัติอย่างเป็นทางการ แฟนบอลของ สิงโตน้ำเงินคราม ต่างโล่งใจกันเป็นทิวแถว หลังก่อนหน้านี้มีข่าวลือต่างๆ หลุดออกมามากมาย หนักข้อถึงขั้นอาจล้มละลายถ้าการขายสโมสรครั้งนี้ล้มเหลว ซึ่งพอเข้าสู่ยุคใหม่กับเจ้าของคนใหม่ แฟนๆ ต่างจับตาดูเรื่องของวิสัยทัศน์การบริหารทีมแบบใจจดใจ่อ เพราะต้องการรู้ว่า พวกเขาจะจริงจังกับทีมมากเท่าเจ้าของเดิมหรือไม่?
แน่นอนว่าเรื่องที่ต้องโฟกัสมากที่สุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้องหน้า ย่อมเป็นการเสริมทัพในตลาดนักเตะรอบต่อไป เนื่องจาก สิงโตน้ำเงินคราม นั้นต้องเสียกำลังหลักออกไปหลายรายโดยเฉพาะในแผงหลังที่จะขาด อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ที่ย้ายไปอยู่กับกับ เรอัล มาดริด และทาง อันเดรียส คริสเตนเซ่น ที่ไปอยู่กับกับ บาร์เซโลน่า โดยที่ สิงห์บลู จะไม่ได้รับเงินค่าตัวกลับมาแม้แต่แดงเดียว เพราะเป็นดาวเตะที่หมดสัญญากับต้นสังกัดแบบพอดิบพอดี ทำให้การเตรียมทีมฤดูกาลหน้า จำเป็นอย่างมากที่ต้องพึ่งพาเม็ดเงินจากกระเป๋าของเจ้าของใหม่
บทความนี้ 168Kick พร้อมนำเสนอข้อมูลอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นมูลค่าสินทรัพย์ของเจ้าของทีมทั้งหมดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลหน้าว่า แต่ละคนจะรวยติดอันดับเท่าไหร่กันบ้าง? โดยจะขอแบ่งเป็นสี่ตอนเพื่อความยาวที่เหมาะสมเช่นเคย อันเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องที่จะนำไปเชื่อมโยงกับงบเสริมทัพแบบเลี่ยงไม่ได้ เพราะการควักทุนส่วนตัวของเหล่าเจ้าของทีม หากเป็นสถานการณ์ที่จำเป็นต้องซื้อเป้าหมายที่เล็งไว้แบบพลาดไม่ได้ แล้วงบประมาณที่ตั้งเป้าเอาไว้ไม่พอ สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ในฉับพลัน มาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า ทีมที่แฟนๆ ติดตามเชียร์จะอยู่กันที่อันดับเท่าไหร่กันบ้าง? ทรัพย์สินของพวกเขามีค่ามากเท่าไหร่?…ทุกคำตอบรวมเอาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว
เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 20 เป็นเจ้าของสโมสร เบรนท์ฟอร์ด ที่ร่ำรวยจากการทำงานด้านวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แล้วนำเงินทุนมาต่อยอดในวงการพนันแบบเต็มตัว จนสามารถช่วยทีมรักจากวิกฤติการเงินด้วยการเทคโอเวอร์ในปี 2012 นั้นก็คือ แม็ทธิว เบ็นแน่ม ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินของเขาที่เปิดเผยออกมาคร่าวๆ ตามหน้าสื่อ มีแค่ราว 3 ล้านปอนด์ แต่ความจริงแล้วน่าจะแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมินค่าได้อีกหลายเท่าตัวนัก ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเงินทุนไปซื้อหุ้นของสโฒสร มิดทิลแลนด์ ในประเทศเดนมาร์ก มาถือครองเพิ่มได้ในปี 2014 ยังไม่นับรวมเงินลงทุนต่างๆ ที่กระจายไปตามแวดวงที่เขาสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ ว่ากันว่า เขาคือหนึ่งในเจ้าของทีมฟุตบอลที่ฉลาดที่สุดในวงการลูกหนัง
อันดับที่ 19 เป็นเจ้าของสโมสรชาวอิตาลีของ ลีดส์ ยูไนเต็ด อย่าง อันเดรีย ราดริซซานี่ ที่เข้ามาซื้อหุ้นทีมจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ในปี 2017 ก่อนจะทำการควบคุมการบริหารทั้งหมด ต่อจาก มัสซิมโม่ เชลลิโน่ ในอีก 4 เดือนถัดมา รายได้หลักของเขามาจากการลงทุนในบริษัท อาเซอร์ เวนเจอร์ ที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาในแขนงต่างๆ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 รวมไปถึงการถ่ายทอดสดกีฬากรจายไปตามภาคพื้นทวีปต่างๆ ผ่านทาง อีเลฟเว่น สปอร์ตส นอกจากนั้นยังสนใจในสื่อด้านการบันเทิงอีกมากมาย มูลค่าทัพย์สินของเขาทั้งหมด ตกอยู่ที่ราว 344 ล้านปอนด์ ถือว่าไม่มากไม่มายเท่าไหร่ แต่ดูจากการลงทุนที่มอบงบเสริมทัพให้กับ ยูงทอง แล้ว อาจมีกระเป๋าเงินซ่อนไว้เป็นงบลับอยู่อีกพอสมควร
ต่อเนื่องกันที่อันดับที่ 18 เป็นเจ้าของสโมสรน้องใหม่ลีกสูงสุดแดนผู้ดีทีมล่าสุด ที่เพิ่งจะกลับมาได้หลังตกชั้นไปกว่า 40 ปี นั่นก็คือ เอวานเจลอส มารินาคิส นักธุรกิจร่างอวบ ที่คร่ำหวอดในวงการกีฬา ถือหุ้นทั้งใหญ่ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ และ โอลิมเปียกอส ท่อน้ำเลี้ยงหลักของเขาเป็นธุรกิจทางด้านขนส่งทางน้ำ ที่มีชื่อบริษัทว่า มาริไทม์ มีเรืออยู่ในการครอบครองมากกว่า 70 ลำ เพื่อใช้ในการลำเลียงสินค้าไปยังปลายทาง ตามน่านน้ำที่ได้รับการอนุญาติให้แล่นผ่านได้โดยไม่ผิดกฏหมาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหน้าฉากเกี่ยวกับการเมืองในบ้านเกิดประเทศกรีซ ด้วยการเป็นสมาชิกสภาอีกด้วย เชื่อกันว่า ทรัพย์สินรวมของเขามีมูลค่าสูงถึง 505 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
ถัดมาที่อันดับที่ 17 เป็นเจ้าของสโมสรที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าสนใจในซีซั่นที่ผ่านมาอย่าง ไบรท์ตัน ที่เป็นนักโป๊กเกอร์ พนันจนรวยเป็นอาชีพ มีฉายาในวงการว่า เดอะ ลิซาร์ด ฝีมือของเขาอยู่ในระดับเซียนที่หาเงินจากไพ่ได้แบบมหาศาล เคยเข้าแข่งขันในรายการ เวิลด์ ซีรีย์ ที่รวมเอายอดเซียนจากทั่วโลกมาฟาดฟันกัน นอกจากนั้นยังชื่นชอบในการพนันเกี่ยวกับกีฬาต่างๆ หลายแขนงอีกด้วย โทนี่ บลูม ควักเงินซื้อหุ้นของ เจ้านกนางนวล ต่อจาก ดิค ไนท์ จำนวน 75 เปอร์เซ็นต์ แล้วลงทุนเพิ่มเติมในการปรับปรุงสนามและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ไปเป็นเงินก้อนแรกจำนวน 93 ล้านปอนด์ ตามรายงานของสื่อต่างๆ ทรัพย์สินที่เขาถือครองอยู่ตอนนี้มีมูลค่าสูงถึง 765 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
ปิดท้ายกันที่อันดับที่ 16 เป็นเจ้าของสโมสรน้องใหม่อีกหนึ่งทีม ที่จะเลื่อนชั้นขึ้นมาฟาดฟันบนลีกสูงสุดซีซั่นหน้าอย่าง บอร์นมัธ ที่มีทาง มักซิม เดมิน นักธุรกิจชาวรัสเซียเป็นหัวเรือใหญ่ ถือหุ้นร่วมกับ เอ็ดดี้ มิตเชลล์ รวมไปถึงการกระจายขายหุ้นให้กับบริษัทต่างๆ ที่ต้องการลงทุนกับสโมสรนี้อีกมากมายหลายเจ้า เดมิน ร่ำรวยจากธุรกิจด้านน้ำมันหรือ ปิโตรเคมิคอล รวมไปถึงงานอดิเรกที่เป็น เทรดเดอร์ มูลค่าทรัพย์สินของเขาที่คาดดการณ์กันไว้คร่าวๆ ตามหน้าสื่อ คือราว 900 ล้านปอนด์ แต่ปัญหาจากสงครามที่ผ่านมาระหว่าง รัสเซีย กับ ยูเครน อาจทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเขาไม่ได้อยู่ในจุดที่ลอยตัวได้เหมือนเดิม ซึ่งนั่นอาจเป็นปัจจัยที่จะกระทบต่อการเสริมทัพเพื่อความอยู่รอดของ เดอะ เชอร์รี่ ในฤดูกาลหน้าเช่นกัน