บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก นัดที่สาม ลีกเอ กลุ่มที่สอง คู่บิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลต่างจับตามอง เป็นการดวลฝีเท้ากันระหว่างรองจ่าฝูง “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เปิดสยามเหย้าอันเก่าแก่อย่าง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยี่ยม จ่าฝูงของกลุ่มในปัจจุบัน โดยทั้งสองทีมจะลงปะทะกันในช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม เวลา 23.00 น. ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เจ้าถิ่น “สิงโตคำราม” อังกฤษ ภายใต้การคุมทัพของอดีตกองหลังชื่อดัง แกเร็ธ เซาท์เกต ที่พาทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงหลัง แม้จะถูกปรามาศตั้งแต่มารับตำแหน่งว่ามือไม่ถึง แต่ในปัจจุบันเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถนำทีมได้ดีกว่ากุนซือชื่อดังหลายคน ผลงานการลงเล่นในรายการนี้สองนัดคว้าไป 4 แต้ม จากการบุกไปเฉือน ทีมชาติไอซ์แลนด์ หวุดหวิด 1-0 และนัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก แบบไร้สกอร์อย่างน่าเสียดาย สำหรับผู้เล่นที่เรียกมาติดทีมชุดนี้ยังคงยึดตัวหลักจากชุดก่อน ผสมผสานกับหน้าใหม่ที่เพิ่งติดทีมชาติเป็นนัดแรกอย่าง บูกาโย ซาก้า, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน ซึ่งอายุเฉลี่ยของนักเตะชุดนี้ถือว่าน้อยเอามากๆ เพราะเน้นดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมาและทำผลงานได้น่าจับตามอง ด้านนักเตะที่พลาดสายตาไม่ได้ในนัดนี้ย่อมเป็น แฮร์รี่ เคน ดาวยิงกัปตันทีมที่เพิ่งซัดแฮตทริกมาในเกมลีกนัดล่าสุด
ฝั่งทีมเยือน “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยี่ยม ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ฟอร์มในช่วงหลังถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการระดับชาติเลยก็ตาม แต่แค่ชื่อชั้นของนักเตะที่เรียกมาติดทีมนั้นก็ขู่คู่แข่งให้ขนพองสยองเกล้าได้มากพอตัวเพราะไม่ว่าจะเป็นกองหลัง, กองกลาง และกองหน้า ต่างมีฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์ทั้งนั้น ฟอร์มการเล่นในรายการนี้นับว่าไร้ที่ติลงสนามสองนัดคว้า 6 คะแนนเต็ม จากการบุกไปชนะ “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก สบายเท้า 2-0 และต่อด้วยการเปิดบ้านถล่ม ทีมชาติไอซ์แลนด์ แบบบอลคนละชั้น 5-1 นักเตะที่เรียกมาติดทีมชุดนี้ล้วนแต่เป็นผู้เล่นหน้าเดิมที่ค้าแข้งอยู่กับทีมระดับท็อปในยุโรปเกือบทั้งสิ้น บวกกับหน้าใหม่ที่เพิ่งมาติดทีมครั้งแรกอย่าง โดดี้ ลูเกบากิโย่, โยริส คาเรมเบ้ และ เซบาสเตียน บอร์นาว เป็นต้น ด้านสตาร์ที่ประมาทไม่ได้ในเกมนี้หนีไม่พ้น เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางจอมทัพที่โชว์ผลงานระบือไปทั่วยุโรป
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าไม่มีฝ่ายใดเหนือกว่ากันด้วยผลงานชนะ 2 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 2 นัดทั้งคู่ ฟอร์มของ สิงโตคำราม ชั่วโมงนี้ตกลงไปเล็กน้อยเนื่องจากมีการปรับแต่งผู้เล่นที่เรียกมาติดทีมหลายตำแหน่ง รวมไปถึงปรับมาเล่นแผงหลังสี่คนเลยทำให้ต้องใช้เวลาจูนอีกพอสมควร แต่แนวรุกของทีมยังคงไว้ใจได้หาพื้นที่ว่างได้ยอดเยี่ยม เหลือเพียงแค่จบสกอร์ให้คมเท่านั้น ปัญหาที่ต้องระวังในเกมนี้หนีไม่พ้นแนวรับที่ตัวหลักบางรายฟอร์มหลุดเหลือเกินในชั่วโมงนี้ ส่วนทางผู้มาเยือน ปีศาจแดงแห่งยุโรป ขุมกำลังนั้นแน่นปึ้กไร้ปัญหาให้ต้องกังวลใดๆ เพียงแค่เลือกจิ้มคนที่พร้อมที่สุดลงสนามเท่านั้น ซึ่งศักยภาพของผู้เล่นแต่ละรายก็ไม่ได้มีฝีเท้าต่างกันเลยน่ากลัวทุกคน เกมรุกมีตัวป้อนระดับโลกอย่าง เดอ บรอยน์ ตัวจบสกอร์ก็มี ลูกากู ที่ทำผลงานยามเล่นทีมชาติได้อย่างน่าเกรงขาม แนวรับเซ็นเตอร์แบ็คทั้งสามคนล้วนสอดประสานได้อย่างลงตัว เมื่อเทียบหลายๆ องค์ประกอบแล้วเหมือนว่า เบลเยี่ยม จะเป็นต่ออยู่นิดๆ ตามหน้าเสื่อ แต่เชื่อว่าเจ้าถิ่นยังคงมีทีเด็ดและความใจสู้ยามเล่นในรังของตัวเอง โอกาสที่จะลงเอยด้วยผลเสมอแบบมีสกอร์คงเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากนักเตะแต่ละคนคงเล่นเซฟตัวเองเพื่อกลับไปลุ้นทำผลงานในระดับสโมสรต่อไป
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติอังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ไมเคิ่ล คีน, เบน ชิลเวลล์ – เดแคลน ไรซ์, แฮร์รี่ วิงค์ส – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เมสัน เมาท์, มาร์คัส แรชฟอร์ด – แฮร์รี่ เคน
ทีมชาติเบลเยี่ยม (3-4-2-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK) – เจสัน เดนาเยอร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น – ทิโมธี กาสตานเญ่, อั๊กเซล วิตเซล, ยูริ ตีเลอม็องส์, ธอร์ก็อง อาซาร์ – เควิน เดอ บรอยน์, ดรีส์ เมอร์เท่นส์ – โรเมลู ลูกากู
ผลสกอร์ที่คาด : ทีมชาติอังกฤษ 1 – 1 ทีมชาติเบลเยี่ยม