บทวิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนัดกลางสัปดาห์คู่เดียวโดดๆ ลงดวลฝีเท้ากันที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 10 มีนาคม เวลา 01.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นการพบกันของทีมจ่าฝูง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ทีมอันดับที่ 14 ของตารางคะแนนในปัจจุบัน
เจ้าบ้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งจะเสียรังวัดไม่น้อยในเกมลีกนัดล่าสุดที่พ่ายคาบ้านในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ให้กับเพื่อนบ้านสีแดงอย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเสียทรง 0-2 หยุดสถิติอันยอดเยี่ยมไว้ที่การชนะติดต่อกันทุกรายการที่ 21 นัด ซึ่งทางกุนซือมือทองอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านเท่าไหร่ เนื่องจากให้สัมภาษณ์กับนักข่าวไว้สรุปได้ว่าพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ที่ดีในการลุ้นแชมป์เหมือนเดิม และข่าวใหญ่ที่ควรเล่นคือพวกเขาชนะมาถึง 21 นัดไม่ใชแพ้เพียงนัดเดียว แถมรูปเกมจริงๆ ไม่ได้เป็นรองใดๆ เพียงแต่โชครางไม่เข้าข้างพวกเขา พลาดในการจบสกอร์แบบจะๆ หลายรอบจนหมดความมั่นใจ สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด สกอตต์ คาร์สัน, นาธาน อาเก้ และ ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ ตัวเจ็บหน้าเดิมที่ร่างกายยังไม่สมบูรณ์ นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้นพร้อมลงแย่งตำแหน่งกันเป็น 11 ตัวจริงได้ทั้งหมด โดยสตาร์ที่น่าจับตามองในเกมนี้ขอชี้เป้าไปที่ ฟิล โฟเด้น วันเดอร์คิดฝีเท้าเยี่ยมที่ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมที่แล้วและดูเพิ่มมิติให้แนวรุกดูวูบวาบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ฝั่งทีมเยือน “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน เหล่าขุนพลของ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล ฟอร์มดร็อปลงมาจากช่วงต้นฤดูกาลแบบเห็นได้ชัด จากตอนแรกที่ฟอร์มแรงจนเคยขึ้นไปติดท็อปไฟว์ พอเจอปัญหาผู้เล่นตัวหลักสลับหน้ากันเข้าโรงหมอไปทีละคนสองคนจนไม่สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงเล่นได้ ผลงานก็เริ่มขาดความคงเส้นคงวาจนทำแต้มหล่นแบบน่าเขกกะโหลกหลายนัด พวกเขาเป็นบอลที่ดูสนุกเอนเตอร์เทนเพราะดูทุ่มเทยามเล่นเกมรับด้วยการวิ่งเพรสซิ่ง เช่นเดียวกับเกมบุกที่ทุ่มแบบสุดตัวดันสูงแบบเปิดหน้าแลกหวังวัดให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย อย่างไรก็ตามมักจะโดนเล่นงานจากจังหวะสวนกลับอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากแนวรับนั้นเปลี่ยนแผงหลังบ่อยเลยขาดการประสานงานที่ลงตัว ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลลีกที่บุกเชือดทีมบ๊วย “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แบบนิ่มๆ 2-0 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะอดใช้งาน แซม แม็คควีน, อิบราฮิม่า ดิยัลโล, วิลล์ สมอลล์บอน, ไมเคิล โอบาเฟมี่ และ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่ยังเข้าโรงหมออยู่ทั้งหมด ส่วนในรายของ แดนนี่ อิงส์ ที่เจ็บเล็กน้อยจากเกมก่อนคงน่าจะมีชื่อเป็นตัวสำรองได้เป็นอย่างน้อย ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณืร้อยเปอร์เซ็นต์พร้อมบุกรังจ่าฝูงได้แบบไร้ปัญหา แน่นอนว่านักเตะที่น่าจับตามองที่สุดนาทีนี้หนีไม่พ้น นาธาน เทลล่า ปีกดาวรุ่งสปีดจัดที่เล่นงานคู่แข่งจนหัวปั่นในเกมที่ผ่านมา
วิเคราะห์ก่อนเกม การดวลกันนัดแรกของทั้งสองทีมในซีซั่นนี้ ปรากฏว่าเป็นแมนซิตี้ที่บุกไปเอาชนะได้ถึงรังแบบเฉียดฉิว 1-0 เกมนี้ได้กลับมาเล่นในรังยิ่งดูได้เปรียบไปกันใหญ่เพราะขุมกำลังตัวหลักอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา มีนักเตะแนวรุกให้เลือกใช้งานแบบล้นมือแถมคุณภาพแทบไม่ต่างกัน บทเรียนของพวกเขาในเกมก่อนหนีไม่พ้นจังหวะจบสกอร์ที่ใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง ดังนั้นเกมนี้อาจกลับมาใช้ระบบ False 9 อีกครั้งเพื่อเปิดช่องให้กองกลางหลายๆ คนที่สอดทะลุขึ้นมายิงประตูได้บ่อยครั้งเติมขึ้นมาเป็นทางเลือกเพิ่มเติม แนวรับคงมีการติวเข้มให้ตัดเกมคู่แข่งก่อนเข้าพื้นที่สุดท้าย ส่วนทางผู้มาเยือนคงจะมาเล่นในเกมถนัดอย่างเกมเพรสซิ่งวิ่งสู้ฟัด วัดใจไปเลยกว่าจะไล่กองกลางของเจ้าถิ่นจนเล่นไม่ถนัดได้หรือไม่? เมื่อวัดกันปอนด์ต่อปอนด์แล้วยังมั่นใจว่า เรือใบสีฟ้า ที่กำลังเดินหน้าล่าแต้มเพื่อหวังปิดจ็อบคว้าแชมป์ลีกให้ไวน่าจะอาศัยความดุดันในเกมบุกบดเอาชนะอาคันตุกะไปได้แบบสบายๆ ไม่ว่าจะจัดชุดไหนลงเล่นก็ตาม เนื่องจากแนวรับของ นักบุญ นาทีนี้เล่นกันได้อย่างสะเปะสะปะขาดสมาธิจนพร้อมพ่ายได้ทุกทีมที่มีเกมรุกจัดจ้าน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์สัน (GK) – ชูเอา คานเซโล่, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ริ่ง
เซาแธมป์ตัน (4-4-2) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, ยานนิค เวสเทอร์การ์ด, แยน เบดนาเร็ก, ไรอัน เบอร์ทรานด์ – สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, เจมส์ วอร์ด-พราวส์, โอริโอล โรเมอู, นาธาน เทลล่า – ทาคูมิ มินามิโนะ, เช อดัมส์
ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 – 1 เซาแธมป์ตัน