บทวิเคราะห์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้ายคู่ปิดท้าย เป็นการโคจรมาเจอกันของสองทีมต่างดิวิชั่นระหว่างทีมจากศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ “เจ้าตูบ” บาร์นสลีย์ เปิดรังเหย้า โอ๊คเวลล์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยทั้งสองทีมจะลงสนามเจอกันในช่วงดึกของคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 03.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองบาร์สลีย์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าบ้าน “เจ้าตูบ” บาร์นสลีย์ เหล่าขุนพลของ วาเลเรียง อิสมาเอล ภาพรวมของทีมไม่ได้โดดเด่นเท่าใดนักอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางล่างในลีกรอง โอกาสลุ้นเลื่อนชั้นนั้นการันตีได้เลยว่าเลือนราง แต่แฟนบอลนั้นเชียร์สนุกเพราะเป็นบอลเอนเตอร์เทนพร้อมแลกหมัดวัดให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย มีทีเด็ดอยู่ที่ลูกบ้าและความใจสู้แต่เรื่องของความสม่ำเสมอกับความละเอียดในการเล่นไม่เคยไว้ใจได้ ผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้รอบก่อนนั้นเปิดบ้านบดเอาชนะ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ มาได้แบบเหนือความคาดหมาย 1-0 ผ่านเข้ารอบมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกที่บุกเสมอ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ แบบไร้สกอร์ สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด อาโป ฮาลเม่, เบน วิลเลี่ยมส์ และ เลียม คิทชิ่ง ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่สามราย ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์พร้อมลงช่วยทีมคว้าชัยแบบแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ได้ทั้งหมด โดยสตาร์ที่เป็นดาวเด่นประจำทีมขอชี้เป้าไปที่ คอลี่ย์ วู้ดโรว์ กองหน้าตัวเก่งที่กดไปแล้ว 9 ประตูในซีซั่นนี้
อาคันตุกะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี หลังมีการเปลี่ยนผู้กุมบังเหียนมาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล ตั้งแต่เริ่มคุมทีมมาสามเกมยังไม่ปราชัยเลยแม้แต่นัดเดียว เสมอในเกมเปิดตัวและคว้าชัยมาสองเกมติดนับว่าดูดีมีอนาคตเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามสไตล์การเล่นปรับเปลี่ยนมาเป็นบอลเน้นผลการแข่งขันตามความถนัดของเทรนเนอร์ แฟนบอลของทีมที่ติดภาพบอลเอนเตอร์เทนในยุคก่อนอาจขัดใจเล็กน้อย ผลงานในรายการนี้รอบก่อนนั้นเปิดบ้านถล่มทีมรองบ่อนอย่าง ลูตัน ทาวน์ แบบนิ่มๆ 3-1 ผ่านเข้ารอบมาแบบไม่ลำบากมากนัก ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดนั้นเป็นเกมลีกที่บุกเชือดทีมบ๊วย “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แบบหืดจับ 2-1 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน ติอาโก้ ซิลวา กองหลังมากประสบการณ์ที่ยังไม่หายเจ็บและในรายของ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมันที่บาดเจ็บต้นขาในเกมล่าสุดน่าจะได้พักในเกมนี้ นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมแย่งตำแหน่งกันเป็น 11 ตัวจริงได้ทั้งหมด โดยนักเตะที่น่าจับตามองในเกมนี้หนีไม่พ้น ไค ฮาแวร์ตซ์ แนวรุกวันเดอร์คิดส์ที่น่าจะได้ลงเคาะสนิมล่าตาข่ายในเกมนี้
วิเคราะห์ก่อนเกม การพบกันครั้งล่าสุดของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อนในเกม คาราบาว คัพ ซึ่งเป็นทาง เชลซี ที่เปิดบ้านถล่มไปแบบบอลคนละชั้น 6-0 ครั้งนี้เปลี่ยนถ้วยแล้วย้ายวิกมาเล่นกันในรังของ เจ้าตูบ ที่แทบจะไม่มีอะไรที่ได้เปรียบอาคันตุกะเลยแม้แต่น้อย เป็นรองทั้งคุณภาพของนักเตะและกุนซือ สิ่งเดียวที่นำเอาไปสู้ได้เกมนี้ย่อมเป็นเรื่องของความใจสู้ที่คงต้องใส่เต็มที่ในเกมนี้แบบหมดแม็กเหมือนกับรอบชิงชนะเลิศ เน้นการวิ่งสู้ฟัดไม่ให้กองกลางของผู้มาเยือนปั้นเกมได้ง่ายๆ บางจังหวะอาจมีการตัดฟาล์วหนักๆ ตามแท็คติกของทีมรองบ่อนทั่วๆ ไป ส่วนทางผู้มาเยือน เชลซี นัดนี้คงมาแบบเน้นความแน่นอน ไม่เปิดหน้าบุกแบบเต็มตัวตามสไตล์ถนัดของกุนซือชาวเยอรมัน น่าจะมีการโรเตชั่นปรับเปลี่ยนให้ผู้เล่นสำรองได้ลงเคาะสนิมบ้างบางราย น่าจะมาแพ็คเกมรอจังหวะแล้วสวนแบบเน้นๆ วัดกันด้วยแท็คติกล้วนๆ เมื่อเทียบองค์ประกอบต่างๆ แล้วเชื่อว่า สิงโตน้ำเงินคราม ยังคงเหนือกว่าตามหน้าเสื่อ ท้ายที่สุดคงบุกมาเก็บชัยชนะไปได้ด้วยการอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นบางรายที่สร้างความแตกต่างในเกมรุกได้ แต่สกอร์อาจไม่ขาดตามแต้มต่อเพราะคงมาเล่นแบบเน้นผลการแข่งขันเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บาร์นสลีย์ (3-4-3) : แบรด คอลลินส์ (GK) – โทบี้ ซิบบิค, แมด จูเอล แอนเดอร์เซ่น, มิชาล เฮลิก – คัลลั่ม บริทเทน, อเล็กซ์ โมวัตต์, เฮอร์บี้ เคน, คัลลั่ม สไตลส์ – โดมินิก ฟรีเซอร์, คอลี่ย์ วู้ดโรว์, คอเนอร์ แชปลิน
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ด เมนดี้ (GK) – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ – รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่ – ไค ฮาแวร์ตซ์, คริสเตียน พูลิซิช – แทมมี่ อับราฮัม
ผลสกอร์ที่คาด : บาร์นสลีย์ 0 – 1 เชลซี