8 ดีลตัวแทนนักเตะขวัญใจสุดแย่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนแรก

ตามวิถีของโลกฟุตบอล ผู้เล่นภายในทีมทุกคนไม่ว่าจะสำคัญมากแค่ไหน หากมีข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธยื่นเข้ามา ต้นสังกัดย่อมเกิดอาการใจอ่อน ถ้าตัวเลขดังกล่าวนั้นสมน้ำสมเนื้อ สามารถนำไปแปรสภาพกลายเป็นนักเตะใหม่ ที่ทางทีมงานสตาฟฟ์โค้ชเชื่อมั่นว่า สามารถพาทีมไปสู่เป้าหมายที่หวังไว้ได้เช่นเดียวกัน ต่อให้ไม่มีอะไรการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งถ้าผู้เล่นของพวกเขาดันมีใจให้กับทีมที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาแล้ว การั้งตัวสตาร์เหล่านั้นให้อยู่กับทีมต่อไป ใช่ว่าจะเกิดผลดีในบั้นปลาย

ไม่ว่าสโมสรระดับไหนก็ต้องเคยผ่านเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน เพราะไม่มีทางที่ผู้เล่นคนไหนบนโลก จะอยู่ค้าแข้งกับทีมได้จนค้ำฟ้า เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกทางกันไปตามสภาพสังขารที่ร่วงโรย สุดท้ายก็ต้องเวียนมาเข้าลูปเรื่องการหาตัวแทนในระยะยาวเช่นกัน อย่างไรก็ตามตลาดนักเตะที่บ้าสคลั่งในทุกวันนี้ ราคาค่าตัวของผู้เล่นแต่ละเลยเจอสภาวะเงินเฟ้อ ปั่นตัวเลขให้สูงเกินไปกว่าความเป็นจริงเยอะมาก บางทีผู้จัดการทีมและแมวมองของสโมสร ก็ต้องพยายามหาตัวเลือกที่เหมาะสม ในราคาที่พอจ่ายไหว เพื่อนำมาเสี่ยงปั้นระยะยาว ด้วยความหวังว่าจะประสบความสำเร็จเช่นกัน

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคนเทนต์เกี่ยวกับ 8 นักเตะตัวแทนสตาร์ขวัญใจ ที่คัดมาเฉพาะดีลภายในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งสุดท้ายลงเอยด้วยความล้มเหลวแบบน่าอับอาย มาให้แฟนๆ ได้รับชมกันอีกเช่นเคย โดยจะขอแบ่งออกเป็นสองตอน เพื่อการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน คละเคล้ากันไปหลายยุคหลายสมัย ไม่มีการเจาะจงไปที่สโมสรใดเป็นพิเศษ แต่พยายามมองหาตัวเลือกที่เข้าตามาแบบเน้นๆ ให้เห็นถึงความผิดพลาด มาลุ้นไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีผู้เล่นที่แฟนๆ คิดเอาไว้ในใจติดโโผเข้ามาบ้างหรือไม่? แล้วความล้มเหลวนั้นเป็นดีลของสโมสรใด?

เริ่มต้นกันที่ดีลจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องย้อนกลับไปในปี 2009 ซึ่งการเสียสตาร์เบอร์หนึ่งของพวกเขาอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้ออกไปตามความฝันกับ เรอัล มาดริด เป็นเรื่องของสัญญาใจที่ทาง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และลูกชายในวงการของเขานั้นเคยพูดคุยกันเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว ทำให้สโมสร ปีศาจแดง ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องยอมปล่อยตัว ซีอาร์เซเว่น ออกไปให้กับ ราชันชุดขาว เพื่อแลกกับเงิน 80 ล้านปอนด์ ที่เป็นสถิติโลกในเวลานั้น แต่ใช่ว่าตัวแทนที่จะเข้ามาหากันได้ง่ายๆ ในตลาดนักเตะ กลายเป็นว่า เฟอร์กี้ เลือกจะลองเสี่ยงกับการเจียดดเม็ดเงินราว 4 ล้านยูโร ไปดดึงตัวปีกดาวรุ่งนเนมจาก บอร์กโดซ์ อย่าง กาเบรียล โอแบร์ต็อง เข้ามาร่วมทีม หวังจะปั้นจากดดินให้เป็นดาว แต่ต่อให้พยายามเข็นแล้วเข็นอีกก็ไม่ได้ใกล้เคียง โอแบร์ต็อง ได้ลงสนามไปเพียง 14 เกมตลอดสองฤดูกาล แล้วก็ถูกขายแบบราคาเซ้งไปให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่แม้ความกดดันในการลงเล่นจะน้อยกว่า แต่ก็แจ้งเกิดไม่สำเร็จเหมือนกัน

ต่อกันที่ดีลจากสโมสร ลิเวอร์พูล ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งใน แพนิค บาย ของแท้ เพราะไม่มีเวลาและทางเลือกให้ทีมงานตัดสินใจแบบถี่ถ้วนมากนัก เรื่องราวเกิดขึ้นแบบช็อคโลกในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะรอบสอง เดือนมกราคม ปี 2011 เมื่อทาง เฟร์นานโด ตอร์เรส มาแจ้งความประสงค์ว่า ต้องการย้ายทีม ทำให้ หงส์แดง ต้องทนฝืนกล้ำกลืนรับข้อเสนอ 50 ล้านปอนด์จาก เชลซี แล้วจำเป็นต้องหาตัวแทนแบบเร่งด่วน ใช่ว่าการเจรจากับคู่ค้าจะลงตัวได้ง่าย เพราะโดนบีบทั้งเรื่องของเวลา แถมรู้ว่าพวกเขากำลังถือเงินก้อนโตอยู่ในมือ สุดท้ายหวยเลยไปออกที่ศูนย์หน้าฟอร์มแรงของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อย่าง แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่สไตล์การเล่นแตกต่างกันแบบสิ้นเชิง แล้วก็อย่างที่แฟนบอลได้เห็นกันไปแล้ว แคร์โรลล์ ใช้เวลาในถิ่น แอนฟิลด์ ส่วนใหญ่ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บ ตลอด 18 เดือนแรก ยิงไปได้แค่ 6 ลูก แล้วก็ต้องถูกปล่อยให้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งานตามสภาพ

ถัดมาเป็นดีลอันแสนลำบากใจของ แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่จำเป็นต้องเสียสตาร์เบอร์หนึ่งของทีมในตอนนั้นอย่าง แกเร็ธ เบล ออกไปจากทีมแบบไม่มีทางเลือก เพราะเจอกับสถานการณ์ที่ต้องดีลกับสโมสรที่ใหญ่กว่าแบบ เรอัล มาดริด ที่เดินมาพร้อมกับข้อเสนอ 85 ล้านปอนด์ รวมไปถึงออร่าสโมสรในฝันของนักเตะหลายคนบนโลก ที่ต้องการผลักดันตัวเองให้ก้าวไปอยู่ในระดับท็อปคลาสของอาชีพ จำนวนประตู 26 ลูก จากฝีเท้าของ เบล ทุกรายการ ทำให้ทีมงานดันไปโฟกัสเรื่องนั้นเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ ไก่เดือยทอง หันไปหาตัวแทนเป็นดาวยิงตัวจบสกอร์ชั้นยอดจากลีก ลาลีก้า สเปน อย่าง โรแบร์โต้ โซลดาโด้ ที่ระเบิดตาข่ายถล่มทลายในช่วงหลัง ด้วยจังหวะยิงอันคมกริบแบบหาตัวจับได้ยาก พร้อมจ่ายเงินไปราว 26 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายผลงานในสนามเมื่อย้ายลีก ไม่ต่างกับการซื้อสากกะเบือมาพักบอลแดนหน้า

ปิดท้ายกันที่ดีลของสโมสร แมนเชสเเตอร์ ยูไนเต็ด อีกเช่นเคย แม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะจบฤดูกาล 1998/99 ด้วยการคว้าทริปเปิ้ล แชมป์ อย่างยิ่งใหญ่ แต่ใช่ว่าความสำเร็จเหล่านั้นจะส่งผลดีเสมอไป กลายเป็นว่านายทวารมือหนึ่งของพวกเขาอย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล เกิดอาการอินดี้ อิ่มตัวกับความสำเร็จไปเฉยๆ ส่งผลให้ เฟอร์กี้ ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากปล่อยตัว ยักษ์เดนส์ ออกไปให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แบบฟรีๆ แล้วพยายามควานหาตัวแทนที่ใกล้เคียงเข้ามาโดยเร็ว สุดท้ายหวยไปออกที่อดีตผู้เล่นทีมเยาวชนอย่าง มาร์ค บอสนิช ผู้รักษาประตูชาวออสเตรเลีย ที่เพิ่งถูก แอสตัน วิลล่า โละออกจากทีมมาสดๆ ร้อนๆ ได้มาแบบไม่เสียค่าตัวเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นนักเตะคนเดียวที่ เซอร์ อเล็กซ์ เซ็นต์มาร่วมทีมสองครั้ง แต่ผลงานในสนามก็ตอกย้ำแล้วว่า บอสนิช ไม่ดดีพอจริงๆ แถมวินัยนอกสนามก็ยังย่ำแย่ เป็นนักดื่มตัวยง สำมะเลเทเมาแบบหัวราน้ำ ซึ่งส่งผลต่อน้ำหนักตัวของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ บอสนิช อยู่กับทีมได้เพียงแค่สองปี ก็ถูกโละออกจากทีมกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดเหมือนเคย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top