บทวิเคราะห์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการโคจรมาเจอกันของสองทีมจากพรีเมียร์ลีกที่ฟอร์มการเล่นกำลังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดสนามเหย้า สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยทั้งสองทีมจะลงสนามดวลแข้งกันในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม เวลา 20.30 น. ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ฝั่งเจ้าถิ่น “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ฟอร์มการเล่นกำลังร้อนแรงแบบไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ลูกทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ไม่แพ้ใครมาแล้ว 13 เกมติดต่อกันในทุกรายการ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งจะโชว์ความโหดเปิดบ้านไล่ขย้ำ “ตราหมี“ แอตเลติโก มาดริด ทีมจ่าฝูงของลาลีกา แบบง่ายกว่าที่คิด 2-0 ทำให้ทัพสิงบลูส์กรีฑาทัพเข้าไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ ด้านผลงานในลีกก็สามารถทะยานขึ้นมารั้งอยู่ในโซนท็อปโฟร์ได้สำเร็จ มีอยู่ 51 คะแนนจากการลงสนามไปทั้งหมด 29 นัด ไปดูที่ผลงานในรายการเอฟเอ คัพ กันบ้าง เชลซี ผ่านเข้ารอบนี้มาได้หลังบุกไปเฉือนเอาชนะ เบิร์นลีย์ ได้แบบหวุดหวิด 1-0 ส่วนในเรื่องสภาพความพร้อมล่าสุดของทีมแม้จะต้องลงสนามถี่เหลือเกิน แต่ขุมกำลังของทีมยังคงดูดีเกมนี้จะขาดผู้เล่นตำแหน่งแนวรับ และรุกอย่างละ 1 รายเท่านั้นคือ ติอาโก้ ซิลวา และ แทมมี่ อับราฮัม ซึ่งบรรดาแข้งที่เหลือยังต่างเป็นอาวุธหนักระดับพันล้านทั้งสิ้น ดังนั้นเรื่องความพร้อมของฝั่งเจ้าบ้านไม่มีอะไรต้องห่วงเลยแม้แต่น้อย
ทางด้านผู้มาเยือน “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ผลงานในลีกฤดูกาลนี้ย่ำแย่อย่างหนัก ลงแข่งไปแล้ว 29 เกมแต่กลับคว้าคะแนนมาครองได้เพียง 14 แต้มเท่านั้น นอนจมเป็นบ๊วยของตารางคะแนนอยู่ในเวลานี้ หากมองทางปฎิบัติแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ทัพดาบคู่จะรอดตายมีชีวิตอยู่บนลีกสูงสุดต่อไปในซีซั่นหน้า จากผลงานสุดห่วยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ คริส ไวล์เดอร์ กุนซือคู่บุญของทีมมีอันต้องกระเด็นตกเก้าอี้ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะสายเกินแก้หรือไม่ โดยนัดนี้ เชฟยู จะนำทัพโดย พอล เฮคคิงบ็อททอม ด้านฟอร์มการเล่นของทีมในช่วง 6 เกมหลังเก็บชัยได้เพียงเกมเดียวและแพ้ยาวไปถึง 5 เกม ล่าสุดเพิ่งจะบุกไปโดน “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ไล่ยิงถล่มหาทางกลับบ้านไม่ถูก 0-5 อย่างไรก็ตามแม้ผลงานในลีกจะห่วยแค่ไหน ในรายการเอฟเอ คัพ พวกเขาก็เดินทางมาได้ค่อนข้างไกล รอบที่ผ่านมาเอาชนะ “เดอะ โรบิ้นส์” บริสตอล ซิตี้ ทีมจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้แบบหวุดหวิด 1-0 ไปดูรายชื่อผู้เล่นที่ไม่พร้อมลงสนามในเกมนี้จะมีอยู่ไม่น้อยถึง 7 รายทั้ง จอห์น อีแกน, ซานเดอร์ แบร์เก้, แจ็ค โรบินสัน, แจ็ค โอคอนเนลล์, แจ็ค ร็อดเวลล์, อีธาน อัมปาดู และฟิล จากีลก้า
วิเคราะห์ก่อนเกม ชั่วโมงนี้ยังมองไม่ออกเลยว่าจะมีมุมไหนที่ทีมเยือนจะได้เดินทางต่อเข้าไปสู่รองรองชนะเลิศได้สำเร็จ เริ่มที่เรื่องฟอร์มการเล่นเจ้าบ้านนอกจากจะไม่แพ้ใครในยุคของ ทูเคิ่ล เกมรับยังแข็งแกร่งสุดๆ 9 เกมหลังสุดเสียประตูเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น และเมื่อไปดูที่เกมรุกของผู้มาเยือน 6 เกมหลังสุดทัพดาบคู่ยิงประตูคู่แข่งได้เพียงประตูเดียวเท่านั้นเช่นกัน ดังนั้นมีโอกาสสูงมากที่พวกเค้าจะเก็บคลีนชีทมาครองได้อีกเกม ด้านชื่อชั้นคุณภาพของทีมไม่ต้องบอกก็ทราบกันดีว่าทัพสิงบลูส์เหนือกว่าแบบคนละชั้น ซ้ำร้ายบรรดาแข้งตัวหลักหลายคนของทัพดาบคู่ยังบาดเจ็บลงสนามช่วยทีมไม่ได้อีกด้วย หวังว่าการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือจะทำให้ทีมเยือนมีอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง แต่การประเดิมเกมแรกของ พอล เฮคคิงบ็อททอม ก็ทำให้ความหวังของแฟนๆต้องดับวูบลงไปทันที หลังโดน เลสเตอร์ จัดงานต้อนรับแบบอลังการรัวยิงไส้แตก 5 ประตู ทรงบอลเกมนี้น่าจะคาดเดาได้ไม่ยาก ฝ่ายเจ้าบ้านจะได้ขึงเกมบุกเข้าใส่อย่างเต็มที่ ส่วนทีมเยือนก็จะต้องทนทุกอย่างที่ถาโถมมาให้ได้และหาจังหวะอันน้อยนิดที่จะมีปล่อยหมัดน็อคออกไป ต้องมาดูว่าเกมนี้จะเกิดตำนานแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ให้เล่นขานอีกหรือไม่ แต่จากปัจจัยหลายๆอย่างที่กล่าวมาทำให้เชื่อได้ว่ามีโอกาสที่ผู้มาเยือนจะบุกมาโดนฆาตรกรรมหมู่เสียมากกว่า
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ด เมนดี้ (GK) – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ – รีส เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ – เมสัน เมาท์, ไค ฮาแวร์ตซ์ – ติโม แวร์เนอร์
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล (GK) – คริส บาแชม, เอ็นดา สตีเว่นส์, คีน ไบรอัน – จอร์จ บัลด็อก จอห์น ลันด์สตรัม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น เฟล็ค, แม็กซ์ โลว์ – บิลลี่ ชาร์ป, โอลิเวอร์ เบิร์ก
ผลสกอร์ที่คาด : เชลซี 3 – 0 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด