บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงสุดสัปดาห์คู่ปิดท้ายวันอาทิตย์ ลงดวลฝีเท้ากันที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ในช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม เวลา 02.15 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 18 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย เป็นการปะทะกันระหว่างทีมอันดับที่ 3 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรับ้านรับการมาเยือนของ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับที่ 13 ของตารางคะแนนในปัจจุบัน
เจ้าถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขุนพลของเทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังเดินเครื่องแบบเงียบๆ ขึ้นมาจนมองข้ามไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นอีกหนึ่งที่มีลุ้นแชมป์ลีกอยู่ แม้ว่าช่วงต้นจะฟอร์มหลุดจนน่าใจหาย แต่พอทางผู้จัดการทีมตัดสินใจต่อสัญญา เหล่าซูเปอร์สตาร์ก็รีดฟอร์มได้อย่างน่าชื่นชมเดินหน้าเก็บชัยเป็นว่าเล่น ผลงานการลงสนาม 5 นัดหลังสุดในเกมลีกนั้นเสมอ 1 นัด และชนะ 4 นัดติดต่อกัน เก็บไปถึง 13 แต้ม ถือว่าแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกช่วงกลางสัปดาห์ที่เปิดรังเฉือนชนะ “เจ้านกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน แบบหวุดหวิด 1-0 แต่รูปเกมนั้นเหนือกว่าแบบคนละชั้นเพียงแต่ไม่คมกันเอง สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ กองหลังตัวสำรองที่กำลังพักฟื้นหลังผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บเข่า และ เอริค การ์เซีย เซ็นเตอร์แบ็คอนาคตไกลที่ติดเชื้อโควิด-19 เพียงสองราย นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมแย่งตำแหน่งเป็น 11 ตัวจริงได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์สาระพัดประโยชน์ที่เป็นทุกอย่างในแนวรุก
ฝั่งทีมเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ลูกทีมของขรัวเฒ่า รอย ฮอดจ์สัน ยังคงโชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐาน เป็นบอลหน้าเดียวเน้นเก็บแต้มแท็คติกไม่มีอะไรมาก อุดเกมรับให้แน่นที่สุดแล้วอาศัยจังหวะสวนกลับ ทิ้งบอลไปให้ตัวรุกที่ทักษะสูงจัดการที่เหลือต่อตามใจ ผลงานการลงเล่นในเกมลีก 5 นัดหลังสุดนั้นชนะ 1 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 2 นัด คว้าไปแค่ 5 แต้ม ถือว่าน่าผิดหวังไม่น้อย ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นเกม ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ที่บุกเจ๊ากับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แบบจืดชืดไร้สกอร์ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ไร้ที่ติ ไม่มีตัวเจ็บหรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมเป็นตัวเลือกในการลงเล่นเกมนี้ได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย วิลฟรีด ซาฮา กองหน้าตัวแบกที่เป็นความหวังสูงสุดของทีมในจังหวะทำประตู
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่าพอสมควรด้วยผลงานชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 1 นัด ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะมองแค่ชื่อชั้นของนักเตะก็เหนือกว่ากันแบบคนละชั้น ปราสาทเรือนแก้ว เพิ่งจะบุกไปเก็บแต้มแบบลุ้นแทบใจหายในช่วงกลางสัปดาห์ แต่ถ้าได้ชมเกมจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแท็คติกนั้นไม่มีอะไรเลย นอกจากตั้งใจมาอุดแล้วเตะสาดให้แนวรุกตัวแบกเก็บบอลแดนหน้าแล้วลุยต่อแบบอิสระ จังหวะลุ้นเต็มที่ก็แค่จังหวะเลี้ยงลุยเข้าเขตโทษเพื่อเอาฟาล์วในระยะที่ได้ลุ้นแค่นั้น ไม่น่าประหลาดใจถ้าพวกเขาจะยึดสไตล์การเล่นแบบเดิมๆ ในนัดนี้ ตรงกันข้ามกับ เรือใบสีฟ้า ที่เฝ้ารังแล้วปูพรมบุกใส่ผู้มาเยือนตลอดทั้งเกมในนัดที่ผ่านมา แต่แนวรุกกลับยิงทิ้งยิงขว้างราวกับมีใบสั่ง เชื่อเหลือเกินว่าเกมนี้ เป๊ป คงติวเข้มเรื่องจุดอ่อนในนัดล่าสุดเรียกวิญญาณเพชรฆาตให้กับเหล่าแนวรุก ปรับเปลี่ยนแท็คติกเอากองหน้าแท้ๆ ลงมาเพิ่มมิติในเกมบุก เมื่อเทียบทุกองค์ประกอบแล้วมั่นใจได้เลยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังเดินหน้าล่าสามแต้มเพื่อลุ้นแชมป์ลีกคงไม่ปล่อยสามแต้มหลุดมือไปง่ายๆ แน่ แล้วคงเก็บชัยในรังไปได้แบบไม่ยากเย็น ขึ้นอยู่กว่าเหล่าแข้งพันล้านจะเปิดแผลอาคันตุกะได้เร็วเท่าไหร่แค่นั้น
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์สัน (GK) – ชูเอา คานเซโล่, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, เบนฌาแม็ง เมนดี้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เฆซุส, ฟิล โฟเด้น
คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : บิเซนเต้ ไกวต้า (GK) – โจเอล วอร์ด, เจมส์ ทอมกินส์, ชีคคู คูยาเต้, ไทริค มิตเชลล์ – แอนดรอส ทาวน์เซนด์, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คอาเธอร์, เอเบเรชี่ เอเซ่ – วิลฟรีด ซาฮา, คริสติย็อง เบนเตเก้
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 – 0 คริสตัล พาเลซ