บทวิเคราะห์ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 เกมนัดกลางสัปดาห์คู่รองสุดท้ายวันพุธ เป็นการโคจรมาเจอกันของทีมรองจ่าฝูง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม ช้าง อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับที่ 13 ของตารางคะแนนในปัจจุบัน โดยทั้งสองทีมจะลงปะทะกันในช่วงเย็นของวันพุธที่ 10 มีนาคม เวลา 18.30 น. ณ จังหวัดบุรีรัมย์
เจ้าบ้าน “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยอดโค้ชอย่าง อเล็กซองเดร กาม่า ปรับปรุงทีมของเขาได้กลมกล่อมลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ แนวรุกกลับมาดุดันน่ากลัวมีการเข้าทำที่หลากหลาย แผงหลังเหลือแค่จูนความเข้าใจอีกเล็กน้อยน่าจะเหนียวแน่นมากกว่านี้ ไล่เก็บแต้มจนขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงได้อย่างน่าชื่นชม ผลงานการลงสนาม 5 นัดหลังสุดในเกมลีกนั้นชนะ 4 นัดและเสมอ 1 นัด ไม่ปราชัยให้ทีมใดเลย คว้าไปถึง 13 แต้ม ถือว่าเข้าฝักแบบยากจะต้าน ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกนัดบิ๊กแมตช์ที่บุกเจ๊า “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แบบสุดมัน 2-2 สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ไร้ที่ติไม่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมแย่งตำแหน่งกันเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย ไมค่อนกองหน้าตัวต่างชาติที่เป็นความหวังใหม่ในแนวรุกที่เพิ่งเบิกสกอร์มาหมาดๆ ในนัดที่ผ่านมา
ฝั่งทีมเยือน “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ลูกทีมของ “โค้ชอั๋น” สุรพงษ์ คงเทพ มีช่วงที่ดีและแย่สลับกันไปตามศักยภาพของทีม เป็นบอลที่ชัดเจนในสไตล์การเล่นเอามากๆ คือ ตั้งรับแล้วสวนกลับโดยใช้ความเร็วของตัวริมเส้นด้านข้างคอยจู่โจมแบบฉับไว แต่หลังๆ เกมรับมักจะยันไม่อยู่พลาดเสียประตูไปก่อนบ่อยครั้งเลยไม่เข้าแก๊ปที่ดักไว้ ผลงานการลงเล่นในเกมลีก 5 นัดหลังสุดนั้นเสมอ 1 นัดและแพ้มาแล้ว 4 นัดติดต่อกัน เก็บได้แต้มเดียวถือว่าห่วยแตกแบบยากจะปฏิเสธ ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นเกมลีกที่พ่ายคารังให้กับ “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ แบบน่าเสียดาย 2-3 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไร้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนให้ตัดออกจากทีมแม้แต่คนเดียว ทุกคนพร้อมลงล่าชัยแก้ตัวหลังฟอร์มย่ำแย่ได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย จอห์น บาจโจ้ กองหน้าตัวแบกที่เป็นไม้ตายของทีมในการทำทุกอย่างของเกมบุก
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยด้วยผลงานชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัดและแพ้ 1 นัด นับว่าเป็นบอลที่สู้กันได้สูสีอย่างน่าแปลกใจ ปราสาทสายฟ้า ที่กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจแบบสุดๆ ย่อมต้องเล่นตามเกมถนัดของตัวเองคือบุกใส่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเปิดแผลแรกได้เพราะคุณภาพของนักเตะและโค้ชนั้นเหนือกว่าแบบยากจะเทียบ แต่การที่ทางทีมเยือนนั้นรู้แกวว่ากองหลังเจ้าบ้านนั้นมีความเร็วต่ำทั้งสามคนที่ยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค จึงมาไม้เดิมที่ได้ผลทุกครั้งอย่างการใช้ตัวริมเส้นฝีเท้าจัดคอยเล่นจังหวะเคาน์เตอร์แอทแทคเหมือนเคยๆ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเกมรับของอาคันตุกะนั้นย่ำแย่ยากจะไว้ใจ มีโอกาสสูงที่จะโดนเปิดแผลแรกไปอย่างรวดเร็ว ต่อให้ทวงคืนประตูมาได้แต่ก็พร้อมเสียทุกเมื่อทุกจังหวะ เมื่อวัดความคมกันแล้วยังมั่นใจว่าแนวรุกของเจ้าถิ่นนั้นเฉียบคมและแน่นอนในจังหวะจบสกอร์มากกว่า ท้ายที่สุดคงบดเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ที่สูสี เนื่องจากผู้มาเยือนนั้นมีจังหวะโต้ที่ประมาทไม่ได้เช่นเดียวกัน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3-4-1-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – รัตนากร ใหม่คามิ, พรรษา เหมวิบูลย์, ทินกร อสุรินทร์ – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, จักรพันธ์ แก้วพรหม, เควิน อินเกรโซ, ศศลักษณ์ ไหประโคน – สุภโชค สารชาติ – ไมค่อน, ซามูเอล โรซ่า
สุโขทัย เอฟซี (3-4-3) : กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (GK) – นุกูลกิจ ครุฑใหญ่, โย ซอง-แฮ, โจชัว กรอมเมน – ศิลา ศรีกำปัง, เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร, กานต์พิชชา ชะนะการี, ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกูล – จอห์น บาจโจ้, อิบสัน เมโล่, จุง เมียง โอ
ผลสกอร์ที่คาด : บุรีรัมย์ 3 – 2 สุโขทัย