จัดอันดับมูลค่าทรัพย์สินรวมของ 20 เจ้าของทีม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนสาม

ในโลกฟุตบอลทุกวันนี้ เกมกีฬาชนิดนี้เริ่มห่างไกลจุดยืนเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ขึ้นไปทุกที แล้วก้าวไปสู่โลกแห่งธุรกิจทำเงินเต็มตัว เนื่องจากนักลงทุนจากหลายภาคพื้นทวีป พร้อมจะนำเเงินในคลังของพวกเขา มาซื้อสโมสรเพื่อเป็นทรัพย์สินที่มีโอกาสทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ยิ่งเฉพาะลีกที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง 5 ลีกใหญ่ยุโรป อาทิ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, บุนเดสลีก้า เยอรมัน, ลีก เอิง ฝรั่งเศส และ ลาลีก้า สเปน ซึ่งมีฐานแฟนบอลติดดตามอย่างเหนียวแน่น สร้างรายได้ในวงการนี้ได้แบบมหาศาล แค่เฉพาะเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแต่ละเกม ก็ทำเงินกันไปไม่รู้เท่าไหร่

หากโฟกัสไปที่ลีกแดนผู้ดี ในช่วงทศวรรษหลังมานี้ จะเห็นเรื่องการเปลี่ยนมือเจ้าของทีมกันเป็นประจำ ไม่ต่างกับการเซ้งร้านที่มีรายรับการันตีอยู่แล้ว ถ้าผู้ที่เข้ามาเซ้งต่อ กล้าลงทุนเพิ่มมูลค่า ให้หน้าร้านของตัวเองน่าสนใจมากขึ้น โอกาสที่จะมีลูกค้าที่เป็น ฐานแฟนบอล ของทีม เพิ่มมากขึ้นในอนาคต คงไม่ใช่เรื่องที่ฝันเกินตัว ยกตัวอย่างเช่นรายล่าสุดอย่าง ท็อดด์ โบห์ลี่ ที่เพิ่งจะจัดการซื้อสโมสร เชลซี มาจาก โรมัน อบราโมวิช อดีตเจ้าของทีมที่เคยถือสัญชาติรัสเซียมาแบบสดๆ ร้อนๆ เชื่อได้เลยว่า ภ้าเกิดสถานการณ์ไม่บีบบังคับ คนอย่างอากู๋ คงไม่มีทางปล่อยสินทรัพย์ที่เขารักออกไปง่ายๆ เพราะกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เป็นแชมป์ยุโรป และ สโมสรโลก แบบหมาดๆ การต่อยอดโปรโมท แนวทางการบริหารนั้นถูกวางเอาไว้พร้อมสรรพ ขาดแค่เรื่องกำลังเงิน ที่จะมาดำเนินทุกอย่างให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเพียงเท่านั้น ซึ่งดันมาลงตัวที่เขาแบบพอดิบพอดี

บทความนี้ 168Kick พร้อมนำเสนอตอนต่อของซีรีส์ อัพเดทมูลค่าทรัพย์สินเจ้าของทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นหน้า ซึ่งอีพีนี้จะเข้าสู่ตำแหน่งท็อปเท็นในอันดับที่ 10-6 การันตีได้เลยว่า มูลค่าเงินในกระเป๋าของมหาเศรษฐีแต่ละราย หากไม่โดนกฏควบคุมการเงินอย่าง ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ ปิดตายไว้ ทุกคนคงกล้าควักเงินมาช่วยทีมในดด้านต่างๆ แบบโต้งๆ ไม่ต้องคิดดคำนึงอะไรมาก เพราะเป็นแค่สัดส่วนที่ทำให้พวกเขาไม่ได้รู้สึกระคายเคืองใดๆ มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า คลิปนี้จะมีเจ้าของทีมรักทีมเชียร์ของแฟนๆ ติดโผเข้ามาบ้างหรือไม่? เงินทุนที่เป็นคลังสำรองอันหมาศาลนั้นมากขนาดไหน? ทุกคำตอบรวมเอาไว้ในสกู๊ปนี้เรียบร้อยแล้ว

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 10 เป็นเจ้าของสโมสรในกรุงลอนดอนอย่าง คริสตัล พาเลซ ที่แม้ชื่อชั้นจะเป็นรองยักษ์ใหญ่ทีมอื่นๆ แต่ความรวยของ โจชัว แฮร์ริส นักธุรกิจชาวอเมริกัน นับว่าเป็นเศรษฐีเงินหนา ที่พร้อมควักทุนก้อนโตได้ทุกเมื่อ ขึ้นอยู่กับผลงานและโปรเจ็คท์ของทีมว่าทำได้ตามเป้าหรือไม่? ท่อน้ำเลี้ยงของ แฮร์ริส นั้นมาจากการจัดดสรรกองทุน รวมไปถึงบริหารเงินก้อนต่างๆ ของลูกค้าให้เกิดผลกำไร แถมยังมีการแบ่งทุนไปทำองค์กร เพื่อสาธารณประโยชน์อีกต่างหาก นอกจาก ปราสาทเรือนแก้ว ยังมีสโมสรกีฬาอย่าง ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ ซิกเซอร์ ทีมบาสชื่อดังในศึก เอ็นบีเอ ในการครอบครอง มูลค่าทรัพย์สินรวมของเขา ตีออกมาได้ที่ประมาณ 3.36 พันล้านปอนด์

ต่อเนื่องกันที่อันดับที่ 9 เป็นเจ้าของสโมสรที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดทีมหนึ่งในลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีฐานแฟนบอลกระจายอยู่ทั่วโลก ทุกภาคพื้นทวีป อันเป็นผลมาจากการประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คอยคุมทีมอยู่ข้างสนาม ทำให้ ตระกูลเกลเซอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน แทบไม่ต้องเป็นกังวลใดๆการกู้หนี้ยืมสินธนาคารมาเทคโอเวอร์ ปีศาจแดง ช่วยให้พวกเขาดึงกำไรไปล้างหนี้ส่วนตัวได้หลายร้อยล้านปอนด์ รวมไปถึงมีการต่อยอดเอาเงินทุนไปลงกับทีมกีฬาอื่้นๆ ที่อยู่ในการครอบครอง การันตีเลยว่าถ้าพวกเขาคิดจะขายทรัพย์สินชิ้นนี้ให้กับหมาเศรษฐีคนต่อไป คงทำเงินเพิ่มพูนได้หลายเท่าตัว ปัจจุบันทรัพย์สินของ เกลเซอร์ แฟมิลี่ นั้นครอบครองไว้ราว 3.5 พันล้านปอนด์

ถัดมาที่อันดับที่ 8 เป็นสโมสรในเมืองหลวงอีกหนึ่งทีมอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่กับงบเสริมทัพในช่วงหลัง ที่เจ้าของทีมอย่าง โจ ลูอิส อัดฉีดให้แบบไม่ยั้ง นักธุรกิจแดนผู้ดีรายนี้ ได้ทุนรอนในการซื้อสโมสร ไก่เดือยทอง มาจากการทำธุรกิจด้าน แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลเงินยุโรป ซึ่งสามารถทำกำไรไดด้แบบมหาศาล ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เขาเคยมีความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดกับ จอร์จ โซรอส เจ้าพ่อตลาดหุ้น ที่สามารถทำให้เกิดความวุ่นวายได้ในชั่วข้ามคืน เคยมีคดีความเรื่องการเลี่ยงภาษีจนเป็นข่าวใหญ่มาก่อนหน้านี้ ซึ่งการเทรดเงินของ ลูอิส ยังคงทำรายได้ให้เขาแบบไม่ขาดมือ มูลค่าทัพย์สินของเขาในปัจจุบัน ตีค่าออกมาได้ที่ราว 3.6 พันล้านปอนด์

เข้าสู่อันดับที่ 7 กันที่เจ้าของสโมสรเก่าแก่อย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ ตั้งแต่สมัยที่ทีมยังอยู่ในลีกรอง นั่นก็คือ เก๋า กวงชาง นักลงทุนเบอร์ต้นๆ จากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริหารและเจ้าของ โฟซัน กรุ๊ป ที่ลงทุนในธุรกิจหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี, เภสัชกรรม, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, อสังหาริมทรพย์ และ แร่ธาตุ เป็นต้น มีพนักงานอยู่ในการดูแลกว่า 74,000 คน เคยมีดีกรีเป็นหนึ่งในนักธุรกิจแถวหน้าของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ร่วมกันลงขันจัดงาน เวิลดด์ เอ็กซ์โป ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ มาแล้ว ดังนั้นแทบไม่ต้องห่วงเรื่องการเงินในระยะยาวของสโมสร หมาป่า เลยแม้แต่น้อย ยิ่งมองเรื่องการเสริมทัพในช่วงหลังที่ควักแบบเน้นๆ แฟนๆ ยิ่งสบายใจได้ ทรัพย์สินของ มิสเตอร์ เก๋า นั้นครองครองอยู่ที่ราว 4.5 พันล้านปอนด์

ปิดท้ายกันที่อันดับที่ 6 เป็นเจ้าของสโมสร แอสตัน วิลล่า ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวอียิปต์ ที่หลังจากเข้ามาเทคโอเวอร์ทีม ก็ใช้เงินแบบมันมือ ขอแค่ทีมทำผลงานได้ตามเป้า นั่นก็คือ นาสเซฟ ซาวิริส ซึ่งสื่อบางเจ้าอ้างว่าเขาเป็น ชาวอาหรับที่รวยที่สุด โดยมีรายได้จากธุรกิจจัดการ โครงสร้างต่างๆ ที่รับทำอาคารให้บริษัทใหญ่ๆ ที่คุยกันลงตัว แถมยังขายสินค้าด้านการก่อสร้างเสริมอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีบริษัท อแวนตี้ แอคควิซิชั่น ที่เปิดขึ้นมาเพื่อจัดการเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นในปี 2020 เชื่อกันว่า ทรัพย์สินที่ทาง นาสเซฟ ถือครองอยู่นั้น มีมูลค่าสูงถึง 5.3 พันล้านปอนด์ เล่นเอาหลายทีมอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถบ หลังเขาซื้อ สิงห์ผงาด มาครอบครองได้สำเร็จในปี 2018

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top