ผ่านไปแล้วกับตอนแรกในซีรีส์ อัพเดททรัพย์สินรวมของเจ้าของทีม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า ที่แฟนๆ ได้เห็นรายชื่อกันไปบ้างแล้วว่า แต่ละรายล้วนมีธุรกิจเป็นแบ้คอัพท่อน้ำเลี้ยงจากวงการใดบ้าง แน่นอนว่าจำนวนเงินที่สื่อเปิดเผยออกมา เป็นแค่การคาดเดามูลค่ารวมๆ ในส่วนที่พวกเขายินดีให้ข้อมูล รวมไปถึงการตีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหลายแหล่ออกมาคร่าวๆ แต่คงไม่มีใครที่มีทุนทรัพย์แบบพอดิบพอดี ไม่มีกระเป๋าเสริม หากวันหนึ่งธุรกิจหลักที่ทำเงินไม่เป็นดังที่คาดการณ์เป็นแน่ ไม่เช่นนั้นอาจเปลี่ยนจาก เศรษฐี เป็น ยาจก ได้ในชั่วพริบตา
สำหรับงบประมาณในการบริหารทีมของแต่ละสโมสรทุกวันนี้ หากไม่ใช่คนที่มีเงินถุงเงินถัง จะมาเล่นกับวงการลูกหนังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนที่สโมสรจะมีผลกำไรแต่ละไตรมาส ย่อมต้องมีการควักเนื้อลงทุนล่วงหน้าไปก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับแฟนบอล และเหล่าสปอนเซอร์ ที่พร้อมจะเข้ามาช่วยควักงบในการสนับสนุนทีม หากเลือกจับจ่ายใช้สอยแบบจำกัดจำเขี่ย ยากที่จะยึดพื้นที่สื่อให้เป็นจุดสนใจได้ในปัจจุบัน ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนต่อต้านจากแฟนบอลพันธุ์เดือด อันมีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ ที่ปัญหาเหล่านั้นอาจลุกลามไปถึงการประท้วง หรือ เหตุการณ์รุนแรงที่ยากจะคาดเดา
ทีมงาน 168Kick พร้อมนำเสนอตอนต่อของคอนเทนต์เดิมแบบไม่ให้ขาดตอน โดยจะเป็นเจ้าของทีมที่ถูกจัดอันดับว่ามีทรัพย์สินอยู่ในลำดับที่ 15-11 ตามที่เปิดเผยออกมาตามหน้าสื่อต่างๆ ที่เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจำนวนสินทรัพย์ตรงส่วนนี้ สามารถคำนวณสายป่านของแต่ละสโมสรได้คร่าวๆ ว่ายาวขนาดไหน? ในอนาคตมีสิทธิ์ถูกขายทอดตลาดหรือโดนเทคโอเวอร์หรือไม่? รวมไปถึงการคาดหวังจากแฟนบอลเรื่องงบประมาณทำทีม เสริมทัพความแข็งแกร่งให้ขุนพลแต่ละแดนด้วยเช่นกัน มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีเจ้าของทีมจากสโมสรใดติดโผเข้ามาบ้าง? กระเป๋าของพวกเขาพกเงินมาหนาระดับไหน?
เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 15 เป็นเจ้าของสโมสรคนคู่จาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่อยู่ในน้ำมือการบริหารของ เดวิด ซัลลิแวน และ เดวิด โกลด์ ซึ่งมีธุรกิจเบื้องหลัง คือ การถ่ายภาพนู้ด โป๊ เปลือย ต่างๆ รวมไปถึงร้านค้าด้านการบำรุงกามอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น เซ็กส์ช็อป และ หนังเรทเอ็กซ์ เรทอาร์ ทุนต่ำ ที่ขายให้กับผู้ที่ต้องการในตลาดเฉพาะด้านนี้ ก่อนหน้านี้ทาง ซัลลิแวน เคยถูกจับจนเข้าคุกเกี่ยวกับคดีพัวพันการเปิดซ่องมาแล้ว ถึงแม้ว่าเงินของเขาจะดูมาจากธุรกิจที่ไม่ใสสะอาดเท่าไหร่นัก แต่ความกล้าลงทุนของเขานับว่าไม่ธรรมดา เห็นได้จากการเสริมทัพที่ผ่านมาให้กับ ขุนค้อน ที่คัดดมาแต่ดีลปังๆ ตามใบสั่งของผู้จัดการทีมล้วนๆ เชื่อว่า สินทรัพย์รวมของเขามีมากถึง 1.62 พันล้านปอนด์เลยทีเดียว
ต่อเนื่องกันที่อันดับที่ 14 เป็นเจ้าของสโมสร เอฟเวอร์ตัน อย่าง ฟาร์ฮัด โมชิรี่ ที่เคยถือหุ้นของ อาร์เซน่อล มาก่อน แล้วทำการขายทอดตลาดเอากำไร เพื่อมาซื้อ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ในปี 2016 การบริหารงานที่ผ่านมาของเขา นับว่าทุ่มเทงบประมาณให้กับทีมแบบไม่มีอิดออด รวมไปถึงการควักงบดูดกุนซือชื่อดังมาคุมทีมแบบไม่มีขาดตอน กล้าเสี่ยง กล้าวัด แบบไม่มีกลัว โดยธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังความร่ำรวยของเขานั้นเป็นด้าน พลังงาน และ เหล็ก ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศอังกฤษ และ รัสเซีย ซึ่งอาจจะทำให้สโมสรเจอปัญหาพอสมควร หลังจากภาวะสงคราม เพราะต้องตัดความสัมพันธ์กับพันธมิตรจากแดนหมีขาวหลายคน ที่เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนอยู่เงียบๆ เชื่อกันว่าทรัพย์สินของเขา มีมูลค่าสูงถึง 1.9 พันล้านปอนด์
ถัดมาที่อันดับที่ 13 เป็นเจ้าของทีมจากสโมสรขวัญใจแฟนบอลทั่วโลกอย่าง ลิเวอร์พูล อย่าง จอห์น เฮนรี่ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่คร่ำหวอดในวงการกีฬา ถือครองทีมเบสบอลชื่อดังอย่าง บอสตัน เร้ด ซ็อกซ์ อยู่ในมือด้วย โดยมีการก่อตั้งกลุ่มทุนที่มีชื่อว่า เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป ขึ้นมาดูแลธุรกิจด้านนี้โดยเฉพาะ ส่วนเงินทุนหลักที่ทำให้เขาร่ำรวยนั้นมาจากบริษัทให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การตลาด การวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยให้คำแนะนำด้านการบริหาร ชี้แนวทางทำกำไร เชื่อกันว่ามูลค่าทรัพย์สินรวมของเขา มีมากถึง 2.14 พันล้านปอนด์ แต่ดูท่าแล้วอาจไม่ใช้เจ้าของที่ใจป้ำเท่าไหร่นัก เพราะขนาดทีมประสบความสำเร็จระดับนี้ ยังมีงบต่อไปให้แบบจำกัดจำเขี่ย
ต่อกันที่อันดับที่ 12 เป็นเจ้าของทีมจากสโมสร เซาแธมป์ตัน อย่าง เก๋า จี้เชง นักธุรกิจชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เข้ามาซื้อหุ้นทีมราว 80 เปอร์เซ็นต์ในปี 2017 ซึ่งดีลการเทคโอเวอร์ดังกล่าวใช้เวลาพูดคุยกันนานถึง 12 เดือนเลยทีเดียวกว่าจะเสร็จสิ้น โดยธุรกิจที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงของเขามาจากวงการอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่แผ่ขยายอยู่ในแถบเอเชีย มีพื้นที่อย่าง ฮ่องกง ที่ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ อย่างไรก็ตามวิกฤติการระบาดของ โควิด-19 ทำให้เขาต้องขาดทุนไปมหาศาล จนมองถึงการขายหุ้นของทีมนักบุญทิ้ง แต่สุดท้ายแล้วก็ยื้อมาจนถึงปัจจุบัน มูลค่าทรัพย์สินของเขาตกอยู่ที่ราว 2.3 พันล้านปอนด์
ปิดท้ายกันที่อันดับที่ 11 เป็นเจ้าของทีมจากประเทศไทย ที่ถือครองสโมสรอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ แล้วบริหารงานได้อย่างยอดเยี่ยม จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากคุณ อัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซึ่งหลังจากเข้ามาชุบชีวิตทีม สุนัขจิ้งจอก ก็พาทีมไต่เต้าจากลีกรอง ก้าวไปเป็นแชมป์ลีกสูงสุด รวมถึงรายการบอลถ้วยได้อย่างยิ่งใหญ่ ธุรกิจที่ทำเงินให้เป้นกอบเป็นกำคงไม่พ้น ดิวตี้ ฟรี เขตสินค้าปลอดภาษี ภายใต้ชื่อว่า คิง พาวเวอร์ส ซึ่งเงินทุนจากส่วนนั้นก็ถูกแบ่งสรรปันส่วนไปต่อยอดในด้านอื่นๆ เม็ดเงินที่ลงทุนให้กับทีมไปในแต่ละปีนับว่าไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อยเลย เมื่อเทียบกับสโมสรร่วมลีกรายอื่นๆ เชื่อกันว่ามูลค่าทรัพย์สินของเขา ตกอยู่ที่ราว 2.9 พันล้านปอนด์