บทวิเคราะห์ฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ซึ่งเป็นรายการแข่งขันของชาติในทวีปยุโรป เกมที่สองลีก เอ กลุ่มที่สาม เป็นเกมใหญ่ระหว่างสองอริอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน เตรียมเปิดสนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า รับมือกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ โดยทั้งสองคู่แค้นจะลงวัดฝีเท้ากันในช่วงดึกของวันอังคารที่ 7 มิถุนายน เวลา 01.45 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้ามืดของวันพุธที่ 8 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน
เจ้าบ้าน เยอรมัน ลูกทีมของ ฮันส์ ดีเตอร์-ฟลิค ยังอยู่ในช่วงที่วางรากฐานให้กับทีม หลังเข้ามารับงานใหญ่ระดับชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งมีความแตกต่างในการเตรียมตัว เตรียมทีม กับการคุมทีมระดับสโมสรไม่น้อย ผู้เล่นตัวเก๋าหลายราย ที่เคยเป็นแกนหลักในยุคก่อน มีทั้งกลุ่มที่ผ่านเกณฑ์ได้ไปต่อ กับพวกที่หลุดโผไปจากทีมเรียบร้อยแล้ว สายเลือดดใหม่ที่ก้าวขึ้นมาทดแทน ยังคงต้องเก็บประสบการณ์อีกมากพอสมควร นักเตะที่เรียกมาติดทีมชุดนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิดกับทีมชั้นนำ บวกกับสตาร์ที่ออกไปผจญภัยต่างประเทศ เกมนัดเปิดหัวรายการนี้ทำได้ไม่แย่นัก ด้วยการบุกไปยันเสมอ อิตาลี แชมป์ยูโรได้ถึงถิ่น 1-1 โชคดีที่ไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนให้ต้องตัดชื่อออกจากทีมแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมลงสนามช่วยทีมได้แบบไร้ปัญหา ซึ่งมองถึงการคว้าสามแต้มเหนือคู่แค้นแน่นอน ความหวังสูงสุดในการล่าตาข่ายเกมนี้ ต้องฝากไว้กับ เซิร์จ นาบรี้ แนวรุกสาระพัดประโยชน์ ที่มีทีเด็ดอยู่ที่จังหวะการสอดขึ้นไปยิงประตู
ฝั่งทีมเยือน อังกฤษ ภายใต้การคุมทัพของ แกเร็ธ เซาท์เกต กุนซือจอมอินดี้ ที่มักจะจัดทัพและเรียกตัวผู้เล่นขัดใจแฟนบอลเสมอ สไตล์การเล่นยังคงถูกแอนตี้จากแฟนบอลเหมือนเคย เพราะเป็นบอลเน้นบอล พยายามครองเกม ครองบอล ป้อไปป้อมา แต่หาจังหวะจบไม่ค่อยได้ จะรุกก็รุกไม่เต็มตัว เหมือนใช้ศักยภาพนักเตะได้ไม่เต็มที่ ผู้เล่นที่เรียกมาติดทีมชุดดนี้ เป็นขุนพลชั้นนำจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แทบทั้งหมด มีเพียงแค่บางรายที่ออกไปโชว์ฝีเท้าโดดเด่นนอกประเทศ เกมเปิดหัวทัวร์นาเมนต์นี้บุกพ่าย ฮังการี แบบช็อคโลก 0-1 ทั้งที่ศักยภาพของทีมเหนือกว่าชัดดเจน แต่กลายเป็นว่าเร่งเกมไม่ขึ้นเอาเสียเอง พอเวลาเหลือน้อยก็เริ่มกดดันตัวเอง ทำอะไรก็ผิดพลาดไปเสียหมด สภาพทีมล่าสุดดยังไม่มีรายงานนักเตะเจ็บ หรือติดโทษแบนห้ามลงสนามสักรายเดียว สามารถเลือกผู้เล่นในมือลงสนามได้ตามแทคติกส์ที่ต้องการทุกคน นำทัพมาโดย แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่ง ที่ต้องเค้นฟอร์มขึ้นมาช่วยทีมอย่างหนัก หากหวังจะมีแต้มกลับไปในเกมนี้
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่า ไม่มีฝั่งใดเหนือกว่ากัน ด้วยผลงานชนะ 2 นัดด เสมอ 1 นัด และแพ้ 2 นัดทั้งคู่ เป็นบอลสามหน้าที่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะไปมา ขึ้นอยู่กับว่า ณ ตอนนั้น ฟอร์มของทีมไหนกำลังเข้าฝักมากกว่ากัน เยอรมัน นัดนี้มีโอกาสได้เล่นในรัง ยังไม่มีเกมปลดดล็อคเก็บชัยชนะแบบน่าพึงพอใจ หวังใช้นัดนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ต่อหน้าแฟนบอลเมืองเบียร์ คงเปิดเกมรุกบดใส่ตั้งแต่เสียงนกหวีดดังขึ้น ฉวยโอกาสเร่งเกมแบบไม่ให้คู่แข่งไหวตัวทัน อาศัยความวูบวาบจากตัวริมเส้นทั้งสองฝั่งเป็นอาวุธหนัก ส่วนทางผู้มาเยือน สิงโตคำราม เดาทางไม่ยากเพราะเป็นบอลสายป๊อด เน้นความแน่นอนในเกมรับ ยิ่งเกมใหญ่แบบนี้ยิ่งเน้นเป็นพิเศษ คงพยายามมายื้อ หวังซื้อผลเสมอกลับบ้านเป็นอย่างน้อย เนื่องจากการได้หนึ่งแต้มกลับไป ไม่ใช่ผลการแข่งขันที่น่าเกลียด เชื่อว่ารูปเกมจะออกมาเป็นการชิงจังหวะของสองฝ่าย สุดท้ายการลงเอยกันไปด้วยผลเสมอ มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เยอรมัน (4-3-3) : มานูเอล นอยเออร์ (GK) – เบนจามิน เฮนริชส์, นิคลาส ซูเล่อ, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ติโล่ เคห์เร่อร์ – โยชัว คิมมิช, อิลคาย กุนโดกัน, โธมัส มุลเลอร์ – เซิร์จ นาบรี้, ติโม แวร์เนอร์, เลรอย ซาเน่
อังกฤษ (3-4-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์, เดแคลน ไรซ์, คาลวิน ฟิลลิปส์, คีแรน ทริปเปียร์ – บูกาโย ซาก้า, แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ผลสกอร์ที่คาด : เยอรมัน 1 – 1 อังกฤษ