บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก นัดแรกของลีกเอ กลุ่มที่สอง เป็นการโคจรมาพบกันของ ทีมชาติไอซ์แลนด์ เปิดสนามเหย้า เลาการ์สดัลวอลลูร์ ต้อนรับการมาเยือนของขวัญใจมหาชนอย่าง “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ โดยทั้งสองทีมจะลงปะทะกันในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ที่ 5 กันยายน เวลา 23.00 น. ที่เมืองเรย์กยาวิค ประเทศไอซ์แลนด์
เจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ ภายใต้การคุมทัพของ เอริค แฮมเรน ครั้งที่แล้วผลงานในรายการนี้จบบ๊วยของลีกเอ กลุ่มสอง แพ้รวดทั้งหมดสี่นัดคว้าไม่ได้แม้แต่แต้มเดียวถือว่าย่ำแย่สุดๆ ส่วนผลงานในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือก จบเพียงอันดับสามของกลุ่มเอช ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่จะเลื่อนมาแข่งในปีหน้าได้ ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดเป็นเกมกระชับมิตรลงเล่นกันที่สนามกลาง ประเทศแคนาดา เบียดเอาชนะ เอล ซัลวาดอร์ หวุดหวิด 1-0 นักเตะที่เรียกมาติดทีมชุดนี้ส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในยุโรปแต่ไม่ได้สังกัดสโมสรระดับชั้นนำจึงไม่คุ้นชื่อมากนัก ซึ่งนักเตะที่เป็นตัวชูโรงในชุดนี้คงหนีไม่พ้น เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน กองกลางตัวเก่งที่ติดทีมชาติมาแล้วกว่า 83 นัด
ทีมเยือน “สิงโตคำราม” อังกฤษ ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาท์เกต หลังจากคว้าที่สี่จากศึกฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด ยังสามารถคงมาตรฐานในระดับที่อยู่ในเกฌฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง ผลงานในรายการนี้เมื่อครั้งก่อนสามารถคว้าแชมป์กลุ่มเอสี่ ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในรอบเพลย์ออฟนั้นแพ้ต่อ “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติฮอลแลนด์ ในรอบตัดเชือก 1-3 ก่อนที่จะดวลเป้าเอาชนะ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ในรอบชิงที่สาม ส่วนในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป สามารถจบรอบคัดเลือกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอ โดยเก็บได้ 21 คะแนนจาก 8 นัด ซึ่งเกมนัดล่าสุดนั้นบุกถล่ม โคโซโว แบบราบคาบ 4-0 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สำหรับขุนพลที่เรียกมาติดทัพในรอบนี้มีหน้าใหม่ที่เตรียมประเดิมสนามหลายราย เนื่องจากตัวเก๋าหลายคนประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ อาทิเช่น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เดเล่ อัลลี รวมถึงสองกองหลังตัวหลักในช่วงหลังอย่าง จอห์น สโตนส์ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่รายหลังมีเรื่องชกต่อยในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วน มาร์คัช แรชฟอร์ด กับ แฮร์รี่ วิงค์ส นั้นถอนตัวไปในช่วงสุดท้าย
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกันสองนัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าไม่มีทีมใดเหนือกว่ากันผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะทีมละนัด อย่างไรก็ตามโฉมหน้าผู้เล่นและผู้จัดการทีมก็ต่างผลัดใหม่เป็นยุคใหม่แล้ว ฟอร์มในช่วงหลังก็ต่างกันแบบคนละขั้ว เจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ อยู่ในช่วงขาลงเนื่องจากผู้เล่นในเกมรุกตัวหลักนั้นโชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แถมแนวรับก็ยังต้องดึงตัวเก๋าที่เข้าสู่ช่วงบั้นปลายการค้าแข้งมาติดทีมอยู่เลยเพื่อประคองคนอื่นๆ ส่งผลให้กลายเป็นจุดอ่อนที่ฝั่งตรงข้ามจ้องจะโจมตีด้วยการใช้ผู้เล่นที่มีความคล่องตัวสูง ตรงกันข้ามกันผู้มาเยือน อังกฤษ ที่นักเตะแต่ละรายกำลังอยู่ในวัยพีคของการค้าแข้งทำให้กราฟฟอร์มของทีมนั้นแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ แนวรุกแต่ละคนความสามารถเฉพาะตัวสูงมากชงเองกินเองได้ทุกคน แนวรับก็เล่นได้อย่างมีมาตรฐานคงเส้นคงวา จุดอ่อนอย่างเดียวคือบางครั้งนักเตะอาจนัดกันฟอร์มหลุดแบบไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน ดังนั้นเชื่อว่าเกมนี้ อังกฤษ ที่มีแนวรุกที่เป็นนักเตะในรูปแบบที่เจ้าถิ่นแพ้ทางจะบุกมาเอาชนะได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก แต่อาจจะยิงไม่ขาด หากประตูแรกนั้นมาช้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติไอซ์แลนด์ (4-4-2) : ฮานเนส ฮัลล์ดอร์สสัน (GK) – อัลฟอนส์ แซมป์สเตด, คารี อาร์นาสัน, สเวอร์เรีย อิงกาสัน, ฮอเรอร์ แม็กนุสสัน – อันดรี บัลเดอร์สสัน, เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน, ซามูเอล ฟรีดยอนส์สัน, มิกคาเอล อันเดอร์สัน – โคลเบอินน์ ซิกธอร์สสัน, อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สสัน
ทีมชาติอังกฤษ (3-4-2-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล คีน, แฮร์รี่ แม็คไกวร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์, เดแคลน ไรซ์, แฮร์รี่ วิงค์ส, เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, มาร์คัส แรชฟอร์ด – แฮร์รี่ เคน
ผลสกอร์ที่คาด : ทีมชาติไอซ์แลนด์ 0 – 2 ทีมชาติอังกฤษ