เข้าสู่ตอนปิดท้ายของซีรีส์ ทีม ออลสตาร์ นักเตะบราซิล ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากการคัดเลือกของสื่อชื่อดังอย่าง สกาย สปอร์ตส ซึ่งเป็นประเด็นที่แฟนบอลต่างประเทศถกเถียงกันอย่างหนัก เรื่องของความเหมาะสมในการเลือกนักเตะมาแต่ละราย เพราะหลายตำแหน่งค้านสายตาสุดๆ
เหมือนเช่นในอีพีแรกที่ทางทีมงาน ได้ทำการวิเคราะห์ไล่เรียงกันไปแล้วในตำแหน่งผู้รักษาประตู และ เซ็นเตอร์แบ็คตัวกลางสามคน โดยในอีพีปิดท้ายนี้จะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางและกองหน้า เจาะลึกให้เห็นกันไปว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ตามวิจารณญาณของทีมงาน
เปิดหัวกันที่ตำแหน่งกองกลางตัวรับสามคนตรงกลางสนามรายแรก เป้นผู้เล่นระดับตำนานของสโมสร อาร์เซน่อล ที่ถึงแม้จะมีช่วงพีคเพียงสั้นๆ แต่มาจนถึงปัจจุบัน ยังหาตัวแทนที่ทำผลงานเทียบเคียงกับเขาไม่ได้เลย นั่นก็คือ กิลแบร์โต้ ซิลวา มิดฟิลด์ตัวรับเวอร์ชั่นไฮบริดคนแรกๆ ของลีก ที่อยู่ในชุด อินวิ้นซิเบิ้ล อาร์เซน่อล ครองแชมป์ลีกสูงสุด ด้วยการไม่แพ้ให้กับทีมใดเลยตลอดซีซั่น การเล่นของ กิลแบร์โต้ อาจดูเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในเรื่องของการตัดบอล อ่านเกมล่วงหน้า เล่นได้ทั้งหนักและเบา แถมยังเชื่อมเกมจากหลังไปหน้าแบบง่ายๆ เปลี่ยนแนวทางการเล่นตัวตัดเกมแบบเดิมๆ ให้ดาวรุ่งรุ่นหลังๆ เห็นว่า เล่นแบบสายเชิงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบู๊ใส่หนักทุกจังหวะ ให้เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ
ต่อกันที่รายที่สองในตำแหน่งกองกลางเช่นกัน เป็นผู้เล่นชาวแซมบ้าจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนความคิดของแฟนบอลจากยุคก่อน ที่มองว่าตำแหน่งนี้ต้องเป็นคนตัวใหญ่เท่านั้น ถึงจะทำผลงานได้ดี ได้เปรียบในเรื่องของการเข้าปะทะ แม้ว่าช่วงแรกอาจต้องใช้เวลาปรับจูนอยู่บ้าง แต่การได้รับคำแนะนำจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำให้ แฟร์นันดินโญ่ ก้าวขึ้นมาทดแทนการจากไปของ ยาย่า ตูเร่ ได้แบบสบายๆ เขาไม่เพียงเล่นเกมรับแบบกัดไม่ปล่อยได้ดี แต่ยังมีจังหวะการเติมขึ้นไปช่วยในเกมบุก คอยเป็นตัวเชื่อมบอลในจังหวะคับขัน
บางจังหวะสามารถสอดขึ้นไปยิงไกลแบบได้ลุ้น เล่นได้หลายบทบาทตามที่เทรนเนอร์สั่งมา ช่วงที่เขาอยู่ในยุคทองถือว่าเป็นตัวท็อปเบอร์ต้นๆ ของโลกฟุตบอล การมีชื่อติดเข้ามาในทีมชุดนี้ เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงแบบไร้ข้อโต้แย้ง หากไม่มีเขาเป็นส่วนประกอบในแดนกลาง เรือใบสีฟ้า อาจจะพลาดแชมป์ไปกี่สมัยก็ไม่ทราบได้
ถัดมาที่ตำแหน่งกองกลางรายสุดท้าย เป็นน้องใหม่สุดจากสามรายชื่อ เพิ่งจะย้ายมาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ได้เพียงไม่กี่ฤดูกาลเท่านั้น แต่หลังจากปรับตัวได้ ก็สถาปนาตัวเองเป็นยอดตัวรับ มีส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกได้ในรอบ 30 ปีอย่างน่าทึ่ง นั่นก็คือ ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์สายเชิง ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ แข้งขายาวเกะกะ ช่วยในเเรื่องของการตัดบอลได้ดี
เขาอาจไม่ได้มีความเร็ว ไม่มีความดุดันหนักแน่น แต่การอ่านเกมล่วงหน้าของเขา บวกกับการออกบอลสั้นๆ ง่ายๆ ให้เพื่อนเล่นได้อย่างไม่สะดุด ช่วยให้ทีมเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด การปักหลักหน้าแผงแนวรับของเขา ช่วยให้งานของกองหลังเบาลงอย่างมาก ปัจจุบันนี้เขาคือหนึ่งในผู้เล่นกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในลีก ซึ่งหาก หงส์แดง ต้องขาดเขาไปเกมใด ประสิทธภาพจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ถัดมาที่ตำแหน่งปีกซ้าย เป็นผู้เล่นชาวบราซิลแท้ๆ คนแรก ที่ย้ายมาสร้างปรากฏการณ์ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วยให้ มิดเดิ้ลสโบรซ์ กลายเป็นสโมสรที่ได้รับความนิยมอย่างสูงช่วงหนึ่ง หนึ่งในปัจจัยที่ดึงดูดแฟนบอลก็คือลีลาการเล่น อันน่าตื่นตาตื่นใจของนักเตะอย่าง จูนินโญ่ เปาลิสต้า ปีกร่างจิ๋ว ที่มีความพริ้วไหว จังหวะการลากเลื้อยที่ยากจะมีใครหยุดได้ง่ายๆ เล่นงานแนวรับลีกแดนผู้ดีจนหัวปั่นมาแล้วนักต่อนัก
จูนินโญ่ เข้าๆ ออกๆ เดอะ โบโร่ เป็นว่าเล่น พอได้รับข้อเสนอจากทีมที่ใหญ่กว่า ก็ตัดสินใจย้ายออกไปพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ ฝีเท้าของเขานั้นเป็นของจริงไม่ต้องสงสัย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีชื่ออยู่ในชุดแชมป์โลกของ เซเลเซา ในปี 2002 แล้วยังช่วยให้ มิดเดิ้ลสโบรซ์ ไปถึงตำแหน่งแชมป์ ลีก คัพ ในฤดูกาล 2003/04
ปิดท้ายตำแหน่งกองกลางตัวริมเส้นรายสุดท้ายกันที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่เคยระเบิดฟอร์มสุดยอดทั้งยิง ทั้งจ่าย ให้กับ ลิเวอร์พูล ในยุคเริ่มแรกของ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ มาแล้ว จนได้รับบทบาทให้เป็นเพลย์เมคเกอร์เบอร์หนึ่งของทีมในเวลานั้น โดยความจริงแล้วคนที่ดึงตัว คูตี้ มายังถิ่น แอนฟิลด์ นั้นเป็นเทรนเนอร์คนเก่าอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ใช้เวลาปรับตัวแล้วเล่นได้น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่พีคเท่ากับช่วงที่ร่วมงานกับ คล็อปป์ น่าเสียดายไปหน่อยที่เขาเลือกที่จะย้ายออกไปพิสูจน์ตัวเองกับ บาร์เซโลน่า
แล้วลงเอยไม่สวยดังคาด แต่เงินค่าตัวของเขาทำให้ หงส์แดง นำมาเล่นแร่แปรธาตุเป็นผู้เล่นหลายคนที่กลายเป็นตัวหลักทุกวันนี้ ปัจจุลบันการย้ายมาเล่นให้กับ แอสตัน วิลล่า ยังถือว่า คูตี้ โชว์พิษสงคืความร้ายกาจให้เห็นกันอยู่เนืองๆ ต้องมาลุ้นกันว่า ฤดูกาลหน้าที่ได้เล่นแบบเต็มๆ ปีแรก จะคัมแบ็คกลับมาได้ระดับไหน เมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ อย่าง วิลเลี่ยน หรือ ออสการ์ เฉือนไปได้แค่ปลายจมูก
มาถึงตำแหน่งกองหน้ารายแรก สกาย สปอร์ตส เลือกเอา ฟอลส์ ไนน์ พันธุ์แท้อย่าง โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ติดเข้ามาในโควต้านี้ ผลงานของดาวยิงฟันขาวกับ ลิเวอร์พูล อาจมีทั้งช่วงที่ได้รับคำชมอย่างมาก แต่ก็มีช่วงที่โดนตำหนิเท่าๆ กัน เนื่องจากหน้าที่ของเขามันดูย้อนแย้งกับตำแหน่งการเล่น ยืนในแผนเป็นหน้าเป้า
แต่บทบาทคือการเชื่อมเกม วิ่งดึงตัวกองหลังคู่แข่งให้เข้ามารุมประกบ เพื่อเปิดทางให้กับกองหน้ากึ่งปีกสองฝั่งทั้ง ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ มีพื้นที่ในการเล่นได้มากขึ้น มีเเวลาคิดเวลาทำอะไรมากขึ้น นานวันเข้าแฟนบอลเริ่มสงสัยถึงผลงานของ เฟอร์มิโน่ ที่เริ่มยิงได้น้อยลงๆ จนหลังๆ ตกมาเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง เปลี่ยนบทบาทมาเป็นไพ่โจ๊กเกอร์สำหรับเปลี่ยนเกมไปแล้ว
ปิดท้ายกันที่ดาวยิงป้ายแดงของ อาร์เซน่อล อย่าง กาเบรียล เฆซุส ที่หน้าที่ส่วนใหญ่ของเขานับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือ การเป็นตัวแบ็คอัพให้กับ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ แล้วซึมซับแนวทางการเล่นไปเรื่อยๆ หวังว่าวันนึงจะขึ้นมาทดแทน เอล กุน ได้แบบไร้รอยต่อ แต่ยิ่งนานวันเข้าผลงานกลับกลายเป็นตรงกันข้าม แม้ตัวนักเตะเองจะมีทั้งความเร็ว จังหวะการลากเลื้อยที่เมามันเร้าใจ
อย่างไรก็ตามปัญหาที่แก้ไม่ตกสักที คือ เรื่องของจังหวะจบสกอร์ ที่วันไหนเข้าฝักก็พร้อมยิงกระจาย แต่วันไหนขาดความมั่นใจจังหวะผิดก็เตรียมเรือออกทะเลได้เลย หากเทียบจำนวนนัดที่ได้ลงเล่นกับจำนวนประตูที่ทำได้ ถือว่าผลงานของ เฆซุส อยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ไม่เช่นนั้น ไอ้ปืนใหญ่ คงไม่กล้าทุ่มงบระดับ 45 ล้านปอนด์ ดึงตัวเขาไปเป็นสตาร์คนใหม่แห่งถิ่น เอมิเรตส์ แน่ๆ