บทวิเคราะห์ฟุตบอล ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป เกมการแข่งขันนัดแรกของกลุ่มอี เป็นประเดิมด้วยการปะทะแข้งกันของสองทีมเต็งในกลุ่มระหว่าง “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยี่ยม เปิดสนามเหย้า คิง พาวเวอร์ ในกรุงลูเวิร์น ประเทศเบลเยี่ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “มังกรแดง” ทีมชาติเวลส์ โดยทั้งสองทีมจะลงสนามกันในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 24 มีนาคม เวลา 02.45 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย
เริ่มที่ฝั่งเจ้าบ้าน “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยี่ยม ทีมที่โดนยกให้รั้งอันดับหนึ่งของโลกอยู่ในเวลานี้ ยังคงไว้ใจให้ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมชาวสเปนทำหน้าที่คุมทัพต่อไป หลังพาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยการคว้าแชมป์ลีกเอ กลุ่มสอง โดยตลอดการลงสนาม 6 เกมทัพปีศาจแดงแห่งผืนแผ่นดินยุโรปคว้าชัยชนะมาครองได้ถึง 5 เกมและพลาดท่าแพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ด้วยระยะเวลาที่ปรับแต่งทีมมานานทำให้ เบลเยี่ยม เล่นกันได้อย่างเข้าขารู้ใจ และสไตล์เน้นบุกแหลกก็เข้ากับบรรดาผู้เล่นที่โดนเรียกมาติดทีมชาติในเวลานี้อย่างมาก ซึ่งฟอร์มเกมล่าสุดที่ทำทิ้งเอาไว้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาคือเกมที่เปิดบ้านไล่ยิงถล่มเอาชนะ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก ได้แบบขาดลอย 4-2 ด้านผู้เล่นที่โดนเรียกมาติดทีมชาติชุดนี้ ยังคงมีดาวดังมากันอย่างครบครัน แนวรุกนำมาโดยยอดดาวยิงจากลีกอิตาลี โรเมลู ลูกากู ด้านแดนกลางจะบัญชาการทัพโดยมิดฟิลด์ตัวเก่งของว่าที่แชมป์ลีกอังกฤษ เควิน เดอ บรอยน์ ด้านแนวรับจะมียอดโกลจากลีกสเปน ติโบต์ กูร์กตัวส์ คอยระหวังหลังให้
ทางด้านผู้มาเยือน “มังกรแดง” ทีมชาติเวลส์ อยู่ภายใต้การนำทัพของนักเตะระดับตำนานของประเทศ ไรอัน กิ๊กส์ พาลูกทีมเล่นได้อย่างเหนียวแน่นแพ้ยาก ผิดกับตำแหน่งที่เคยเล่นสมัยเป็นนักเตะที่เป็นผู้เล่นตัวรุกอย่างสิ้นเชิง โดยในรายการยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ได้แสดงฝีมือสุดร้ายกาจพาทัพมังกรแดงจบในฐานะแชมป์ของกลุ่ม ลงสนามไปทั้งหมด 6 เกมไม่แพ้ให้กับคู่แข่งเลยแม้แต่เกมเดียวเก็บชัยชนะมาได้ 5 เกมและเสมออีก 1 เกม และอย่างที่บอกไปว่าเล่นเกมรับกันได้แข็งแกร่งสุดๆ เสียเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้นเองจากทั้งหมดที่ลงสนาม ซึ่งเกมนัดล่าสุดที่ลงสนามเปิดบ้านถล่มเอาชนะ ทีมชาติฟินแลนด์ มาได้ 3-1 ด้านความพร้อมของผุ้เล่นยังไม่มีรายงานว่าแข้งตัวเก่งคนใดมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บมาจากสโมสร โดยนักเตะส่วนใหญ่ที่โดนเรียกมาติดทีมชาติล้วนคุ้นชื่อแฟนบอลชาวไทยเป็นอย่างดี แทบทั้งหมดลงเล่นอยู่ในลีกเมืองผู้ดีอังกฤษ นำทัพมาโดยดาวเตะตัวความหวังที่กำลังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาเข้าร่างได้อีกครั้งอย่าง แกเร็ธ เบล
วิเคราะห์ก่อนเกม เกมนี้ถือว่าเป็นการโคจรมาเจอกันของสองทีมที่สไตล์การเล่นแตกต่างกันคนละทาง เจ้าบ้านเป็นทีมที่เล่นเกมรุกกันได้อย่างจัดจ้านเหลือเกิน ระบบการเล่นของกุนซือ มาร์ติเนซ สมกับที่มีสัญชาติสเปน เน้นการต่อบอลแม่นยำ ครองเกมบุกเข้าใส่คู่แข่ง และข่าวดีของทีมก็คือเจ้าหัวหอกตัวเก่ง โรเมลู ลูกากู กำลังเล่นได้อย่างเข้าข้อดังนั้นจังหวะการจบสกอร์ของทีมน่าจะเฉียบคมขึ้นไปด้วย แต่เกมนี้อาจจะเจาะตาข่ายได้ยากซักหน่อย เมื่อทางคู่แข่งของพวกเค้าเป็นทีมที่เล่นเกมรับกันได้เหนียวแน่นมีระเบียบเหลือเกิน ตัวเลข 4 คลีนชีทจาก 5 เกมหลังที่ลงสนามบ่งบอกได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าทีมที่รับแน่นๆ อาวุธเด็ดก็คือเกมสวนกลับ ซึ่งทัพมังกรแดงชุดนี้มีผู้เล่นที่ความเร็วระดับจรวดอยู่ไม่น้อย ทางเจ้าบ้านจึงจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะแนวรับของทีมก็ไม่ได้แกร่งอะไรมากนัก อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าคุณภาพโดยรวมทาง ปีศาจแดงแห่งยุโรป นั้นเหลือกว่าอยู่พอสมควร เกมนี้ยังได้ลงเล่นในบ้านเกิดเมืองนอน จึงคิดว่าการจะคว้าคะแนนเต็มก็คงไม่ใช่เรื่องยากมากมายอะไรเกินไปนัก
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติเบลเยี่ยม (3-4-2-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK) – เจสัน เดนาเยอร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น – โตมาส์ มูนิเยร์, อั๊กเซล วิตเซล, ยูริ ตีเลอม็องส์, ธอร์ก็อง อาซาร์ – เควิน เดอ บรอยน์, ดรีส์ เมอร์เท่นส์ – โรเมลู ลูกากู
ทีมชาติเวลส์ (4-2-3-1) : เวย์น เฮนเนสซี่ (GK) – คอนเนอร์ โรเบิร์ตส, ทอม ล็อคเยอร์, คริส เมปแฮม, เบน เดวี่ส์ – อีธาน อัมปาดู, แมตต์ สมิธ – แกเร็ธ เบล, แฮร์รี่ วิลสัน, แดเนี่ยล เจมส์ – ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์
ผลสกอร์ที่คาด : เบลเยี่ยม 1 – 0 เวลส์