บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020/21 โปรแกรมนัดที่ 27 ช่วงกลางสัปดาห์คู่ดึกวันพุธ ลงเล่นกันที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ณ สนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ในช่วงดึกของวันพุธที่ 3 มีนาคม เวลา 03.15 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย เป็นคิวการดวลแข้งกันระหว่างทีมอันดับที่ 13 “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูงของตารางคะแนนในปัจจุบัน
เจ้าถิ่น “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ทางด้าน รอย ฮ็อดจ์สัน เทรนเนอร์วัยเกษียณ ยังคงพาทีมทำแต้มอยู่ในมาตรฐานเดิมแบบที่เคยเป็นมา ประคองตัวอยู่กลางๆ ตารางค่อนไปด้านล่าง แต่ไม่ถึงกับต้องลำบากไปลุ้นหนีตกชั้นเพราะตุนแต้มช่วงต้นซีซั่นเอาไว้มากพอควร แท็คติกยังเป็นบอลโบราณตีหัวเข้าบ้าน เน้นตั้งรับให้เหนียวแน่ตั้งเป้าขอให้ทีมมีคะแนนเอาไว้ก่อนแบบนัดต่อนัดแล้วค่อยมาลุ้นกันว่าจะหนึ่งหรือสามคะแนน เกมบุกนั้นแทบไม่หวังอะไรนอกจากทิ้งแนวรุกที่เลี้ยงกินตัวได้เก่งไว้ด้านหน้า แล้วคอยป้อนบอลให้ศูนย์หน้าตัวเป้าเข้าชาร์จจบสกอร์ ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกที่เปิดบ้านเสมอกับ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม แบบไร้สกอร์ในรูปเกมที่สุดน่าเบื่อ สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด มามาดู ซาโก้, เจมส์ ทอมกินส์, นาธาน เฟอร์กูสัน, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เจฟฟรีย์ ชลุปป์, วิลฟรีด ซาฮา และ คอร์เนอร์ วิคแฮม ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมเป็นตัวเลือกในการลงเล่นเกมนี้ได้อย่างไร้ปัญหา โดยสตาร์ที่เป็นทีเด็ดในการล้มยักษ์นัดนี้ขอชี้เป้าไปที่ เอเบเรชี่ เอเซ่ แนวรุกสาระพัดประโยชน์ที่เล่นได้คุ้มเกินค่าตัวอย่างมากในปีนี้
ฝั่งทีมเยือน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีช่วงที่ทาง “เฮียยิ้ม” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาทีมไล่เก็บแต้มแบบต่อเนื่องจนฝันไปไกลถึงตำแหน่งแชมป์ แต่เพียงไม่นานคุณภาพของทีมก็สะท้อนออกมาตามแต้มที่หล่นฮวบฮาบในตอนหลัง แนวรุกที่หวังพึ่งสตาร์ไม่กี่รายให้แบกทีมบนบ่าเหมือนจะเป็นภาระหนักเกินไป แนวรับยังคงมีลูกตลกชวนหัวให้แฟนบอลได้ลุ้นเสียวจากความผิดพลาดงกๆ เงิ่นๆ ของคู่เซ็นเตอร์แบ็คที่ผลัดเปลี่ยนหน้าอยู่เป็นประจำ ปัญหาเรื่องทีเด็ดทีขาดในการจบสกอร์ในจังหวะตัดสินเกมนั้นแก้ไม่ตก ไม่รู้ว่าผู้จัดการทีมได้สอนการยิงประตูให้เข้าสมองแนวรุกแดนบนบ้างหรือเปล่า? ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นศึก บิ๊ก แมตช์ ชวนง่วงที่บุกเจ๊า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี แบบจืดๆ ไร้กสอร์ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน ฟิล โจนส์ และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ที่ยังเข้าโรงหมออยู่เพียงสองราย ส่วนในรายของ ปอล ป็อกบา และ เอดินสัน คาวานี่ สองสตาร์ค่าเหนื่อยแพงน่าจะกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองได้อย่างน้อยในนัดนี้ แน่นอนว่าความหวังสูงสุดในแนวรุกจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก บรูโน่ แฟร์นานเดส เพลย์เมคเกอร์แพสชั่นสูงที่ต้องการเรียกความมั่นใจด้วยการยิงประตูอย่างเร่งด่วน เนื่องจากช่วงหลังมักจะหายเข้ากลีบเมฆอยู่เป็นประจำ
วิเคราะห์ก่อนเกม การเจอกันในช่วงหลังไม่มีทีมใดเหนือกว่าออกแนวผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่แปลกที่ทีมใดได้เล่นในรังมักจะเป็นฝ่ายพังมากกว่า เจ้าบ้านนั้นไม่ต้องหวังให้พวกเขาเปลี่ยนสไตล์การเล่นใดๆ จะนอกบ้านในบ้านเป็นบอลหน้าเดียว เน้นรับแล้วสวนกลับทิ้งบอลยาวๆ ให้แนวรุกที่มีความเร็วควบตะบึงเล่นงานคู่ต่อสู้ กองหน้าตัวเป้ามีหน้าที่แค่รอเข้าชาร์จเพียงอย่างเดียว แผงหลังกับกองกลางแทบจะยืนไลน์เดียวกันอุดแบบไม่คิดชีวิต ส่วนทางผู้มาเยือนยามเจอกับบอลลักษระนี้รูปเกมจะออกตึงๆ ไร้จินตนาการในการเข้าทำ แถมมักจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเสียประตูไปก่อนเสมอ เชื่อเลยว่านัดนี้อาจฉายหนังม้วนเดิม ท้ายที่สุดคงต้องหวังพึ่งฮีโร่จากม้านั่งสำรองลงมาเปลี่ยนเกม ต้องโดนไปก่อนสักลูกถึงจะตื่นแล้วเล่นดีเช่นเคย แต่ทุกเหลี่ยมทุกมุมศัยภาพของนักเตะของอาคันตุกะยังมีคาแรกเตอร์แห่งผู้ชนะมากกว่า บทสรุปแล้วหนีไม่พ้นสต่าร์ซักคนซัดพาทีมเฉือนชัยไปแบบหืดจับ บุกมาคว้าสามคะแนนต่ออายุการลุ้นแชมป์แบบลมๆ แล้งๆ ทิ้งแฟนบอลให้ฝันกันต่อไปเฉกเช่นเดิม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ ไกวต้า (GK) – โจเอล วอร์ด, ชีคคู คูยาเต้, แกรี่ เคฮิลล์, แพทริค ฟาน อานโฮลท์ – ไจโร รีเดอวัลด์, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เอเบเรชี่ เอเซ่ – ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, คริสเตียน เบนเทเก้, จอร์แดน อายิว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (GK) – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดลอฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – เฟร็ด, สกอตต์ แมคโทมิเนย์ – แดเนียล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
ผลสกอร์ที่คาด : คริสตัล พาเลซ 1 – 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด