บทวิเคราะห์ฟุตบอล ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดแรกของกลุ่ม I คู่นี้จะเป็นการพบกันของสองทีมตัวเต็งในกลุ่มนี้ระหว่าง “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เตรียมเปิดสนามเหย้าประจำชาติ เวมบลีย์ รอรับการมาเยือนของ ทีมชาติโปแลนด์ โดยทั้งสองทีมจะลงดวลแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันพุธ 31 มีนาคม เวลา 01:45 น. หรือเข้าสู่วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ฝั่งเจ้าบ้าน “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาท์เกต ออกตัวได้แบบสุดร้อนแรงด้วยการคว้า 6 คะแนนเต็มจาก 2 เกมแรกที่ผ่านมา โดยเกมแรกเจองานง่ายเปิดบ้านไล่ยำใหญ่เจ้าสมันน้อย ทีมชาติซานมารีโน แบบม่มีความปราณี 5-0 ก่อนที่จะบินไปเชือด “อินทรีแดงดำแห่งยุโรป” ทีมชาติแอลเบเนีย ถึงรัง 2-0 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำได้ตามคาดไม่น่าแปลกใจอะไรนักเมื่อดูจากชื่อชั้นของคู่แข่งที่เจอ ซึ่งจากรายชื่อผู้เล่นที่โดนเรียกมาช่วยชาติแทบทั้งหมดสามารถลงเป็นตัวจริงได้ทำให้ทั้งสองเกมมีการลองปรับเปลี่ยนนักเตะไปหลายราย แต่ผลงานก็ยังออกมาดีทั้งหมด การหาผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดจึงเป็นปัญหาเพียงหนึ่งเดียวของ เซาท์เกต ในเวลานี้ ด้านความพร้อมของทีมมี 2 ผู้เล่นที่โดนเรียกมาติดทีมชุดนี้แต่ไม่มีโอกาสลงสนามต้องโดนส่งตัวกลับไปก่อน เนื่องจากโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ บูกาโย่ ซาก้า อย่างไรก็ตามผู้เล่นที่เจ็บไม่จะส่งผลกระทบอะไรกับทีมเลยแม้แต่น้อยจากขุมกำลังที่เหลืออยู่ยังเป็นแข้งดาวดังจากเวทีพรีเมียร์ลีกทั้งสิ้น
ผู้มาเยือน ทีมชาติโปแลนด์ ที่อยู่ภายใต้การทำทีมของกุนซือ เปาโล ซูซ่า เริ่มออกสตาร์ทได้อย่างเร้าใจด้วยการบุกไปไล่แบ่งคะแนนจาก ทีมชาติฮังการี ได้แบบหวุดหวิด 3-3 ส่วนเกมล่าสุดมาเปิดบ้านไล่ยิงถล่ม ทีมชาติอันดอร์รา ได้แบบขาดลอย 3-0 คว้ามาได้ทั้งหมด 4 คะแนน ขยับมารั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงของกลุ่มอยู่ในเวลานี้ สิ่งที่เป็นเด่นของทีมที่เห็นได้ชัดมากคือเกมรุกที่มีความเฉียบคมเหลือหลาย กดไปถึง 6 ประตูจากการลงสนามเพียง 2 เกม แต่เกมนี้ความอันตรายนั้นจะหายไปจนหมดสิ้น เมื่อหลังจากจบเกมที่ถล่ม อันดอร์รา แคมป์ทีมชาติได้รับแจ้งข่าวร้ายถึงอาการบาดเจ็บของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพชรฆาตตัวความหวังสูงสุดของทีมที่มีส่วนช่วยชาติทำมาได้ถึง 3 ประตูแล้วในรายการนี้ ซึ่งยืนยันแล้วว่าเกมนี้ทีมเยือนจะขาดหัวหอกตัวเก่งแน่นอน และในแคมป์ทีมยังต้องระแวงมากขึ้นไปอีกเมื่อ ลูคัสซ์ สโครุปสกี้ ผู้รักษาประตูสำรองโดนตรวจพบเชิ้อโตวิด-19 ส่วนบรรดาแข้งที่เหลือนอกจาก 2 คนที่กล่าวมายังอยู่ในสภาพพร้อมลงสนามทั้งหมด
วิเคราะห์ก่อนเกม ผลงานตลอดการเจอกันในรายการฟุตบอลโลก 5 เกมหลังสุดไม่ว่ารอบไหนเวลาใดก็เป็นฝั่ง ทีมชาติอังกฤษ ที่ทำได้ดีกว่าสามารถเก็บชัยมาได้ 4 เกมและเสมออีก 1 เกมยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ด้านฟอร์มการเล่นของทัพสิงโตคำรามในช่วงหลังหากดูโดยรวมทุกรายการก็เห็นได้ถึงมาตรฐานที่สูงขึ้น นอกจากเกมรุกของทีมจะมีความหลากรายทำประตูได้เยอะแล้ว การปรับมาเล่นระบบหลัง 3 ยังทำให้พวกเขาเสียประตูยากขึ้นอีกด้วยทำให้ทีมแดนผู้ดีเก็บมาได้ถึง 4 คลีนชีทจาก 5 เกมหลังสุดที่ลงสนาม จึงเป็นงานช้างสำหรับผู้มาเยือนอย่างมากหากหวังจะกลับบ้านไปแบบมีคะแนนติดมือเป็นของฝาก แม้ชื่อชั้นของผู้เล่นหลายคนของโปแลนด์จะคุ้นหูคุ้นตาอยู่บ้างแต่ยังขาดคุณภาพ ยิ่งไปกว่านั้นการขาดหายไปของ เลวานดอฟสกี้ ที่ประตูกว่าครึ่งของโปแลนด์ได้มาจากดาวยิงรายนี้ มันจึงเป็นแผลที่ใหญ่มากที่แทบจะหาทางรักษาไม่ได้เลยด้วยคลาสที่เขามีเป็นเพียงคนเดียวที่ดูจะเป็นจุดเปลี่ยนให้ชาติได้ นอกจากเกมรุกจะโดนลดความอันตรายลดไปแล้วเกมรับของทีมก็ยังไว้ใจไม่ได้นัดแรกก็โดนถลุงมาถึง 3 ประตู แม้เกมที่ผ่านมาจะเก็บคลีนชีทได้ก็ควรเป็นเช่นนั้นหากดูจากชื่อชั้นคู่แข่ง ทั้งฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา, คุณภาพของทีมและความพร้อมตัวผู้เล่นชี้ไปทางเดียวกันว่า ทีมชาติอังกฤษ ควรจะเก็บ 3 คะแนนเต็มได้ในเกมนี้
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติอังกฤษ (4-3-3) : ดีน เฮนเดอร์สัน (GK) : คีแรน ทริปเปียร์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, ลุค ชอว์ – เมสัน เมาท์, เดแคลน ไรซ์, ฟิล โฟเด้น – เจสซี่ ลินการ์ด, แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ทีมชาติโปแลนด์ (3-4-1-2) : วอจเซียจ เซสนี่ (GK) – บาร์ตอสซ์ เบเรสซีนสกี้, คามิล กลิค, ยาน เบดนาเร็ก – มาเตอุสช์ กลิค, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, ราฟาล ออกุสติเนียค, อาร์คาดิอุสซ์ เรก้า – ปิเอโตร เซียลินสกี้ – อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค, คริสตอฟ เปียเท็ค
ผลสกอร์ที่คาด : อังกฤษ 2 – 0 โปแลนด์