บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมเลกที่สอง เป็นการลงสนามประลองแข้งกันอีกครั้งระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เตรียมเปิดรังเหย้าชั่วคราว ปุสกัส อารีน่า ดวลฝีเท้ากับ “เดอะ เร้ดบูลส์” แอร์แบ ไลป์ซิก โดยทั้งสองทีมจะลงเล่นกันในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 10 มีนาคม เวลา 03.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่จะได้รับบทเป็นเจ้าบ้านในเกมนี้ ผลงานในช่วงหลังของพวกเขามีแต่จะดิ่งพสุธาเท่านั้น จากปัญหาในแดนหลังส่งผลกระทบรุกลามไปทั่วทั้งทีม นอกจากแนวรับที่รั่วเสียประตูแทบทุกเกมแล้วแดนกลางยังสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีมไม่ได้เลย และยิ่งไปกว่านั้นแดนหน้าก็ดันนัดกันมาตีนบอดแทบเจาะตาข่ายคู่แข่งไม่ได้เลย หากอีกฝ่ายไม่เล่นพลาดให้เอง ส่งผลให้สถิติการลงสนามของ “หงส์แดง” ช่วงหลังไม่ต่างกับทีมลุ้นหนีตกชั้น โดย 7 เกมหลังที่ลงเล่นในลีกเก็บชัยชนะมาได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 6 เกมพวกเขาแพ้รวดไม่มีแม้เสมอให้เห็น ซึ่งเกมล่าสุดก็ทำงามหน้าอีกครั้งโดนทีมน้องใหม่ที่อยู่ในโซนตกชั้นอย่าง ฟูแล่ม บุกมายิงดับอนาถคาบ้าน 0-1 ทำให้อันดับบนตารางคะแนนรูดยาวลงมาอยู่ที่ 8 ของลีก อย่าว่าแต่ตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ณ เวลานี้โอกาสจะได้ตั๋วยูโรป้า ยังไม่แน่นอนว่าจะคว้ามาได้หรือไม่เลยด้วยซ้ำ ทางด้านสภาพความพร้อมล่าสุดก่อนจะลงสนามเกมนี้ยังมีรายงานว่าพวกเขาจะขาดผู้เล่นหน้าเดิมๆอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, โอซาน คาบัค และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เช่นเคย
ด้านผู้มาเยือน “เดอะ เร้ดบูลส์” แอร์แบ ไลป์ซิก เกมนี้พร้อมจัดหนักจัดเต็มอย่างแน่นอนเมื่อจากรายงานล่าสุดยังไม่มีผู้เล่นชุดหลักของทีมคนใดมีปัญหาเลยแม้แต่คนเดียว เกมนี้ทีมแกร่งจากเยอรมันจะขาดเพียงแข้งสำรองอย่าง โดมินิก โซบอสซ์ไล และ คอนราด ไลเมอร์ สองคนเท่านั้น ด้านฟอร์มการเล่นของพวกเขาก็ยังร้อนแรงอย่างต่อเนื่องลงสนามเก็บชัยชนะมาครองได้ 4 นัดติดต่อกันแล้ว เกมรุกกำลังเข้าฝักตลอด 4 เกมหลังกดไปแล้วถึง 13 ประตู และเกมรับที่เป็นของขึ้นชื่อพวกเขาก็ยังไม่มีเป๋ให้เห็นเก็บมาได้ถึง 3 คลีนชีท โดยล่าสุดเพิ่งจะบุกไปถล่มเอาชนะ ไฟร์บวร์ก ได้แบบขาดลอย 3-0 ทำให้ในลีกทัพ เดอะ เร้ดบูลส์ ยังคงมีลุ้นเบียดแชมป์กับพี่ใหญ่ บาเยิร์น มิวนิค อย่างสูสี เพราะตามหลังอยู่เพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้นเอง สำหรับเกมนี้หากผู้มาเยือนอยากพลิกนรกผ่านเข้ารอบคงต้องไปฝากความหวังไว้ที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ดาวซัลโวสูงสุดของทีมในเวลาให้ช่วยเบิกสกอร์ช่วยทีมให้ได้
วิเคราะห์ก่อนเกม ผลการแข่งขันของคู่นี้ในเกมแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่แม้จะฟอร์มตกก็ยังอาศัยความเก๋าเกมกว่าเก็บชัยชนะมาครองได้ด้วยสกอร์ 2-0 แต่จากผลงานช่วงหลังของทัพหงส์แดงยังไว้วางจะอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ซึ่งเกมแรกที่ดวลแข้งกันเห็นได้ชัดว่าทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสูสีสุดๆ เพียงแต่ทาง ไลป์ซิก ไปทำพลาดรายบุคคลกันเองเท่านั้น แน่นอนว่าจากสถานการณ์ไม่มีทางเลือกเหลือให้ทีมเยือนมากนัก คงจะทำได้เพียงเดินหน้าบุกอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเวลานี้พวกเขาก็กำลังเข้าฝักสุดๆ ยิงคู่แข่งไม่เลี้ยงในช่วงหลัง ต้องมาดูว่าเกมที่มีความกดดันระดับนี้แนวรุกของทีมจะเล่นได้เป็นธรรมชาติหรือไม่ ซึ่งดูจากเกมแรกนั้นพวกเขาก็มีโอกาสไม่น้อยแต่ดันจบสกอร์กันไม่คมไปเอง ด้านเจ้าบ้านเจอกับปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในลีกดูแล้วปีนี้เลิกพูดถึงเรื่องป้องกันแชมป์กันได้เลย ด้านรายการบอลถ้วยอื่นๆ ก็กระเด็นตกรอบกันไปไม่เหลือ ดังนั้น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จึงเป็นถ้วยรางวัลเดียวที่ทำให้ฤดูกาลนี้ยังมีความหาย จึงมองว่า หงส์แดง จะไม่ยอมตกรอบไปง่ายๆ อย่างแน่นอน แถมเกมนี้เจ้าบ้านยังได้เล่นแบบที่ชอบคือตั้งรับแล้วสวนกลับเร็ว น่าจะพอเห็นความอันตรายของทีมได้มากกว่าต้องไปครองบอลเจาะแนวรับคู่แข่ง ซึ่งทาง ไลป์ซิก ที่มีบทเรียนจากจังหวะฉายฉวยมาแล้วก็อาจจะต้องไปพะวงหลังบ้านกันบ้าง เกมนี้หากมองไปที่ผลงานช่วงหลัง รวมไปถึงความมั่นใจคงต้องเลือกเชียร์ทางฝั่งทีมจากเยอรมัน แต่สุดท้ายก็ยังคิดว่าทีมที่จะได้ไปต่อเป็นทาง ลิเวอร์พูล ที่ได้รับผลบุญเก่าจากที่ทำมาในเกมเลกแรก
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (GK) – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, แนท ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – นาบี เกอิต้า, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดิโอโก้ โชต้า
แอร์เบ ไลป์ซิก (3-1-4-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ (GK) – นอร์ดี้ มูคิเอเล่, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ – เควิน คัมเพิล – ไทเลอร์ อดัมส์, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, ดานี่ โอลโม่, อมาดู ไฮดาร่า – อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ, ยุสซุฟ โพลเซ่น
ผลสกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 1 – 2 ไลป์ซิก