บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย เกมเลกที่สอง เป็นการกลับมาลงสนามดวลแข้งกันอีกครั้งระหว่าง “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เกมนี้จะทำหน้าที่เจ้าบ้านเปิดรังเหย้า คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ สลาเวีย ปราก โดยทั้งสองทีมมีคิวลงดวลแข้งกันในช่วงดึกของคืนสุดวันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 03.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย ณ เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

เริ่มที่เจ้าถิ่นในเกมนี้ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ลูกทีมของ เบรนแดน รอดเจอร์ส รักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้อย่างคงเส้นคงวาสุดๆ หากไปดูที่สถิติในช่วง 16 เกมหลังสุดที่ทัพจิ้งจอกลงสนามเล่นในทุกรายการนั้นเพิ่งจะเจอกับความพ่ายแพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น(ชนะ 10 เสมอ 5) โดยเกมนัดล่าสุดที่ลงสนามเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถบุกไปสอยทีมหินของลีกอย่าง “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ได้แบบหวุดหวิด 2-1 ทำให้สถานการณ์บนตารางคะแนนของทีมยังดูดีเกาะโซนหัวแถวของลีกเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นรั้งอยู่ที่ 3 ณ เวลานี้ ด้านสภาพความพร้อมล่าสุดของทีมเจ้าบ้านเกมนี้มีข่าวร้ายแจ้งมาให้ทราบเมื่อ เจมส์ แมดดิสัน มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีมได้รับบาดเจ็บมาจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้มีโอกาสน้อยมากที่จะหายกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ทันเวลา รวมไปถึง เจมส์ จัสติน, เดนนิส ปราเอ้ต์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เวส มอร์แกน, อโยเซ่ เปเรซ และ เคเลซี่ อิเฮียนาโช่ ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะไม่ได้ลงสนามช่วยทีมในเกมนี้อย่างแน่นอน

ผู้มาเยือน สลาเวีย ปราก เป็นอีกทีมที่แข็งแกร่งในผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อไปดูถึงสถิติการเล่นของทีมนั้นก็น่าทึ่งเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาไม่แพ้ใครมา 12 เกมติดต่อกันเข้าไปแล้ว โดยเกมสุดท้ายที่ต้องเจอกับความพ่ายแพ้ต้องย้อนกลับไปไกลถึงเกมยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายที่เจอ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว แต่ช่วงหลังทีมก็เริ่มมีอาการเป๋ให้เห็นบ้างจากที่ไม่เคยสะดุดเลยรู้จักแต่คำว่าชนะมานาน กลับต้องมาสะดุดเสมอถึง 3 จาก 4 เกมหลังสุด นัดล่าสุดก็ทำได้แค่บุกไปแบ่งแต้มกับ เทปลิเซ่ ทีมในโซนท้ายตารางของลีกกรีซที่ไม่ชนะใครมานาน 1-1 ทำให้จากที่นำชิวๆ เป็นจ่าฝูง เริ่มมีร้อนๆ หนาวๆ โดนทีมที่ตามหลังไล่บี้เข้ามาใกล้เหลnอเพียง 6 คะแนนเท่านั้นแล้ว ส่วนเรื่องสภาพความพร้อมของทีมก่อนจะลงทำศึกตัดสินในรายการยุโรปทีมอยู่ถือว่าค่อนข้างพร้อมสมบูรณ์จะขาดเพียงแค่แข้งหน้าเดิมอย่าง ดาวิด โฮวอร์ก้า และ ปีเตอร์ เซฟวิค เท่านั้น

วิเคราะห์ก่อนเกม ผลการแข่งขันของเกมเลกแรกออกมาแบบกินกันไม่ลงเสมอกันมา 0-0 ซึ่งก็เป็นไปตามทรงบอลของทั้งสองทีมที่มีความเหนียวแน่นรัดกุมด้วยกันทั้งสองฝ่าย มาในเกมนัดนี้มามองว่ามีโอกาสสูงที่จะอึดอัดยิ่งกว่าเกมเลกแรกเนื่องจากรอบนี้ไม่มีโอกาสให้ทีมที่ทำพลาดได้แก้ตัวอีกแล้ว แต่ด้วยความได้เปรียบเรื่องสถานที่ ความคุ้นชินที่มีมากกว่าจากการได้ลงเล่นในรัง น่าจะส่งผลให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่มากกว่า แต่อย่างที่บอกว่าเกมนี้จะพลาดไม่ได้หากเจ้าบ้านโดนยิงก็จะเสียประตูอเวย์โกลทันที และจะเป็นงานยากมาที่จะตามทวงคืนกลับมาให้ผ่านเข้ารอบได้ เนื่องจากคุณภาพของทีมและระบบการเล่นทาง สลาเวีย ปราก ไม่ได้ด้อยกว่ากันซักเท่าไหร่นัก ทำให้เกมนี้จะเน้นกันที่การช่วงชิงจังหวะ หาข้อผิดพลาดของฝั่งตรงข้าม หากทีมไหนพลาดเสียประตูก่อนจะไปเข้าทางบอลของอีกฝั่งทันที มีโอกาสสูงมากที่ทีมที่ทีมนำก่อนในเกมจะคว้าชัยมาครองได้ แต่ช่วงเวลานี้ยังเห็นช่องว่างเรื่องความมั่นใจและฟอร์มการเล่นช่วงหลังของฝั่งผู้มาเยือนว่าทีมเริ่มรับความกดดันไม่ไหวในเกมลีกสะดุดพลาดง่ายๆ เสียแต้มมาแล้วถึง 2 เกมในรอบเดือน ด้านคุณภาพโดยรวมทางเจ้าบ้านก็ยังเหนือกว่านิดหน่อย จึงคิดว่าทัพสุนัขจิ้งจอกมีโอกาสไม่น้อยที่จะเก็บชัยชนะได้แบบหวุดหวิด แต่ทางผู้มาเยือนก็ใช่ว่าจะต้องเตรียมเก็บกระเป๋าอย่างเดียว เมื่อเกมที่ผ่านมาพวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าเกมรับเล่นได้เหนียวแน่นเพียงใดหากเกมนี้เล่นได้แบบไม่ผิดพลาดมีสมาธิตลอดก็มีมุมลุ้นเสมออาจจะได้ยื้อต่อเวลา หรือผ่านเข้าไปด้วยกฏประตูทีมเยือนได้เช่นกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK) – ทิโมธี กาสตานเญ่, จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนคู, ลุค โทมัส – ยูริ ตีเลอม็องส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เซนกิซ อุนเดอร์, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้

สลาเวีย ปราก (4-1-4-1) : ออนเดรย์ โคลาร์ (GK) – ลูคาส มาโซปุสต์, ออนเดรย์ คูเดล่า, ดาวิด ซิม่า, ยาน บอริล – โทมัส โฮลส์ – ปีเตอร์ โอลายินก้า, ปีเตอร์ เซฟชิค, ออนเดรย์ ลินเกอร์, อับดัลลาห์ ซิม่า – ยาน คุชต้า

ผลสกอร์ที่คาด : เลสเตอร์ ซิตี้ 2 – 1 สลาเวีย ปราก