บทวิเคราะห์ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ ตามโปรแกรมของฟีฟ่าเดย์ เป็นการกันระหว่าง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เตรียมเปิดสนาม บีจี สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ทีมชาติบาห์เรน โดยทั้งสองทีมจะลงดวลแข้งกันในช่วงหัวค่ำของวันอังคารที่ 31 พฤษภาคม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY และ ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32 และหากเพื่อนๆสนใจบท วิเคราะห์บอล คู่อื่นๆ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ 168kick.com เช่นเคย
วิเคราะห์บอล ไทย บาห์เรน
เริ่มกันที่ฝั่ง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ล่าสุดรั้งอยู่อันดับที่ 111 ของโลก ผลงานของชุดใหญ่ถือว่าดูดีพอสมควร ไม่แพ้ใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว โดยล่าสุดเพิ่งจะเฉือนเอาชนะ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ได้แบบหวุดหวิด 1-0 ในเกมอุ่นเครื่องของฟีฟ่าเดย์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาพความพร้อมล่าสุดจะได้ผู้เล่นจากสองสโมสรใหญ่ของประเทศที่เพิ่งจบภารกิจกันเข้ามาสมทบเพิ่มเติม ไม่มีนักเตะบาดเจ็บจากเกมที่ผ่านมา แต่เชื่อว่ากุนซือ มาโน่ โพลกิ้ง จะเลือกโรเตชั่นนักเตะหลายตำแหน่ง เพื่อให้โอกาสโชว์ฝีเท้าก่อนที่จะคัดเลือกหา 23 คนสุดท้ายไปลุยศึกฟุตบอลเอเชียน คัพ รอบคัดเลือกที่มีคิวจ่อลงเล่นในช่วงเดือนที่กำลังจะถึงนี้
ทางด้าน ทีมชาติบาห์เรน ทีมอันดับที่ 89 ของโลก ถือว่ากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจเช่นกัน ฟอร์มการเล่นช่วง 5 เกมหลังค่อนข้างยอดเยี่ยม เก็บชัยชนะได้ถึง 4 เกม และแพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ล่าสุดเพิ่งจะลงเล่นเกมอุ่นเครื่องเอาชนะเพื่อนบ้านของเราอย่าง ทีมชาติเมียนมา แบบไม่ยาก 2-0 ทางด้านความพร้อมของผู้เล่นไม่มีรายงานนักเตะที่บาดเจ็บมาจากเกมที่ผ่านมา ทั้งหมดยังพร้อมช่วยทีมลงบูี คิดว่ากุนซือ เฮลลิโอ ซูซ่า จะยังเลือกยึดใช้งานผู้เล่นตัวจริงจากเกมที่แล้วเป็นหลัก นำทัพมาโดย มาห์ดี้ อับดุลจาบบาร์ ดาวยิงความหวังสูงสุดของทีม
วิเคราะห์ก่อนเกม
คู่นี้เจอกันล่าสุดต้องย้อนไปถึงรายการ เอเชียนคัพ เมื่อช่่วงต้นปี 2019 ซึ่งเกมนั้นทีมชาติไทยเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้แบบหวุดหวิด 1-0 และหากไปดูสถิติที่เจอกันออกแนวจบแบบเฉือนๆห่างกันไม่เกินประตู หรือบางครั้งก็ออกหน้าเสมอ ด้วยคุณภาพของผู้เล่นไทยชุดนี้มองว่าอาจจะดูดีกว่าด้วยซ้ำ ทางเว็ปต่างๆจึงเสนอราคาให้ ช้างศึก เป็นต่ออยู่นิดหน่อย ฝั่ง บาห์เรน ตามธรรมดาของคนแถบนั้นมักจะมีรูปปร่างที่สูงใหญ่กว่าชาวเอเชียแถบอื่นๆ เป็นที่เล่นเกมรับได้แย่างเหนียวแน่น แม้ฝั่งผลิตประตูค่อนข้างฝืดเคืองยิงประตูได้น้อย ส่วน ไทย ตามสไตล์การทำทีมของกุนซือ มาโน่ โพลกิ้ง เป็นทีมที่เน้นการเล่นบอลบนพื้นเป็นหลัก คงอาศัยความคล่องตัวกว่าเพื่อหาทางเข้าโจมตี เชื่อว่าจะมีโอกาสจบสกอร์พอสมควร ต้องรอดูว่าเกมนี้จะยิงได้คมแค่ไหน ด้านหลังบ้านก็มีการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นเก็บคลีนชีทมาได้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุด ทีมชาติไทยดูมีพัฒนาการที่ดีชึ้นมากกว่าเดิม เกมนี้ยังจะได้ลงเล่นในประเทศบ้านเกิด ที่สนามคุ้นเคยกว่าอีก ดังนั้นคนรักชาติอย่างผมขอเลือกลงทุนกับทัพช้างศึกคงจะมีความหวังทีจะได้ผลตอบแทนมากกว่า
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติไทย(4-3-3) : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK) – ทริสตอง โด, จักพัน ไพรสุวรรณ, เฉลิมศักดิ์ อักขี, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา – พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, เชาว์วัตน์ วีระชาติ – ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, บดินทร์ ผาลา, อดิศักดิ์ ไกรษร
ทีมชาติบาห์เรน(4-3-3) : โมฮัมเหม็ด จาฟเฟอร์ (GK) – อับบาส อายยัด, อามีน เบนาดี้, วาลีด อัล ฮายาม, ราเชด อัล ฮูติ – อาลี ฮารัม, มูฮัมมัด อับดุลวาฮับ, ยาสซิม อัล ชาอิคห์ – อิบราฮิม อัล-คาตัล, มะฮ์ดี อัลฮุมัยดาน, มาห์ดี้ อับดุลจาบบาร์
ผลที่คาด ทีมชาติไทย 1 – 0 ทีมชาติบาห์เรน