บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายเกมแรก ซึ่งจะลงดวลฝีเท้ากันที่สนามกลาง ยูเวนตุส สเตเดี้ยม เมืองตูริน ประเทศอิตาลี ในช่วงดึกของวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 00.55 น.หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย เป็นการปะทะกันของทีมชั้นนำจากสเปน “ลา เรอัล” เรอัล โซเซียดาด เตรียมตัววัดแข้งกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมชื่อดังจากอังกฤษ
มุมน้ำเงิน “ลา เรอัล” เรอัล โซเซียดาด เหล่าขุนพลของเทรนเนอร์ อิมานอล อัลกูอาซิล ยังคงโชว์ฟอร์มได้แข็งแกร่งตามมาตรฐานแม้ว่าจะเสียผู้เล่นกำลังสำคัญออกไปหลายคนในซีซั่นนี้ เกาะกลุ่มอยู่ท็อปไฟว์ของลีกแดนกระทิงดุยังมีลุ้นพื้นที่บอลยุโรปถัวยใหญ่อยู่แบบยาวๆ ผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้รอบแบ่งกลุ่มนั้นผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์เกลุ่มแบบหืดจับเพราะเต็มไปด้วยเพื่อนร่วมกลุ่มที่มีระดับใกล้เคียงกัน ด้านการลงสนามนัดล่าสุดนั้นเป็นโปรแกรมบอลลีกที่บุกเฉือนชนะ เกตาเฟ่ แบบเฉียดฉิว 1-0 สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด ลูก้า ซานกัลลี่ กองกลางตัวสำรองที่บาดเจ็บเข่าเพียงรายเดียว ที่เหลือคนอื่นๆ ไม่มีปัญหาใดให้ต้องกังวลพร้อมเป็นตัวเลือกในการลงเล่นเกมนี้ได้ทั้งหมด โดยสตาร์ที่น่าจับตามองในนัดนี้ขอชี้เป้าไปที่ อั๊ดนาน ยานาไซ แนวรุกตัวพริ้วที่ลุ้นทำแสบยิงอดีตต้นสังกัดที่เขาอยู่มาตั้งแต่สมัยเยาวชน
มุมแดง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูเหมือน “เฮียยิ้ม” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะออกอาการธาตุไฟเข้าแทรกแบบเดิมๆ จากที่มีลุ้นเบียดแย่งแชมป์ลีก อยู่ดีๆ ก็พลาดแจกแต้มให้กับทีมบ๊วยกับรองบ๊วยแบบเหลือเชื่อ จนปัจจุบันมีแต้มตามหลังเพื่อนบ้านน่ารำคาญ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไกลถึง 7 แต้ม แถมแข่งมากกว่าหนึ่งนัดอีกด้วย พูดกันตามตรงแล้วแทบจะบอกลาโทรฟี่บอลลีกล่วงหน้าได้เลย เต็มที่คงลุ้นรักษาตำแหน่งเพื่อจบในตำแหน่งรองแชมป์ให้ได้เท่านั้น ส่วนในเรื่องของความสำเร็จคงต้องลุ้นบอลถ้วยที่เหลือให้เล่นอีกสองรายการแบบเต็มตัว ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดบุกไล่ตามตีเสมอ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แบบสมควรโดนด่า 1-1 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน ฟิล โจนส์ และ ปอล ป็อกบา สองนักเตะกระดูกเปราะที่เข้าโรงหมออยู่สองราย นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมลงล่าชัยแก้ตัวความผิดหวังในเกมที่ผ่านมาได้ทั้งหมด แน่นอนว่าตัวแบกอนาคตของทีมหนีไม่พ้น บรูโน่ แฟร์นานเดส ยอดเพลเมคเกอร์ชาวโปรตุกีสที่ทำทุกอย่างให้ทีมหมดแล้วยกเว้นวางแผนคุมทัพเอง
วิเคราะห์ก่อนเกม ทั้งสองทีมเคยปะทะกันมาก่อนในถ้วย UCL เมื่อแปดปีก่อน แล้วเป็นทาง ปีศาจแดง ที่ทำผลงานได้ดีกว่าในขณะนั้นด้วยการชนะ 1 นัด และเสมอ 1 นัด อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถนำเอาข้อมูลดังกล่าวมาอ้างอิงเป็นหลักได้เพราะมันเป็นทีมต่างยุคที่เทียบกับปัจจุบันไม่ได้เลย ลา เรอัล ต้องเสียความได้เปรียบในการลงเล่นในถิ่นจากวิกฤติการณ์ โควิด-19 ที่บางประเทศไม่สามารถใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งได้ ทำให้ต้องเดินทางไปเล่นต่างแดนที่สนามกลาง แน่นอนว่าย่อมส่งผลในเรื่องของสภาพร่างกายของนักเตะที่ลงเล่นถี่ๆ อย่างมาก เกมนี้พวกเขาคงใช้จังหวะการเล่นที่แน่นอนครองบอลสู้แบบเท้าสู่เท้า พอมีจังหวะให้ตัวรุกแนวบนที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง เลี้ยงกินตัวเก่งมีจังหวะดวลตัวต่อตัวเป็นไม้เด็ดในการเล่นงานคู่แข่ง ส่วนทาง แมนยู ที่ยังเหลือเกมให้แก้ตัวในบ้านอีกหนึ่งนัด คงจะมาในแท็คติกถนัดคือตั้งรับแล้วสวนกลับแบบเดิมๆ อาศัยจังหวะการออกบอลยาวๆ ให้แนวรุกริมเส้นที่มีความเร็วโจมตีเป็นหลัก เมื่อเทียบองค์ประกอบต่างๆ แล้วเชื่อว่าเกมนี้จะเป็นการสู้กันของการวางแผนแก้ทางของสองกุนซือโดยตรง ท้ายที่สุดแล้วยากที่จะตัดสินว่าทีมใดเหนือกว่ากัน เกมน่าจะเปิดแลกกันอย่างสนุกลงเอยกันไปด้วยผลเสมอ
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล โซเซียดาด (4-3-3) : อเล็กซ์ เรมิโร่ (GK) – โฆเซบา ซัลดูอา, อาริตซ์ เอลูสตอนโด้, อิกอร์ ซูเบลเดีย, นาโช่ มอนเรอัล – มิเคล เมริโน่, ดาบิด ซิลบา, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ – อั๊ดนาน ยานาไซ, อเล็กซานเดอร์ อิซาค, มิเกล โอยาร์ซาบัล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (GK) – อารอน วาน-บิสซาก้า, เอริก ไบญี่, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แมคโทมิเนย์, เฟร็ด – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – เอดินสัน คาวานี่
ผลสกอร์ที่คาด : เรอัล โซเซียดาด 1 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด