เปิดประวัติสงครามลูกหนัง ซูเปอร์ กลาซิโก้ ดาร์บี้แมตช์ที่เดือดที่สุดในโลก

แฟนบอลหลายท่านอาจรู้จักกับศึกที่มีชื่อว่า แดงเดือด, เอล กลาซิโก้ หรือ ดาร์บี้แมตช์ เช่น ลอนดอนดาร์บี้ และ มิลานดาร์บี้แมตช์ กันแน่นอน แต่แฟนบอลหลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า ยังมีศึกดาร์บี้แมตช์ที่มีศักดิ์ศรีของทั้งแฟนบอล นักฟุตบอล ประธานสโมสร หรือชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งความดุเดือดนี้ต้องบอกว่าศึก แดงเดือด หรือ เอลกลาซิโก้ ที่ว่าโหดๆ ถือว่าเป็นเด็กไปเลย ชื่อของสงครามนี้มีชื่อว่า ซูเปอร์ กลาซิโก้

ซูเปอร์ กลาซิโก้ เป็นการพบกันของสองทีมยักษ์ใหญ่จากประเทศอาร์เจนติน่า ระหว่าง โบคา จูเนียร์ พบ ริเวอร์เพลต โดยศึกนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของฟุตบอลทวีปอเมริกาใต้เลยทีเดียว เพราะสงครามนี้ได้ถูกเริ่มมาเป็นเวลามากกว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1913 แถมทั้งสองสโมสรนี้ยังต่างขับเขี่ยว แย่งความสำเร็จบนลีกสูงสุดกันมาอย่างยาวนาน

โดยจุดเริ่มต้นของสงครามซูเปอร์ กลาซิโก้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 100 ปีก่อน ทั้ง 2 สโมสรถูกก่อตั้งขึ้น ณ เมืองลาโบคา แถวอู่ต่อเรือย่านชนชั้นแรงงานในกรุงบัวโนสไอเรส โดย ริเวอร์เพลต ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1901 ส่วน โบคา จูเนียร์ ก่อตั้งขึ้นใน 4 ปีถัดมา ทำให้สองทีมนี้เริ่มต้นกันมาด้วยการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1925 สโมสรริเวอร์เพลต ได้ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ เมืองนูเยซ ทางตอนเหนือของกรุงบัวโนสไอเรส ซึ่งเป็นย่านของคนรวย จึงทำให้แฟนบอลมักจะเหยียดกันเรื่องชนชั้นอยู่เสมอ ซึ่งริเวอร์เพลตไม่ได้ย้ายไปอยู่ในย่านคนอันมีจะกินเฉยๆ แต่สโมสรมักจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาล ดึงนักเตะดังในสมัยนั้นมาร่วมทีมจนได้รับฉายาว่า “ลอส มิลลอนนา” หรือ ทีมมหาเศรษฐี ไปโดยปริยาย จึงทำให้ โบคา ที่เป็นเพื่อนร่วมเมืองกันมา และเคยอยู่ชนชั้นแรงงานมาเหมือนกันเกิดความหมั่นไส้ และเกิดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นขึ้น

ความต่างเรื่องชนชั้น ทำให้ทั้งสองทีมมีความแตกต่างกันมากขึ้น ซึ่งแฟนบอลของทั้งคู่ก็เริ่มฝังรากแห่งความขัดแย้งลึกลงไปเรื่อยๆ โดยใช้ “คำพูด” เป็นเครื่องมือในการถากถาง และเหยียดหยามดูถูกกัน ด้านแฟนบอล ริเวอร์เพลต เรียกแฟนของโบคาว่า “ชานชิโตส” หรือ หมูน้อย และ “โบสเตโรส” หรือ พวกชอบกินปุ๋ย จากการมองว่าคู่แข่งเป็นทีมของคนจน ในขณะที่แฟนบอล โบคา จูเนียร์ ก็เรียกแฟนริเวอร์เพลตด้วยคำว่า “กาบินาส” หรือ ไก่อ่อน ซึ่งมันเป็นคำคล้องจองที่หยาบคลายสุดๆ

ความเกลียดชังไม่เพียงเกิดขึ้นเฉพาะในหมู่แฟนบอล แต่ยังลามไปถึงนักเตะในสนามเพราะเมื่อครั้งหนึ่ง นักเตะชื่อดังอย่าง คาร์ลอส เตเบซ กองหน้าของ โบคา จูเนียร์ เคยถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม จากการแสดงความดีใจด้วยการเต้นท่าไก่ ล้อเลียนแฟนบอล ริเวอร์เพลต

ประเทศอาร์เจนตินาถูกปกครองด้วยสองสโมสรใหญ่คือ โบคา และ ริเวอร์เพลต ผู้คนประเทศนี้รักอะไรเขาจะรักมาก ทั้งการเมืองจนถึงกีฬาฟุตบอล ซึ่งคนในประเทศนี้เวลาอยากรู้จักคนอื่น จะถามว่า สวัสดี คุณชื่ออะไร และคำถามต่อมาคือ คุณเชียร์ทีมอะไร ซึ่งพวกเขาไม่สนใจอายุ หรือว่าคุณจะมาจากไหนด้วยซ้ำ

ต้องบอกว่าความเกลียดชังของทั้งสองมันมีเยอะมาก จนบางครั้งการตีกันของแฟนบอลถือเป็นเรื่องที่ปกติ แต่เหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองทวีความรุนแรงอย่างหนักจนถึงปัจจุบัน คือเหตุการณ์ “ประตูหมายเลข 12” เมื่อปี ค.ศ. 1968 ที่กลายเป็นหนึ่งในโศกนาฎกรรมที่เลวร้ายที่สุด ในประวัติศาสต์ฟุตบอลอาร์เจนตินา

เหตุการณ์วันนั้น ริเวอร์เพลต เป็นฝ่ายเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โบคา จูเนียร์ และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อแฟนบอลของ โบคา เผาธงแล้วโยนไปที่สแตนด์ของแฟนบอล ริเวอร์เพลต ทำให้ผู้คนต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น และทางออกที่ใกล้ที่สุดคือ ประตูหมายเลข 12 แต่โชคร้ายเมื่อมีคนจำนวนมากเกินไป ทำให้บางส่วนถูกอัดกับประตู และบางส่วนกลายเป็นฐานเหยียบ จึงเป็นโศกนาฎกรรมที่มีผู้คนสังเวยชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไปถึง 71 ราย และบาดเจ็บอีก 150 ราย

อย่างไรก็ดี แม้จะเกิดโศกนาฎกรรมที่เลวร้ายมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป การปะทะกันของทั้งสองทีมก็ยังคงไม่ลดความรุนแรงลง ราวกับในอดีตไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น และบางทีสโมสรก็อาจมีส่วนสำหรับความเกลียดชังเหล่านี้ ที่ไม่ยอมแก้ไขปัญหาให้เด็ดขาด

เพราะเมื่อปี 2015 ในศึกระดับทวีปอย่าง โคปา ลิเบอตาดอเรส รอบ 16 ทีม โดย โบคา จูเนียร์ เป็นเจ้าบ้านในนัดนั้น เหตุการณ์ในวันนั้นมีแฟนบอล โบคา ได้แอบเจาะรูในอุโมงค์ยางที่ให้นักเตะลงสนาม และในช่วงครึ่งหลังตอนที่นักเตะของทีมเยือนเดินลงสนาม แฟนบอล โบคา ได้ขว้างปาแก๊สน้ำตาลงช่องที่เจาะรูไว้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกมนี้ถูกยกเลิก นักเตะของ ริเวอร์เพลต ได้รับบาดเจ็บ และ โบคา ถูกปรับให้ตกรอบในรายการนี้ ซึ่งนั้นถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย

ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น และพึงผ่านมาไม่นานเมื่อปี 2018 คุณลองคิดภาพมีศึก แดงเดือด หรือ เอล กลาซิโก้ ในรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คุณคิดว่ามันจะเดือดแค่ไหน โดยพรมลิขิตขีดเขียนให้ทั้งสองสโมสรโคจรมาเจอกันในรอบชิง โคปา ลิเบอตาดอเรส ซึ่งรอบชิงของคู่นี้ต้องแบ่งเป็นการเหย้า และเยือน เพื่อความปลอดภัยของแฟนบอล โดยนัดแรกเตะจบที่บ้านของ โบคา แบบไม่มีปัญหา แต่นัดสองแฟนบอล ริเวอร์เพลต ให้การต้อนรับที่ดี โดยการปาหิน, ขวด หรือ ขนม

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นักเตะของ โบคา ได้รับบาดเจ็บ รอบชิงจึงต้องถูกเลื่อนออกไปถึง 2 เดือน และต้องข้ามทะเลมาเตะสนามกลางถึง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว กรุงมาดริด ประเทศสเปน ถือเป็นรอบชิงที่มีปัญหาสุดๆ จนคราวนี้ประธานสโมสรของ ริเวอร์เพลต ออกมาหาเรื่อง ประธานของ โบคา จูเนียร์ เลยทีเดียว


ปัจจุบันประธานของสองสโมสรได้ทำข้อตกลงกันไว้ เมื่อ โบคา จูเนียร์ เป็นเจ้าบ้าน ก็จะไร้แฟนบอลของ ริเวอร์เพลต และเมื่อไปเตะบ้าน ริเวอร์เพลต จะไม่มีแฟนบอลของ โบคา จูเนียร์ ซึ่งนี้ถือเป็นความปลอดภัยที่ประธานของสองสโมสรตกลงกันไว้

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top