บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020/21 โปรแกรมการแข่งขันนัดที่ 23 คู่สุดท้ายของค่ำคืนวันอาทิตย์ เป็นการดวลแข้งกันของสองทีมที่กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจด้วยกันทั้งระหว่าง “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของตาราง เปิดสนามเหย้า บรามอลล์ เลน ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับที่ 6 ของตารางคะแนนในเวลานี้ โดยทั้งสองทีมจะได้ลงสนามปะทะแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ เวลา 02.15 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าบ้าน “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยังคงไว้วางใจให้กุนซือคู่บุญของทีม คริส ไวล์เดอร์ รับหน้าที่นำทัพต่อไป แม้จะพาทีมผลงานดิ่งพสุธามาจมอันดับบ๊วยของลีกอยู่ในเวลานี้ก็ตาม โดยผลงานของทีมตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลอาการโคม่ามาโดยตลอดไม่เคยหนีออกจากอันดับสุดท้ายได้เลย อย่างไรก็ตามจากผลงานจากในช่วงระยะหลังยังทำให้มีความเชื่อว่าพอมีแสงสว่างเล็กๆที่ปลายอุโมงค์ให้เห็นอยู่บ้าง จากทีมที่แทบไม่รู้จักคำว่าชนะเลย กลับมาคว้าชัยได้ถึง 4 จาก 6 เกมที่ลงสนามในทุกรายการ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดศึกกับทีมในระแวกเดียวกันอย่าง “เดอะแบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ก่อนที่จะพลิกแซงเก็บชัยได้แบบหวุดหวิด 2-1 จากฟอร์มการเล่นที่ดูดีขึ้นมาทำให้ทัพดาบคู่มีคะแนนแตะระดับสองหลักได้เสียที หลังผ่านการลงสนามไป 22 เกม เก็บเพิ่มมาได้เป็น 11 คะแนน แต่ก็ต้องยอมรับว่าโอกาสที่จะได้อยู่ต่อบนลีกสูงสุดไปถึงฤดูกาลหน้ามีน้อยเหลือเกินเมื่อผ่านพ้นครึ่งฤดูกาลไปแล้วยังมีแต้มตามหลังโซนปลอดภัยอยู่ถึง 11 คะแนน สำหรับในเรื่องสภาพความพร้อมล่าสุดของทีมจะขาด ซานเดอร์ แบร์เก้, แจ็ค โอคอนเนลล์ และแจ็ค โรบินสัน ที่มีอาการบาดเจ็บบกวนอยู่ รวมไปถึง อีธาน อัมปาดู ปราการหลังดาวรุ่งตัวหลักของทีมที่ไปยืมมาจากเชลซีคู่แข่งที่จะต้องเจอกันในเกมนี้ก็จะลงไม่ได้เนื่องจากเจอต้นสังกัดของตัวเอง
ผู้มาเยือน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในยุคใหม่ภายใต้การนำทัพของกุนซือสัญชาติเยอรมัน โธมัส ทูเคิล ทีมดูเล่นกันดีขั้นมาอย่างเห็นได้ชัด หลังปรับเปลี่ยนระบบการเล่นเป็นการใช้ระบบ 3 เซ็นเตอแบ็คทีมก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วทำให้ผลงาน 3 เกมที่นายใหญ่คนใหม่นำทัพทีมจากเมืองหลวงยังไม่แพ้ใครเลย เก็บชัยชนะได้ 2 เกม และเสมอ 1 เกม ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสามเกมพวกเขายังเก็บคลีนชีทได้ทั้งหมดอีกด้วย สำหรับผลงานเกมนัดล่าสุดที่ลงสนามทำศึกลอนดอน ดาร์บี้ กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สามารถบุกไปเฉือนชนะได้แบบหวุดหวิด 1-0 หลังประกาศศักดาว่ากรุงลอนดอนเป็นสีน้ำเงินได้สำเร็จ ทีมก็ทะยานกลับมารั้งอันดับที่ 6 ของตารางคะแนนได้ ซึ่งพวกเขาเก็บมาได้ 36 คะแนนจากการลงสนาม 22 เกม ตามหลังตำแหน่งท็อปโฟร์ของลีกอยู่เพียงแค่ 4 คะแนนเท่านั้นเอง ถือว่าโอกาสจะได้ไปโลดแล่นบนเวทียุโรปยังคงเปิดกว้างสำหรับทัพสิงห์บลูส์ ส่วนในเรื่องความพร้อมล่าสุดของทีมนั้นมีข่าวร้ายว่า ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังตัวเก๋าของทีมที่โดนเปลี่ยนตัวเองกลางเกมนัดล่าสุดยังหายไม่ทันแน่นอน รวมไปถึง เคิร์ต ซูม่า และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ที่หายหน้าไปจากเกมล่าสุดก็ได้รับการคาดการว่าจะยังไม่สามารถกลับมาลงสนามช่วยทีมได้เช่นกัน
วิเคราะห์ก่อนเกม ความมั่นใจที่มีมากขึ้นในช่วงหลังส่งผลให้ เชฟฟิลด์ เล่นได้แกร่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลัง จากเป็นทีมที่มีปัญหาหนักมากในแนวรุกยิงประตูใครไม่ได้ ช่วง 6 เกมหลังพวกเขาก็เริ่มมีมุมเฉียบคมให้เห็นซัดประตูได้ถึง 5 เกมและยิงประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวเท่านั้นคือเกมที่เจอกับทีมทีมสุดหินอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้านเกมรับของทีมก็ดูมีสมาธิขึ้นไม่ก่อความผิดพลาดกันเอง และเล่นกันอย่างมีระบบระเบียบทำให้ดูหนาแน่นเสียประตูยากขึ้น อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของทีมที่ยังต้องแก้คือเรื่องการต่อบอลที่ไร้ความแม่นยำ หรือเก็บบอลไว้กับตัวเองที่มักจะทำบอลเสียง่ายๆอยู่บ่อยครั้ง เกมนี้จะต้องมาเจอกับ เชลซี โฉมใหม่ที่มีเกมรับเหนียวขึ้นและใช้วิธีการตั้งรับแบบดุดันวิ่งเพรสซิ่งเข้าใส่จนทำให้ทีมคู่แข่งแทบไม่มีเวลาตั้งสติ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเค้ายังโดดเด่นขึ้นมาด้านการต่อบอลที่แม่นยำ จะเห็นได้ว่าค่าเฉลี่ย 3 เกมภายใต้การทำทีมของ ทูเคิ่ล ทัพสิงห์สีน้ำเงิน ครองบอลได้เฉลี่ยถึง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อเกม ดังนั้นรูปเกมจะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากเราจะได้เห็นทีมเยือนขึงเกมบุกไล่ขย้ำเจ้าบ้านที่แม้จะมั่นใจขึ้นมาแต่ศักยภาพของทีมก็ห่างกันหลายกิโลเมตรอยู่ดี จุดอ่อนสุดๆ ของผู้มาเยือนในเกมนี้มีเพียงเรื่องเดียวคือเกมรุกที่ไร้ความคมสุดๆ แม้ทีมจะสร้างสรรค์โอกาสได้มากแต่ก็มักจะทิ้งขว้างโอกาสกันไปเอง แต่เชื่อว่าเกมนี้ผู้มาเยือนจะได้โอกาสลองส่องอยู่เรื่อยๆ จนมีประตูเกิดขึ้นในท้ายที่สุด ซึ่งหาก เชลซี ทำประตูออกนำไปได้ก่อนก็มองไม่เห็นมุมไหนเลยที่ทีมจากเมืองหลวงจะพลาด 3 คะแนนในเกมนัดนี้ ขอฟันธงว่า เชลซี จะขยี้จน เชฟยู ซี้คาบ้านแน่นอน
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล (GK) – อีธาน อัมปาดู, คริส บาแชม, จอห์น เอแกน – จอร์จ บัลด็อก, จอห์น ลันด์สตรัม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น เฟล็ค, เจย์เดน โบเกิ้ล – บิลลี่ ชาร์ป, เดวิด แม็คโกลดริค
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ด เมนดี้ (GK) – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ – รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, มัตเตโอ โควาซิซ, มาร์กอส อลอนโซ่ – เมสัน เมาท์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย – ติโม แวร์เนอร์
ผลสกอร์ที่คาด : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0 – 2 เชลซี