วิเคราะห์บอล เอสซีจี เมืองทอง vs บุรีรัมย์ ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก

บทวิเคราะห์ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 คู่บิ๊กแมตช์ คู่โทนของโปรแกรมการแข่งขันสัปดาห์ที่ 25 ระหว่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 4 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูงของตาราง โดยเกมคู่นี้จะลงสนามแข่งขันกันในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม เวลา 17:00 น. ที่สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม จังหวัดนนทบุรี

เจ้าบ้าน “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของอดีตตำนานดาวยิงของทีม มาริโอ ยูลอฟสกี้ ตั้งแต่ก้าวขึ้นมาคุมทีม เจ้าตัวทำให้ทุกอย่างในสนามเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเตะดูมีชีวิตชีวาและชื่นชอบกับปรัชญาของกุนซือชาวนอร์ท มาซิโดเนีย รายนี้ แต่ผลงานเกมลีกนัดล่าสุดดันสะดุดพ่ายคาบ้านให้กับ “มังกรโล่เงินโปลิศ เทโร เอฟซี 1-2 ทำให้เสียสถิติชนะรวด 3 นัดติด แต่ยังดีที่พวกเขาอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง มี 40 คะแนนจากการลงสนาม 24 นัด ตามหลังทีมอันดับที่ 3 ซึ่งจะได้สิทธิ์ไปแข่งศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2022 อยู่ 7 คะแนน ซึ่งทีมจากนนทบุรียังมีความหวังพอสมควร ส่วนเกมนี้ทางด้านสภาพความพร้อมของนักเตะก่อนลงสู่สนามแข้งทุกรายอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เตรียมลงบู๊เกมนี้ได้อย่างเต็มที่ไม่มีขาด

ทีมเยือน “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยการหวนกลับมาคุมบังเหียนที่นี่อีกครั้งของกุนซือ อเล็กซองเดร กาม่า ตั้งแต่มูฟออนย้ายจาก เมืองทอง กลับมาที่ช้าง อารีน่าอีกครั้ง ก็ต้องใช้เวลาปรับจูนทัพพอสมควรจนปัจจุบันลงตัวและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงของตาราง โดยเกมการแข่งขันนัดล่าสุดพวกเขาเปิดบ้านอัด “ช้างขาวจ้าวเกาะตราด เอฟซี ด้วยสกอร์ 2-0 เก็บสามคะแนนบวกของเก่าเป็น 47 แต้ม แต่โอกาสในการคว้าแชมป์เป็นไปไม่ได้แล้วเมื่อแชมป์ตกไปอยู่กับ “กระต่ายแก้วบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์อย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อย แต่สำหรับตอนนี้ทีมเซาะกราวต้องยึดรองจ่าฝูงเพื่อได้สิทธิ์ไปลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2022 มาให้ได้ ต่อกันที่ทางด้านสภาพความพร้อมของนักเตะก่อนเกมนี้ นักเตะทุกรายฟิตเต็มที่ พร้อมเบียดแย่งลง 11 ตัวจริงได้ทั้งทีม

วิเคราะห์ก่อนเกม นอกจากจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีและดาร์บี้แมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นัดนี้ยังเป็นเกมสำคัญที่ทั้งคู่ต่างต้องการสามคะแนนเพื่อการได้ไป เอซีแอล อีกด้วย แต่ภาษีทางเจ้าบ้านเป็นรองกว่าเพราะตามหลัง 7 แต้ม แถมเกมล่าสุดดันเปิดแผลแบบน่าเขกกระโหลก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็โชว์เฟี๊ยวให้เห็นจนน่าเกรงขาม จุดแข็งของ เมืองทอง ในยุคของกุนซือพี่โอ้ คือการให้อิสระของนักเตะอย่างเต็มที่ยามเล่นเกมรุก จุดแข็งการต่อบอลและถ่ายบอลเริ่มตั้งแต่ผู้รักษาประตู ลูกสูตรในการเล่นลูกเซ็ทพีชและลูกตั้งแต่ต่างๆ แต่จุดอ่อนของพวกเขาคือแข้งที่ไว้ใจได้มักเป็นตัวรุกชาวต่างชาติอย่าง แดร์เลย์ ที่ลงเล่นจนน่าจะกรอบหมดแล้ว ตามด้วยเกมรับที่พอเจอแข้งระดับพระกาฬมักจะหยุดกันไม่อยู่ ตองใช้การเข้าบอลหนักเข้าช่วย แต่โดยรวมจุดแข็งที่กล่าวมาก็ทำให้พวกเขามีความอันตรายมากพอที่จะอยู่ในโซนหัวตาราง ทีมเยือนด้วยการทำทีมของกุนซือ กาม่า รูปแบบการเล่นตอนนี้เขี้ยวลากดิน ระบบดูมีระเบียบ ไม่ต้องต่อบอลอะไรกันมาก เกมขึ้นกันตั้งแต่แดนหลังถ่ายไปตรงกลางและพร้อมออกบอลไปด้านกราบข้างจะปาดเข้ากลางหรือจะเลี้ยงไปชงเองกินเองก็ทำได้ดี แถมจังหวะแถวสองยังสร้างสรรค์เกมและยิงประตูได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนกองหน้าช่วงนี้แข้งชาวไทยและชาวต่างชาติขยันผลัดกันโชว์ฟอร์มดี โดยไม่ต้องมีใครบอกแต่ข้อเสียคือบทจะโดนยิงประตูก็โดนกันง่ายๆ และหลายครั้งพวกเขาเล่นบอลเนือยกันเกินไป ถ้าโดนนำไปก่อนจะรีบร้อนทวงประตูคืนจนลนลานกันไปเอง ที่สำคัญเกมรุกของพวกเขาแม้ดูเหมือนจะหลากหลาย แต่เอาเข้าจริงก็เน้นลูกกลางอากาศมากเกินไป แต่โดยรวมแล้วพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นมามากโดยเฉพาะเลก 2 นี้ ส่วนรูปเกมที่น่าจะเป็นในนัดนี้ ด้วยความเป็นดาร์บี้แมตช์คงจะผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุก เชื่อว่าเจ้าบ้านน่าจะหาจังหวะครองบอลและโอกาสการทำประตูได้มากกว่า ส่วนทีมเยือนซึ่งกุนซือกาม่าหวังแก้แค้นเต็มที่ เตรียมให้ลูกทีมเล่นอย่างใจเย็นเพราะดูแกจะมั่นใจในแผงหลังและคอยหาจังหวะที่เจ้าบ้านผิดพลาดใช้โอกาสนี้ในการเล่นเกมโต้กลับ ซึ่งผู้เขียนดูจากฟอร์มของทั้งคู่ในช่วงนี้ จึงขอสรุปทิศทางผลการแข่งขัน คาดว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดีพอที่จะบุกมาคว้าชัยชนะเหนือเจ้าบ้าน เอสซีจี เมืองทอง ไปได้ เพราะนอกจากแผนการเล่นที่ทั้งคู่ก็มีดีกันคนละแบบ แต่สำคัญตรงที่พละกำลัง โดยแผนการเล่นของเจ้าถิ่นใช้พลังงานมากกว่าทีมเยือน อาจมีอาการล้าสะสมจนเสียท่าไปได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : สมพร ยศ (GK) – สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ลูคัส โรช่าศฤงคาร พรมสุภะบุญทวี เทพวงศ์  พัชรพล อินทนี – พิชา อุทราสรวิทย์ พานทองวิลเลี่ยน พ็อพพ์ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ – แดร์เลย์

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3-5-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – รัตนากร ใหม่คามิพรรษา เหมวิบูลย์อภิวัฒน์ งั่วลำหิน  นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดมปิยพล ผานิชกุลศุภชัย ใจเด็ดเควิน อินเกรโซศศลักษณ์ ไหประโคน  สุภโชค สารชาติศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

ผลสกอร์ที่คาด : เอสซีจี เมืองทอง 1 – 2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top