วิเคราะห์บอล ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมคู่เดือด นัดส่งท้ายของฤดูกาล โดยจะเป็นศึกชิงตั๋วฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกระหว่าง “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ รับหน้าที่เจ้าบ้าน ต้อนรับการมาเยือนของทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟุตบอลคู่เดือดนัดนี้ จะลงทำการแข่งขันกันในเวลา 22.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม ที่สนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เรามาเริ่มจากทางฝั่งเจ้าบ้านกันก่อน “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ผู้ทำเซอไพร์ทะลุขึ้นมาอยู่หัวตาราง จากผลงานสุดยอดในช่วงต้นฤดูกาล แต่ครึ่งฤดูกาลหลังต้องบอกว่าฟอร์มหายไปดื้อๆ โดยเฉพาะหลังจากพักเบรก พวกเค้าลงเล่น 8 นัด เก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัด เสมอ 3 และแพ้ถึง 3 เกม เก็บได้เพียง 9 คะแนน ทำให้ปัจจุบันหล่นมาอยู่อันดับ 5 ของตาราง ซึ่งเกมล่าสุดนั้นบุกไปแพ้ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มา 0-3 ยังดีที่ผลงานในบ้านฤดูกาลนี้ทำได้ค่อนข้างดี แพ้ไปเพียงสามนัดต่อ ลิเวอร์พูล, เซาแธมป์ตัน และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น เกมนัดนี้ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องชนะเพียงสถานเดียวเท่านั้น ด้านความพร้อมของนักเตะในทีม จะขาดสามนักเตะสำคัญในแนวรับอย่าง ริคาร์โด้ เปเรยร่า, คักลาร์ โซยุนคู และ เบน ชิลเวลล์ รวมถึงดาวเตะเนื้อหอมอย่าง เจมส์ แมดดิสัน แม้กระทั่งแบ็คซ้ายสำรองอย่าง คริสเตียน ฟุคส์ ด้วยเช่นกัน ซึ่งเกมนี้ก็คงยังจะต้องใช้งาน ลุค โทมัส แบ็คซ้ายดาวรุ่งอ่อนประสบการณ์ที่พลาดนับครั้งไม่ถ้วนในเกมล่าสุดกับ สเปอร์ส
มาต่อกันทางฝั่งทีมเยือนกันบ้าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับกลายเป็นคนละทีมหลังจากได้ตัว บรูโน่ เฟร์นานเดส เพลย์เมกเกอร์ตัวเดียวเสียวทั้งลีก มาร่วมทีมในเดือนมกราคม ซึ่งทางทัพเรด เดวิลส์ นั้นทำสถิติไม่แพ้ใครมา 19 เกมติด ก่อนที่จะมาแพ้ต่อ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 1-3 ในรายการเอฟเอ คัพ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมเกมล่าสุดเริ่มออกอาการล้า ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 จนทำให้ต้องมาลุ้นระทึกกันถึงในเกมสุดท้าย แต่ฟอร์มหลังกลับมาแข่งถือว่ายังพอได้อุ่นใจ หลัง 8 เกมนั้นไร้พ่าย โดยเป็นการชนะถึง 5 นัด และหลุดเสมอไป 3 นัด เกมนี้ขอเพียงมีแต้มก็จะนอนกอดตั๋ว รอไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปในซีซั่นหน้าได้เลย ด้านความพร้อมในทีมนั้นเกมนี้น่าจะส่ง อารอน วาน บิสซาก้า คืนตัวจริง หลังเกมล่าสุดเป็นเพียงสำรองแล้วลงมาเล่นหลังจากพักครึ่ง ส่วนหน้าเดิมอย่าง ฟิล โจนส์, ลุค ชอว์ และ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ น่าจะพลาดในเกมนี้เช่นเดิม
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการเจอกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน ด้วยผลงานชนะ 4 นัด และเสมอ 1 นัด ซึ่งทั้งคู่ต่างอยู่ในช่วงฟอร์มขาลงไว้ใจไม่ได้ เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นนอกจากเรื่องผู้เล่นตัวหลักถูกอาการบาดเจ็บรบกวนแล้ว สิ่งสำคัญที่แก้ไม่ได้สักที คือ ทัศนคติของผู้จัดการทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ ที่ออกอาการมั่นใจมากเกินไปเหมือนสมัยที่เขาคุม ลิเวอร์พูล อยู่ดีๆ ก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นของทีมที่กำลังไปได้สวยจนฟอร์มหลุด แถมแผงหลังที่เคยเป็นจุดขายกลับกลายเป็นจุดบอด เมื่อต้องปรับเอาดาวรุ่งมาผสมกับนักเตะวัยชราอย่าง อีแวนส์ และ มอร์แกน ที่เล่นผิดพลาดเหมือนดาวเตะไร้ประสบการณ์แบบไม่น่าเชื่อ ส่วนทีมเยือน ปัญหาที่เห็นได้ชัด คือความฟิตของนักเตะตัวหลักที่ออกอาการล้าอย่างชัดเจนในนัดล่าสุด เพราะทาง น้าโอเล่ ตะบี้ตะบันใช้งานผู้เล่นชุดเดิมติดต่อกันมาโดยตลอด หลังพ้นช่วงพักเบรกกลับมาแข่งใหม่ ยิ่งเฉพาะในรายของ บรูโน่ เพลย์เมกเกอร์ตัวแบกนั้นเริ่มอยู่ในจุดที่เล่นไม่ออกเพราะร่างกายเริ่มร่ำร้องขอชีวิตแล้ว ยังดีที่เอาตัวรอดพ้นความพ่ายแพ้นัดล่าสุดมาได้จากความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุก 3M เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามเกมนี้เป็นการชิงตั๋วยูซีแอล ที่สำคัญต่ออนาคตของทั้งสองทีมมากๆ รูปเกมคงออกมาแบบอึดอัดเล่นตามจังหวะ เนื่องจากไม่มีฝ่ายไหนต้องการเพลี่ยงพล้ำเสียประตูไปก่อน ดังนั้นเชื่อว่าท้ายที่สุดโอกาสที่ผลการแข่งขันจะออกหน้าเสมอแบบมีสกอร์เป็นไปได้มากที่สุด แล้วฝ่ายที่ยิ้มออกหลังจบเกมย่อมเป็น สาวกเรด อาร์มี่ ที่ได้เห็นทีมรักกลับสู่เวทีถ้วยหูใหญ่อีกครั้ง เหมือนกับคำทำนายล่วงหน้าของซูเปอร์คอมพิวเตอร์
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-3) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK) – ไรอัน เบนเน็ตต์, เวส มอร์แกน, จอนนี่ อีแวนส์ – เจมส์ จัสติน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอม็องส์, ลุค โทมัส – อโยเซ่ เปเรซ, เจมี่ วาร์ดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (GK) – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดลอฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ – ปอล ป็อกบา, เนมานย่า มาติช – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล
ผลสกอร์ที่คาด : เลสเตอร์ ซิตี้ 1 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด