บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เป็นการวัดฝีเท้ากันของทีมจ่าฝูง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับที่ 8 ของตารางคะแนนในปัจจุบัน โดยทั้งสองทีมจะลงดวลเกือกกันในช่วงดึกของวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 00.30 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าวันใหม่ของวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย ณ เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าบ้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขุนพลพันล้านของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังสร้างสถิติใหม่ด้วยการเก็บชัยติดต่อกันมาแล้วถึง 15 เกมทุกรายการที่ลงแข่งขัน นับว่าสภาพจิตใจของเหล่าแข้งทองทั้งหลายอยู่ในช่วงพีคสุดๆ ปฏิเสธได้ยากว่าการต่อสัญญาของกุนซือมือทองมีผลโดนตรงต่อฟอร์มการเล่นที่ดุดันยากจะหยุด แท็คติกของพวกเขาปรับเปลี่ยนไปมีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยสถานการณ์จำเป็นที่ขาดกองหน้าตัวเป้าแท้ๆ ทำให้จำเป็นต้องเล่นแผน False 9 ที่ดันเอาแนวรุกทักษะสูงขึ้นไปเป็นตัวเชื่อมบอล กลับกลายเป็นไม้ตายที่ปราบยักษ์ใหญ่มาแล้วราบคาบ แถมช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เพิ่งจะผ่านเข้ารอบในศึก เอฟเอ คัพ ด้วยการบุกถล่ม “หงส์ขาว” สวอนซี ถึงรังแบบขาดลอย 3-1 สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่แค่สองราย นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมแข่งขันกันเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ได้ทั้งหมด โดยสตาร์ที่น่าจับตามองที่สุดนาทีนี้ขอชี้เป้าไปที่ ฟิล โฟเด้น ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงที่กำลังเล่นได้อย่างมั่นใจยากจะหาใครมาหยุดเขาได้
ฝั่งทีมเยือน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ท่าทางเทรนเนอร์ปากร้ายอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบสุดๆ เพิ่งจะตกรอบในบอลถ้วยมาสดๆ ร้อนๆ ในช่วงกลางสัปดาห์หลังบุกพ่าย “ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในช่วงต่อเวลาพิเศษแบบน่าเจ็บใจ 4-5 แถมอันดับในบอลลีกก็ร่วงลงมาเรื่อยๆ ไม่เกาะกลุ่มท็อปไฟว์อีกต่อไป ทีมจะออกอาการเป๋ทุกครั้งหากตัวผู้เล่นที่ลงสนามนั้นไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด เหมือนยังหวังให้ตัวแบกทีมไม่กี่คนสร้างปาฏิหาริย์ไปเรื่อยๆ แบบนัดต่อนัด แท็คติกยังคงขัดใจแฟนบอลเน้นเกมรับมากเกินไป ไม่กล้าบุกแลกแบบเต็มตัวต่อให้เจอกับทีมที่พวกเขาได้เปรียบ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด เซร์คิโอ เรกีลอน, แซร์ช อูริเยร์ และ โจวานี่ โล เซลโซ่ ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่สามราย ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์พร้อมเป็นตัวเลือกลงเล่นในเกมบิ๊กแมตช์ได้ทั้งหมด โดยความหวังสูงสุดในการจบสกอร์นัดนี้ต้องฝากไว้ที่ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงเบอร์หนึ่งทีมชาติอังกฤษที่เพิ่งเบิกสกอร์มาสดๆ ร้อนๆ ในเกมที่ผ่านมา
วิเคราะห์ก่อนเกม ฤดูกาลนี้ทั้งสองทีมเคยดวลกันมาแล้วที่กรุงลอนดอนแล้วเป็นทางทีมเยือนที่เปิดบ้านสวนเอาชนะไปได้นิ่มๆ 2-0 อย่างไรก็ตามในช่วงนั้น เรือใบสีฟ้า ยังอยู่ในช่วงวิกฤติ เป๊ป ยังไม่ต่อสัญญาและนักเตะคีย์แมนบางรายหลุดฟอร์มแบบน่าใจหาย ครั้งนี้สถานการณ์กลับเป็นฝ่ายบีบให้ ไก่เดือยทอง ต้องเจองานยากบ้างเพราะเทรนเนอร์เริ่มโดนแฟนบอลกดดันเนื่องจากฟอร์มของทีมมีแต่ถอยหลังลงคลอง ยิ่งไปกว่านั้นการเล่นยังขัดหูขัดตาไม่มีความเอนเตอร์เทน นัดนี้คงมาตั้งรับแล้วรอสวนตามแบบฉบับเดิมๆ อันน่าเบื่อ แล้วรอลุ้นให้สตาร์ตัวแบกเปิดท่าไม้ตายยิงโป้งเดียวจอดแบบเคยๆ ส่วนทางผู้มาเยือนเชื่อเหลือเกินว่าพวกเขาเพิ่งเก็บชัยชนะเหนือถิ่นเชมป์เก่าได้แล้ว ไม่มีสนามไหนที่พวกเขาจำเป็นต้องกลัว รูปแบบการเล่นคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเล่นเกมบุกแบบมีจังหวะจะโคนครองบอลนวดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาช่องเจาะได้ ท้ายที่สุดแล้วการดวลกันของ เป๊ป และ น้ามู นัดนี้ที่เปรียบเสมือนเกมทดลองก่อนจะไปเจอกันในรอบชิงในศึก คาราบาว คัพ จะจบลงด้วยชัยชนะของอาคันตุกะแบบขาดลอยถอนแค้นคืนได้แบบทบต้นทบดอก ด้วยการอาศัยเกมบุกที่ดุดันเร้าใจบดขยี้แผงหลังเจ้าบ้านที่เต็มไปด้วยช่องโหว่จากความผิดพลาดส่วนบุคคล เก็บชัยเหนือสัตว์ปีกได้สามเกมติดต่อกัน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์สัน (GK) – ชูเอา คันเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ – แบร์นาโด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส (GK) – แซร์ช อูริเยร์, ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เบน เดวี่ส์ – ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ – ลูคัส มูร่า, เอริค ลาเมล่า, ซอน เฮือง-มิน – แฮร์รี่ เคน
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 – 1 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์