บทวิเคราะห์ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน โปรแกรมการแข่งขันสัปดาห์ที่ 25 ของฤดูกาล เกมคู่แรกสุด เป็นการลงสนามดวลกันของสองทีมฟอร์มตกระหว่าง เอาก์สบวร์ก ทีมอันดับที่ 13 เปิดบ้านรอรับการมาเยือนของ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ทีมอันดับที่ 10 ของตารางคะแนนในขณะนี้ โดยที่ทั้งสองทีมจะลงฟาดแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม เวลา 02.30 น. หรอือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม ที่สนาม เวเวคาร์ อารีน่า เมืองเอาก์สบวร์ก ประเทศเยอรมนี
ฝั่งเจ้าถิ่น เอาก์สบวร์ก ที่อยู่ภายใต้การนำทัพของกุนซือ ไฮโค แฮร์ลิช ช่วงแรกของฤดูกาลออกตัวมาอย่างหล่อเฟี้ยว แต่เมื่อยิ่งเล่นฟอร์มการเล่นของทีมก็ค่อยๆ แย่ลงไปทุกที 10 เกมหลังสุดที่ลงสนามบนลีกคว้าชัยชนะมาครองได้เพียงแค่ 2 เกมเท่านั้นเอง ส่วนที่เหลือแพ้ไปถึง 7 เกม และเก็บผลเสมอมาได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น โดยนัดล่าสุดที่ลงสนามแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอาการพวกเขาหนักแค่ไหนเมื่อถึงขั้นบุกไปแพ้ทีมในโซนตกชั้นอย่าง “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 2-1 ส่งให้พวกเขาหล่นลงไปรั้งอยู่อันดับที่ 13 ของลีก แต่ได้บุญเก่าที่ทำเอาไว้ จึงไม่ต้องไปดิ้นรนหนีตกชั้นอะไรมากเนื่องจากยังนำห่างจากทีมในโซนตกชั้นอยู่ 7 คะแนน ทว่าพวกเขาก็ต้องรีบหาทางกลับมาเข้าฝั่งให้ได้หากไม่อยากเสียวไส้ช่วงท้ายของฤดูกาลนี้ สำหรับสภาพความพร้อมล่าสุดของทีมก่อนจะลงสนามเกมนี้มีรายงานผู้เล่นลงไม่ได้แน่นอน 4 รายคือ อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน, เฟรดริก เยนเซ่น, ทิม ชิเวย่า, ยาน โมราเว็ค และ ยาโก้ ส่วนบรรดาแข้งคนสำคัญอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวมายังพร้อมลงสนามช่วยทีมทั้งหมด จะนำทัพมาโดย โฟลเรียน นีเดอร์เลคเนอร์ กองหน้าตัวเก่งของทีมที่ช่วยต้นสังกัดซัดประตูไปแล้วมหาศาลถึง 3 ลูกในฤดูกาลนี้
ทางผู้มาเยือน “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ยิ่งเล่นก็ยิ่งแย่ลงสำหรับฟอร์มของทัพสิงห์วัยรุ่นในเวลานี้ หลังจากทางกุนซือ มาร์โค โรเซอ ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะวางมือจากทีมเมื่อจบฤดูกาลนี้ไปคุมทัพ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมก็ดูจะขาดศรัทธาลงไปอีกจน 7 เกมหลังที่พวกเขาลงสนามทุกรายการไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยเก็บผลเสมอได้เพียงเกมเดียวและแพ้ยาวๆไปถึง 6 เกม ซึ่งนัดล่าสุดที่ลงสนามเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดบ้านพ่ายต่อทีม “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แบบหวุดหวิด 1-0 จากผลงานสุดห่วยในช่วงนี้ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนสถานะจากทีมที่ลุ้นตั๋วยุโรป ลงมาเป็นเพียงทีมในโซนกลางตารางของลีกเท่านั้น ณ เวลานี้ กลัดบัค รั้งอยู่ที่ 10 ของตารางแบบพอดิบพอดี โดยเกมนี้พวกเขาจะได้ลงสนามเร็วเนื่องจากมีโปรแกรมบอลยุโรปรออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า แต่จากผลงานตอนนี้ทางกุนซือคงไม่สามารถเลือกพักตัวได้ต้องจัดเต็มส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเพื่อตามหาชัยชนะเรียกความมั่นใจของทีมกลับมาให้ได้ก่อน ซึ่งผู้เล่นที่ลงสนามช่วยทีมไม่ได้ในเกมนี้มีอยู่แน่นอน 5 รายทั้ง มามาดู ดูกูเร่, คริสตอฟ คราเมอร์, ฟามาน่า ไควซีร่า และโยนาส โฮฟมันน์
วิเคราะห์ก่อนเกม ไปดูที่สถิติการเจอกันของคู่นี้กันก่อน แน่นอนว่าจากคุณภาพทีมที่เหนือกว่าทำให้ทางฝั่ง กลัดบัค ทำออกมาได้ดีกว่า 5 เกมหลังสุดที่เจอหน้ากันเก็บชัยชนะมาได้ถึง 3 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้เพียงเกมเดียวเท่านั้น แต่เกมนี้มองว่าโอกาสจะชนะอีกครั้งไม่ได้สูงเท่าไหร่นัก เมื่อมองที่ฟอร์มการเล่นของทีมสิงห์หนุ่มในลีก 6 เกมหลังสุดที่เอาชนะใครไม่ได้เลย ส่งผลไปถึงความมั่นใจของทีมให้เหือดแห้งลงไปเรื่อยๆ โดยปกติแล้วพวกเขาไม่ได้มีเกมรับที่เหนียวแน่นอยู่แล้วการเสียประตูจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่เกมรุกที่เคยยิงสลุตบทจะห่วยก็ไม่หลงเหลือทรงเลยแม้แต่น้อย ตลอดการลงสนาม 6 เกมในลีกทำประตูได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น และสะกิดตาข่ายคู่แข่งไม่ได้ถึง 4 เกม อย่างไรก็ตามคู่แข่งของพวกเขาอย่างเจ้าบ้านในนัดนี้เป็นทีมที่เกมรุกแย่ยิ่งกว่า ซึ่งมาจากระบบการเล่นของทีมเองที่เน้นความรัดกุมไว้ก่อนเป็นหลัก แต่แนวรับของเจ้าบ้านก็ไม่ได้เหนียวแน่นขนาดนั้นเพราะถ้าหากดีจริงพวกเขาคงไม่หล่นลงไปอยู่ในโซนครึ่งล่างของตาราง จากปัญหาทางด้านการจบสกอร์ของทั้งสองทีมจึงคิดว่ารูปเกมจะออกมาค่อนข้างอึดอัดหาจังหวะอันตรายกันได้น้อย ด้านเกมรับทั้งสองทีมมีสถิติเสียประตูที่ 37 ลูกเท่ากันพอดีถือว่าคุณภาพย่ำแย่พอกัน สิ่งเดียวที่จะตัดสินหาตัวผู้ชนะในเกมนี้ได้ต้องมาดูในเกมว่าความคมจะไปเข้าร่างผู้เล่นฝั่งไหน หากให้เลือกผู้ชนะได้เพียงหนึ่งเดียวจากคุณภาพโดยรวมยังเชื่อว่าผู้มาเยือนน่าจะพอเอาตัวรอดกลับมาเบียดคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอาก์สบวร์ก (4-2-3-1) : ราฟาล กีคีวิช (GK) – ราฟาเอล ฟรามเบอร์เกอร์, เจฟฟรี่ย์ กูเวลูว์, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, แมดส์ พีเดอร์เซ่น – โทรเบียส ชโตรเบิล, รานี่ เคดิร่า – ดาเนียล คาลิกูรี่, ลาสซ์โล เบเนส, อังเดร ฮาห์น – โฟลเรียน นีเดอร์เลคเนอร์
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (4-2-3-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ (GK) – สเตฟาน ไลเนอร์, มัตธิอัส กินเทอร์, นิโค เอลเวดี้, รามี่ เบนเซไบนี่ – เดนิส ซาคาเรีย, ฟลอเรียน นอยเฮาส์ – วาเรนติโน่ ลาซาโร่, ฮันเนส โวล์ฟ, มาร์คุส ตูราม – อลาสซาเน่ เพลอา
ผลสกอร์ที่คาด : เอาก์สบวร์ก 1 – 2 โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค