Home บทความฟุตบอล ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามอันดับในตาราง ตอนแรก

ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามอันดับในตาราง ตอนแรก

0
ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามอันดับในตาราง ตอนแรก

ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิมยมสูงสุด เมื่อเทียบกับ 5 ลีกใหญ่ในยุปโรป เปิดฤดูกาลไปเรียบร้อยแล้ว แค่นัดแรกในการเรียกน้ำจิ้ม แฟนบอลก็ได้ลิ้มรสความมันส์อันสุดยอดทันที มีทั้งทีมที่สามารถเก็บชัยได้ตามความคาดหวัง รวมไปถึงทีมที่ผิดหวังตั้งแต่เกมแรก อย่างไรก็ตามเป็นแค่ช่วงเวลาเริ่มต้นเท่านั้น เหลือระยะทางอีกยาวๆ ให้ต้องลุ้นกันจนได้บทสรุป แน่นอนว่าหลายสื่อในต่างประเทศ ได้นำเสนอคอนเทนท์ต้อนรับกระแสกันอย่างคับคั่ง ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่นิยมที่สุด คือ การทายบทสรุป

ปฏิเสธได้ยากว่าสื่อในประเทศอังกฤษ มีหลากหลายเจ้าให้เลือกติดตาม แบ่งแยกลำดับชั้นเป็นเทียร์ วัดกันที่ความน่าเชื่อถือล้วนๆ คอนเทนต์ต่างๆ ก็มีทีมงานแตกต่างกันไปในการรับผิดชอบ โดยหนึ่งเจ้าที่กำลังมาแรง มีประเด็นใหม่ๆ ให้น่าติดตามอยู่เสมอ คือ กิฟมีสปอร์ต ด้วยกระแสการทำนายบทสรุปของลีกแดนผู้ดีเป็นเรื่องที่ยากจะต้าน สื่อน้องใหม่เจ้านี้ ก็ตามเทรนด์ทำการวิเคราะห์วิจารณ์ออกมาเช่นกัน แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วการทำนายของพวกเขา จะยังไม่ตรงเป้าเท่าไหร่ แต่เหตุผลประกอบรวมๆ ถือว่า มีประโยชน์ในการเชียร์บอลให้มันขึ้น

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์ เกี่ยวกับคำทำนายของสื่อเจ้านี้ ที่เรียงอันดับต่างๆ ของทีมในศึก พรีเมียร์ลีก บวกกับเหตุผลประกอบ เป็นการถอดความต่างๆ ออกมาแบบเข้าใจง่าย ย่อยให้ผู้รับสาส์นเสพสื่อแบบเพลินๆ โดยจะขอแบ่งเป็น 4 ตอน เพื่อการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ไล่เรียงไปตั้งแต่อันดับสุดท้าย ยาวไปถึงทีมที่ได้แชมป์ ซึ่งจะเปิดหัวกันในอันดับที่ 20-16 เป็นการเรียกน้ำย่อยกันไปก่อน แล้วจะเข้ามข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนหลัง

เปิดหัวกันที่อันดับที่ 20 บ๊วยของตารางซีซั่นนี้ ใครต่อใครก็ต่างเห็นตรงกันว่า บอร์นมัธ ภายใต้การนำทัพของ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ยากที่จะเอาตัวรอดได้ หากมองกันที่คุณภาพของ เดอะ เชอร์รี่ส์ ที่มีกองหน้าตัวหลักอย่าง โดมินิค โซลันกี้ และ คีฟเฟอร์ มัวร์ เป็นความหวังสูงสุดในการล่าสกอร์ คงหวังไม่ได้มากนัก เนื่องจากระดับฝีเท้าของพวกเขา คงใช้งานได้แค่ระดับในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เท่านั้น พอมาเจอกองหลังในระดับลีกสูงสุด คงไม่สามารถทำอันตรายแนวรับคู่แข่งไหว ยิ่งกองหลังยิ่งไว้ใจไม่ได้ สาเหตุหลักที่พวกเขาจะไม่รอด ย่อมเป็นเรื่องการทำประตูได้น้อยเกินไป รวมไปถึงเสียประตูมากเกินพอดี ตามสไตล์บอลรับแล้วสวนที่ยันไม่อยู่ก็พร้อมโดนอย่างเดียว

ต่อกันที่อันดับที่ 19 รองบ๊วยประจำฤดูกาลนี้ ทีมงานของสื่อมองว่า เซาแธมป์ตัน ลูกทีมของ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล คงไม่น่ารอดพ้นจากการตกชั้น สาเหตุสำคัญ คือ แต่ละสโมสร ย่อมมีช่วงเวลาที่สุดของกุนซือแต่ละคน แล้วก็จบลงไปตามวัฏจักร ซึ่งดูเหมือนว่า นักบุญ น่าจะใช้โควต้านั้นไปแล้ว การเสริมทัพของพวกเขา ไม่มีดีลที่น่าตื่นตามตื่นใจใดๆ เมื่อเทียบกับทีมคู่แข่งทีมอื่นๆ ด้วยงบประมาณที่จำกัด ดันเลือกไปฝากความหวังไว้กับดาวรุ่ง ยกตัวอย่างเช่น เซกู มาร่า ที่ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอ ที่จะล่าสกอร์บนลีกที่มีความเขี้ยวระดับนี้ เผลอๆ อาจมีประกาศปลดโค้ชก่อนจบฤดูกาลอีกด้วย

ถัดมาที่อันดับที่ 18 เป็นอีกหนึ่งทีมที่สื่อเจ้านี้คาดว่าจะตกชั้นเป็นทีมสุดท้าย นั่นก็คือ ฟูแล่ม แม้ว่าจะเปิดตัวได้อย่างสวยงาม ด้วยการยันเสมอรองแชมป์ก็ตาม เทรนเนอร์ของ เจ้าสัวน้อย อย่าง มาร์โก ซิลวา จะถนัดในการเล่นเกมรุก มีกองหน้าระดับดาวซัลโวลีกรองแบบ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช แต่ระดับความเขี้ยวของลีกที่ต่างกัน ใช่ว่าดาวยิงตัวความหวังจะรักษามาตรฐานได้เหมือนเคย ยิ่งเกมรับที่เป็นจุดบอด ไม่มีการเติมผู้เล่นที่มีมาตรฐานสูงกว่าเดิมเข้ามา ยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงไปใหญ่ สุดท้ายแล้วการเติมความแกร่งในดีลเน้นๆ อย่าง ชูเอา เปาลินญ่า, แบรนด์ เลโน่ และ อันเดรียส เปเรย์ร่า น่าจะยังดีไม่พอในการช่วยยกระดับเกมรับให้ดีขึ้น

ต่อกันที่อันดับที่ 17 อาการ เซ็คคันด์ ซินโดรม ของทีมน้องใหม่จากปีก่อน มักจะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนในฤดูกาลต่อมา ยกตัวอย่างเช่น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่โดนเล่นงานมาแล้ว โชคยังดีที่ทีม ยูงทอง นั้นเอาตัวรอดได้ แตกต่างกับ ดาบคู่ ที่ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่จากลีกล่าง แล้วดูท่าว่าจะกลับมาได้ยาก ซึ่งทางทีมงานคาดดว่า เบรนท์ฟอร์ด ลูกทีมของ โธมัส แฟรงค์ จะเจอกับอาการสะดุดแบบทีมรุ่นพี่เช่นกัน อย่างไรก็ตามด้วยคุณภาพทีมรวมๆ ที่ยังมีศูนย์หน้าอย่าง อีวาน โทนี่ย์ คงน่าจะพอแบกเพื่อนร่วมทีมรวมๆ ให้ผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้แบบหวุดหวิด แม้ว่าจะดูเสียวไส้สำหรับแฟนบอล แต่ด้วยมาตรฐานจากปีก่อนคงพอถูไถไปได้ไหว

ปิดท้ายกันที่ 16 สื่อเจ้านี้เลือกไปที่ทีมอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่พวกเขายอมรับตามตรงว่า หาที่ลงอันดับให้เหมาะสมได้ยากเหลือเกิน เพราะยังลังเลว่า เยสเซ่ มาร์สช เป็นเทรนเนอร์ที่เหมาะสมกับโปรเจ็คท์ของพวกเขาในระยะยาวจริงหรือไม่? พอต้องเสียแกนหลักอย่าง คาลวิน ฟิลลิปส์ และ ราฟินญ่า ตัวแบกจากซีซั่นก่อนออกไป แล้วได้ตัวแทนมาอย่าง ไทเลอร์ อดัมส์, มาร์ค โรก้า และ หลุยส์ ซินิสเทอร์ร่า ซึ่งล้วนยังไม่เคยผ่านประสบการณ์ค้าแข้งในอังกฤษ มาแบกรับความกดดัน ยิ่งดูน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามเมื่อวัดกันที่ศักยภาพนักเตะทุกตำแหน่ง หากจับจุดการใช้งานได้ถูกต้อง มีหัวเรือที่ใช่ในการนำทีม ยูงทอง คงเอาตัวรอดในการหนีตกชั้นได้ไม่ยาก

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้