บทวิเคราะห์ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เกมคู่เปิดหัวประจำสัปดาห์ที่ 20 ของซีซั่น เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง “กระทิงหิน” โตริโน่ ทีมอันดับที่ 17 เปิดรังเหย้ารับการมาเยือนของ “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า ทีมอันดับที่ 12 ของตารางคะแนนในขณะนี้ โดยทั้งสองทีมจะลงปะทะกันในช่วงดึกของคืนวันศุกร์ที่ 29 มกราคม เวลา 02.45 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 30 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย ณ สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก กรันเด้ โตริโน่ เมืองตูริน ประเทศอิตาลี
เจ้าถิ่น “กระทิงหิน” โตริโน่ มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้งในเรื่องของกุนซือ เมื่อทีมตัดสินใจบอกลา มาร์โก จามเปาโล แล้วติดต่อให้ ดาวิเด้ นิโคล่า อดีตโค้ชของ “กริโฟเน่” เจนัว มาทำหน้าที่กุมบังเหียนเพื่อทำภารกิจหนีตกชั้นให้สำเร็จเป็นอันดับแรกเพราะสถานการณ์ของทีมค่อนข้างกระท่อนกระแท่น ฟอร์มขาดความคงเส้นคงวาแบบสุดๆ เกมรับยังคงเป็นจุดอ่อนที่แก้ไม่ตกเสียทียืนตำแหน่งกันมั่วซั่วเสียประตูจากการขาดสมาธิบ่อยครั้งในช่วงเวลาสำคัญ เกมรุกหวังพึ่งสตาร์แค่ไม่กี่คนคอยแบกทีมเหมือนเดิมๆ ด้านการประเดิมการลงเล่นนัดแรกในยุคใหม่นั้นบุกเสมอน้องใหม่ เบเนเวนโต้ แบบหืดจับ 2-2 นับว่าเริ่มต้นได้ไม่สวยเท่าไหร่นัก สำหรับความพร้อมของทีมในนัดนี้จะขาด นิโกล่า มูร์รู และ เมอร์กิม วอจโวด้า ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เพียงสองราย ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงล่าชัยในถิ่นเกมแรกได้ทั้งหมด โดยสตาร์ที่น่าจับตามองที่สุดในนาทีนี้ขอชี้เป้าไปที่ ซิโมเน่ ซาซ่า ดาวยิงฟอร์มร้อนที่เพิ่งเป็นฮีโร่เหมายิงคนเดียวสองประตูในเกมที่ผ่านมา
ฝั่งทีมเยือน “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า อาการของทีมที่น่าเป็นห่วงโชว์ฟอร์มได้กระท่อนกระแท่นอันดับร่วงกราวรูด พอบอร์ดบริหารตัดสินใจเปลี่ยนหัวเรือด้วยการคว้าตัวอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลีอย่าง เซซาเร่ ปรันเดลลี่ มาแก้วิกฤติเพื่อหวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้น แต่ผ่านมาราวสองเดือนแล้วสิ่งที่คาดหวังไว้กลับยังไม่แสดงผลออกมาชัดเจนเท่าไหร่ทำได้แค่ประคองทีมเอาตัวรอดแบบนัดต่อนัด เหมือนแท็คติกของกุนซืออาจโบราณเกินไปในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ท่าทางต้องใช้เวลาอัพแพทช์อีกพอสมควร ด้านการลงสนามนัดล่าสุดนั้นเป็นเกมลีกแดนมักกะโรนีนัดสุดสัปดาห์ที่เปิดบ้านบดเอาชนะน้องใหม่ โครโตเน่ แบบเฉียดฉิว 2-1 เก็บสามแต้มในรังแบบหืดจับ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ไร้ที่ติไม่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมแย่งตำแหน่งกันเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ได้ทั้งหมด โดยความหวังใหม่ที่กำลังเฉิดฉายในแนวรุกซีซั่นนี้หนีไม่พ้น ดูซาน วลาโฮวิช ดาวยิงเท้าคมที่นำเป็นดาวซัลโวของทีมอยู่ในขณะนี้ และเพิ่งยิงมาหมาดๆ ในเกมล่าสุด
วิเคราะห์ก่อนเกม บอลคู่นี้เมื่อมองลึกลงไปในสถิติการเจอกันในช่วงหลัง จะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นบอลบ้านใครบ้านมันแบบชัดเจนคือทีมใดได้เล่นในบ้านจะมีโอกาสเก็บชัยได้สูง และเป็นทางทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย นับเป็นบอลที่อยู่ในเกรดที่ใกล้เคียงกันอย่างมาก โตริโน่ ที่ได้เฝ้ารังในเกมนี้ยังไม่ปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นไปจากยุคเก่าเท่าไหร่เน้นเกมบุกเปิดหน้าแลกชวนทะเลาะแบบเดิมๆ จุดอ่อนไม่พ้นเกมรับที่หลวมโครกจนโดนคู่ต่อสู้เล่นงานจากเกมสวนกลับอยู่บ่อยครั้งน่าจะต้องใช้เวลาปรับจูนแทคติกส์อีกสักพัก ส่วนทางผู้มาเยือนค่อยๆ ไล่เก็บแต้มมาทีละเล็กทีละน้อย การเล่นยังคงเก้ๆ กังๆ จะรุกก็ไม่สุด จะรับเต็มตัวก็ไม่เหนียวแน่นพอกระท่อนกระแท่นตามสภาพตัวผู้เล่นที่มีให้ใช้ตามสภาพ ทีเด็ดเดียวที่หวังได้ในนาทีนี้คือแนวรุกแดนบนใช้โอกาสในการจบสกอร์ไม่เปลือง เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้วยังเชื่อในความคมของแนวรุกอาคันตุกะมากกว่าว่าน่าจะบุกมาบดเอาชนะเจ้าบ้านได้ถึงถิ่นด้วยจังหวะทีเด็ดทีขาดในช่วงเวลาตัดสินเกมที่เหนือกว่า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โตริโน่ (3-5-2) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู (GK) – อาร์มันโด้ อิซโซ่, ไลอันโก้, ริคาร์โด้ โรดริเกวซ – วิลฟรีด สเตฟาน ซิงโก้, ซาซ่า ลูคิช, โทมัส รินคอน, คาโรล ลิเนตตี้, คริสเตียน อันซัลดี้ – ซิโมเน่ ซาซ่า, อันเดรีย เบล็อตติ
ฟิออเรนติน่า (3-4-1-2) : บาร์ทโลมี ดรากอฟสกี้ (GK) – นิโคล่า มิเลนโควิช, เคร์มัน เปซเซย่า, อิกอร์ – มาร์ติน กาเซเรส, กาเอตาโน่ กาสโตรวิลลี่, โซฟียาน อัมราบัต, คริสเตียโน่ บิรากี – จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า – ฟร้องค์ ริเบรี่, ดูซาน วลาโฮวิช
ผลสกอร์ที่คาด : โตริโน่ 1 – 2 ฟิออเรนติน่า